December 2020 : สถาบันนโยบายศึกษา : Institute of Public Policy Studies (IPPS)

วุฒิภาวะทางการเมือง

      สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ปรากฏอยู่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ คงทำให้หลายภาคส่วนของสังคมกังวลถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นเหมือนเช่นในอดีต โดยเฉพาะเมื่อคนรุ่นใหม่ที่เป็นทั้งเด็กเยาวชน จากมัธยมศึกษา ถึงอุดมศึกษาได้ออกมาแสดงออกถึงเสรีภาพที่มีความคิดอ่านทางการเมือง อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และมีความใฝ่ฝันถึงอนาคตของตนและสังคมในภายภาคหน้า

      การแสดงออกทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม และสังคมควรเปิดใจยอมรับและสนับสนุน หากการแสดงออกซึ่งความคิดเหล่านั้นมีเจตนาเพื่อประโยชน์โดยรวมของทั้งสังคม อีกทั้ง การแสดงออกนั้นไม่ไปย่ำยีและละเมิดศักดิ์ศรี คุณค่าของมนุษย์ผู้หนึ่งผู้ใด ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานะใดของสังคม

      ที่ผ่านๆ มา “ม็อบคนรุ่นใหม่” หรือ “ม็อบปลดแอก” ฯลฯ มักมีถ้อยคำที่หยาบคาย หยามเหยียด และเหยียบย่ำ ต่อผู้ที่กล่าวพาดพิงถึง ซึ่งไม่สะท้อนตัวตนว่า สารที่สื่อและส่งออกมานั้น มีสาระและตรรกะที่ดีและก้าวหน้าพอที่จะเรียกว่าเป็นคนรุ่นใหม่ หรืออยากจะปลดแอกความเลวร้ายไปสู่สิ่งใหม่หรือสิ่งที่ดีกว่าเดิมแต่อย่างใด เพราะทุกถ้อยคำและบุคลิกลักษณะได้บ่งบอกถึงวุฒิภาวะทั้งทางความคิด ความรู้ ค่านิยม ที่ไม่สอดรับกับความเป็นคนในสังคมประชาธิปไตย ไม่ใช่การแสดงออกที่บอกความขัดแย้งอย่างอารยะที่พึงกระทำ

      ภาพสะท้อน แสดงออกถึงวุฒิภาวะทางการเมืองของคนไทย ไม่ว่ารุ่นเก่าก่อนหรือรุ่นใหม่ ที่แสดงออกทางการเมืองเพื่อเอาชนะทางการเมือง เฉพาะกลุ่มพวกของตน โดยไม่มองภาพรวมที่จะเกิดผลตามมา เป็นวุฒิทางการเมืองที่ขาดการกล่อมเกลาหล่อหลอมที่พึงได้เรียนรู้จากสถาบันการศึกษา ซึ่งควรเป็นสถานที่บ่มเพาะให้ฝึกการคิดต่างและเคารพการคิดที่ไม่เหมือนกัน การยอมรับและนับถือในเหตุผลที่แต่ละคนมี คือการมองเห็นศักดิ์ศรีและคุณค่าของผู้อื่นว่าเป็นคนเสมอกับเราที่คิดเป็น คิดได้ พลาดได้ ผิดได้ ก็ ให้เกียรติกัน และร่วมมือกันให้เกิดสิ่งที่เป็นคุณค่าและเป็นประโยชน์ร่วมกันของสังคมได้ เยาวชนทุกคนควรได้ผ่านการกล่อมเกลาวิธีคิด และบุคลิกลักษณะเหล่านี้ในโรงเรียน ให้เป็นประสบการณ์ ให้เป็นต้นกล้าที่จะเผชิญในอนาคต เพราะโรงเรียนคือที่บ่มเพาะผู้เรียนให้ อ่านออก เขียนได้ และคิดเป็นทางการเมือง การเข้าใจทางการเมืองจึงต้องค่อยเป็นค่อยไปจากเด็กเล็กจนโตพอที่จะใช้สิทธิการมีส่วนร่วมทางการเมือง เมื่อไปใช้สิทธิการเลือกตั้ง เขาจะได้มีวิธีคิดและการตัดสินใจลงคะแนนเลือกตั้งบนพื้นฐานของความรู้ทางการเมืองที่เพียงพอ และมีวิจารณญาณในการฟังและการเลือก ไม่ใช่เชื่อจากคำบอกเล่า จากเพื่อน จากสื่อ ที่ส่งในอัตราเร่งแบบยัดเยียด แล้วก็เชื่อตามแบบง่ายๆ

      การเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองของคนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่ง จึงขาดชุดความรู้ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ของชาติไทย เพราะไม่ได้ปลูกฝังผ่านการศึกษาในระบบ ซึ่งมักจะเป็นระบบสอนให้จำและต้องทำตามครู และนำไปสอบ เรื่องการเรียนรู้ทางการเมืองที่ควรจะเป็นจึงไม่อยู่ในสาระบบการศึกษาไทย ผู้ร่วมกิจกรรมทางการเมืองจึงเข้ามาสู่การเมืองโดยตรง และเป็นประสบการณ์ตรงที่ไม่ได้ผ่านการฝึกฝน บ่มเพาะ ความเป็นนักประชาธิปไตย หรือการเป็นผู้มีวัฒนธรรมทางการเมืองประชาธิปไตย

