สถาบันนโยบายศึกษา : Institute of Public Policy Studies (IPPS)

การสื่อสารทางการเมือง

      การเลือกตั้งใหญ่ผ่านไปแล้ว หลังจากว่างเว้นมานาน และผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการประกาศไปแล้ว และต้องรอผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พฤษภาคม จึงจะทราบแน่ชัดว่าพรรคใดได้ ส.ส.จำนวนเท่าใด

      บรรยากาศโดยทั่วไปในวันเลือกตั้งนับว่าคึกคักไม่น้อย จากการที่คนให้ความสำคัญไปต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่เช้าเพื่อลงคะแนนเสียงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

      ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าที่จัดขึ้นก่อนในประเทศก็มีประชาชนไปเป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงคาดการณ์กันว่าวันเลือกตั้งจริงคนจะมากแน่นอน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น

      ส่วนต่างประเทศก็มีความตื่นตัวไม่แพ้กัน แสดงว่าคนไทยส่วนใหญ่ให้ความสนใจการเมือง และให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

      ผลการเลือกตั้งมีพรรคที่ได้คะแนนเสียงโดดเด่น คือพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับต้น ตามด้วยพรรคพลังประชารัฐ พรรคอนาคตใหม่ พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนั้นก็เป็นพรรคเล็กๆ ที่ได้ที่นั่งไม่มาก

      ผลเป็นเช่นนี้เพราะประชาชนคัดสรรจากการสื่อสารทางการเมืองที่แต่ละพรรคส่งผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งเดินพบปะ การปราศรัย การติดโปสเตอร์ แผ่นพับ การออกในรายการวิทยุ/โทรทัศน์ และรวมทั้งการใช้สื่อสารสมัยใหม่อย่างสื่อสังคมซึ่งมีรูปแบบหลากหลาย

      การสื่อสารทางการเมือง หัวใจสำคัญคือ เนื้อหาสาระที่จะส่งออกไปสู่สาธารณะ ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อทำให้คนสนใจและติดตาม ไม่ให้เบื่อการเมือง และยังต้องสร้างความนิยมให้กับพรรคการเมือง และนักการเมืองด้วย ชุดความรู้ที่สื่อสารออกไปจึงควรกระตุ้นให้คนต้องการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง กับพรรคหรือนักการเมือง ชนิดที่เกาะติดการเมือง พรรคการเมืองต้องมีความชัดเจน และมีความน่าเชื่อถือได้ว่าจะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง

      การสื่อสารทางการเมืองจึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ของทุกคน และมีเป้าหมายที่ความมั่นคง ผาสุกของประเทศ

      แต่อย่างไรก็ตาม การรณรงค์ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้มีลักษณะของการแบ่งแยกและสร้างขั้วแต่ละข้างอย่างเป็นอริต่อกัน มากกว่าจะเน้นความเป็นปึกแผ่นแน่นหนาของสังคม คือการสร้างการยอมรับความเห็นต่าง โดยแต่ละพรรคหาเสียงในจุดดีจุดเด่นที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ และนักการเมืองก็ต้องเป็นตัวแบบของการแสดงออกที่สร้างสรรค์ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ให้ความสำคัญกับเสถียรภาพ ความสงบสุข ความมั่นคงของสังคมมากกว่าสิ่งใด

      การสื่อสารทางการเมืองจึงเสมือนหนึ่งเป็นการให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์กับสังคม และรวมถึงเป็นการสื่อถึงความตั้งใจที่จะไม่ทำให้เกิดวิกฤติความแตกแยก ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมประเทศ นี่จึงเป็น “คุณค่า” ที่ควรสื่อสารออกไปในขณะนี้

      การแก้ปัญหาของประเทศนั้น ต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเข้าไปเป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือฝ่ายอิสระ

      การเป็นมนุษย์การเมือง ก็คือ คนที่คิดและพูดด้วยการวิเคราะห์ โดยมีเป้าหมายคือความห่วงใยต่อประชาชน หาใช่เรื่องอื่นใดไม่ เพราะทุกครั้งที่หาเสียงก็ล้วนแล้วแต่อ้างประชาชนทั้งสิ้น

ทิพย์พาพร ตันติสุนทร
ผู้อำนวยการ สถาบันนโยบายศึกษา