      นอกจากนี้ ในฟากของนักการเมืองรุ่นใหม่จำนวนหนึ่ง ก็ยังมีลักษณะการหาเสียงทางการเมืองเพื่อเอาชนะทางการเมืองแต่ฝ่ายเดียว โดยไม่พิจารณาดูว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางการเมืองสำหรับเยาวชน จึงได้เห็นโครงการของพรรคการเมืองในโรงเรียนต่างๆ เต็มไปหมด โดยที่ผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่ตระหนักว่าสถานศึกษาคือที่บ่มเพราะวัฒนธรรมทางการเมืองประชาธิปไตย หาใช่ “ยุทธภูมิทางการเมืองของนักการเมืองไม่” โรงเรียนจึงอาจจะกลายเป็นสมรภูมิการเมืองได้ไม่ยาก หากทุกพรรคการเมืองต่างต้องการเข้าไปทำการรณรงค์ทางการเมืองด้วยกิจกรรมแอบแฝงต่างๆ

      การศึกษากับการเมือง แยกกันไม่ออก และไม่ควรแยกจากกัน ตราบเท่าที่เราสามารถที่จะให้ความรู้ทางการเมืองการปกครองประชาธิปไตยให้ถูกที่ ถูกทาง และตรงกับเป้าหมายอย่างสร้างสรรค์
      การศึกษาในโรงเรียนเป็นปัจจัยที่จะทำให้ “คน” เป็น “พลเมือง” ตั้งแต่ต้นทาง โรงเรียนจึงเป็นตัวแปรการเคลื่อนไหวอันสำคัญยิ่งในการจรรโลง รักษา และพัฒนาระบบประชาธิปไตย โรงเรียนจึงต้องทำให้เป็นที่ “รู้” เรื่องการเมือง และสาธารณกิจอย่างดี แล้วรู้สึกร่วมรับผิดชอบเรื่องส่วนรวมและการเมือง และรู้คุณค่าหลักการประชาธิปไตย คือสร้างวุฒิภาวะความเป็นพลเมืองประชาธิปไตยผ่านระบบการศึกษา

      การมีวุฒิภาวะทางการเมืองประชาธิปไตย จึงต้องกลับไปพิจารณาว่าคนไทยได้ผ่านการหล่อหลอมทางการเมืองจนมีวัฒนธรรมพลเมืองหรือไม่ อยากให้สังคมได้ช่วยกันคิดอ่าน และแก้ไขด้วยกัน

ทิพย์พาพร ตันติสุนทร
ผู้อำนวยการ สถาบันนโยบายศึกษา

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกับสังคมไทย

หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานไตรภาคของสถาบันนโยบายศึกษา โดยผลงานสองภาคแรกคือปฐมภาคเป็นงานเสวนาทางวิชาการถึง 6 ครั้ง ผลงานทวิภาคเป็นงานสัมมนาทางวิชาการที่เป็นการระดมนักวิชาการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมาเข้าร่วม...

รายละเอียด...

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

PDF download

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พฤศจิกายน 2563 : โพลเปิดเผยความเห็น ปชช. ต่อม็อบราษฎร

ดุสิตโพลเผยการเมือง‘ขัดแย้ง’-‘ยื้อเวลา’

นิด้าโพล: ปชช. เชื่อชุมนุมยืดเยื้อ- รัฐยอมข้อเรียกร้องม็อบ

ซูเปอร์โพลชี้ ม็อบต้องการปฏิรูปการศึกษามากกว่า 'สถาบัน'

ซูเปอร์โพล : 88.3%...

รายละเอียด...

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


ทำไมการเมืองไทยจึงตุหรัดตุเหร่ไปไม่ถึงไหน อริสโตเติล (Aristotle) นักปรัชญาการเมืองชาวกรีกโบราณกล่าวไว้ว่า “การปกครองระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่ระบอบการปกครองที่ดีที่สุด แต่เป็นการปกครองที่เลวน้อยที่สุด” และเมื่อพิจารณาจากประกาศคณะราษฎรในการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแบบเดิมมาเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตย...... รายละเอียด...
อัลกอริทึมและอนาคตของสังคม อัลกอริทึม (Algorithm) ปรากฏอยู่ทุกๆ ที่ในโลก และได้แทรกซึมเข้าไปในการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ อัลกอริทึม คือ ระบบอัตโนมัติที่กำหนดให้คอมพิวเตอร์สามารถคิดและวิเคราะห์ รวมถึงสังเคราะห์ข้อมูลทดแทนมนุษย์ ...... รายละเอียด...
ขออยู่ร่วมกันอย่างสงบ ผมเป็นอดีตนักเรียนมัธยม ปัจจุบันเป็นนักศึกษาปี 1 น้องใหม่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำลังทำหน้าที่ของตนคือการศึกษาเล่าเรียน หวังว่าวันหนึ่งจะเติบโตไปเป็นพลเมืองที่ดี และนำทักษะความรู้ไปพัฒนา “บ้าน” ของตนเอง...... รายละเอียด...

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เว็บไซต์แนะนำ

Konrad Adenauer Foundation

Public Law Net : เครือข่ายกฎหมายมหาชน

Thai NGO : ไทยเอ็นจีโอ องค์กรพัฒนาเอกชน

เครือข่ายรัฐสภาไทย

รายละเอียด...

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -