พฤศจิกายน 2561 : "กกต." แบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. ทั่วประเทศ 350 เขต "กกต." แบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. ทั่วประเทศ 350 เขต ครม. เตรียมชง ลดหย่อนภาษีประชาชนบริจาคเงินเข้าพรรคการเมืองไม่เกิน 1 หมื่น คกก. ยุทธศาสตร์ชาติไฟเขียว 23 แผนแม่บท กำหนด 15 ประเด็นเร่งด่วน สนช. รับหลักการ กม.ปลดล็อคกัญชา เร่งพิจารณา 60 วัน มติ "สนช." โหวตเห็นชอบ "เลิศวิโรจน์-ฐิติเชฏฐ์" นั่ง กกต. มติ สนช. เอกฉันท์ เห็นชอบร่าง กม.ให้เบี้ยประชุมศาลยุติธรรม สนช. มีมติเอกฉันท์เห็นชอบกฎหมายภาษีที่ดิน เริ่มจัดเก็บ 1 ม.ค. 63 ครม. เห็นชอบปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ยา สนช. แก้ ร่าง พ.ร.บ.พิจารณาความอาญา ให้สิทธิพิจารณาคดีลับหลังจำเลย มติ สนช. เอกฉันท์ 164 เสียง ตั้ง "กก.-กองทุนประชารัฐ" สภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคมไตรมาส 3/2561 การจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 ประกาศ กกต. แบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ทั่ว ปท. 350 เขต       เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ คณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2561 ขยายเวลาให้ กกต. มีอำนาจดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งให้แล้วเสร็จก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับ หรือภายในวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 350 เขตเลือกตั้ง       คาดว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 โดยใช้ข้อมูลจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักรไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 รวม 66.18 ล้านคน โดยใช้เกณฑ์ประชากร 1.89 แสนต่อผู้แทน 1 คน ถ้าจังหวัดใดมีจำนวน ส.ส.ไม่เกิน 1 คน ให้ถือเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง และจังหวัดใดมี ส.ส.เกิน 1 คน ให้แบ่งเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้งมีจำนวนเท่ากับ ส.ส.ที่จะพึงมี ทั้งนี้ จังหวัดที่จะมี ส.ส.มากที่สุดคือ กทม. 30 คน รองลงมาคือนครราชสีมา 14 คน ขอนแก่นและอุบลราชธานีจังหวัดละ 10 คน รวมทั้งสิ้น 350 คน ครม. เตรียมชง ลดหย่อนภาษี ประชาชนบริจาคเงินเข้าพรรคการเมือง       เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในหลักการ ร่างพระราชบัญญัติเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ในมาตรการภาษี เพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่พรรคการเมือง ตาม พ.ร.ป. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองตามที่กระทรวงการคลังเสนอโดยให้ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนแล้วส่งให้ วิป สนช. มีสาระสำคัญคือกำหนดให้บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองไม่เกิน 10,000 บาท สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ รวมไปถึงบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินให้พรรคการเมืองไม่เกิน 50,000 บาท ก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยเช่นกัน รวมไปถึงเงินจากการระดมทุนของพรรคก็ถือเป็นเงินบริจาคเช่นกัน ไฟเขียวแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ 15 เรื่องเร่งด่วน 5 ปี       เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีมติเห็นชอบในหลักการการกำหนดประเด็นการพัฒนาเร่งด่วนในช่วงระยะ 5 ปีแรกของยุทธศาสตร์ชาติใน 15 ประเด็น โดยจำแนกออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. การแก้ไขปัญหาพื้นฐานของประเทศ 2. การดูแลยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน 3. การรองรับการเจริญเติบโตอย่างเป็นระบบและยั่งยืน และ 4. การสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมจำนวน 15 ประเด็น ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถนำเสนอรายละเอียดต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในช่วงกลางเดือนมกราคม 2562 ต่อไป สนช. รับหลักการ กม.ปลดล็อคกัญชา       เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...) พ.ศ. .... เพื่อปลดล็อคยาเสพติดประเภทกัญชาและกระท่อม ภายใต้เงื่อนไขเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค ซึ่ง สนช. นำโดยนายสมชาย แสวงการ เป็นผู้เสนอ และเป็นการพิจารณาหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับไปพิจารณาและส่งคืนมาให้ สนช. โดยที่ประชุมมีมติรับหลักการ ด้วยเสียงเห็นชอบ 145 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง โดยได้ตั้งกรรมาธิการฯ จำนวน 29 คนเพื่อพิจารณาตามกรอบ 60 วัน สนช. โหวตเห็นชอบ 'เลิศวิโรจน์ - ฐิติเชฏฐ์' นั่ง กกต.       เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ลงมติเห็นชอบให้ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฎ ที่ปรึกษาสภาทนายความ ดำรงตำแหน่ง กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลังจากพิจารณารายละเอียดของรายงานตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ที่กรรมาธิการตรวจสอบฯ ได้เสนอต่อที่ประชุม และได้ลงคะแนนเป็นการลับในคูหา ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 กำหนดให้ กกต. มีจำนวน 7 คน โดยหลังจาก สนช. เห็นชอบ 2 บุคคลดังกล่าว ทำให้คณะกรรมการ กกต. มีจำนวนครบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว สนช. ผ่านร่าง กม.ไฟเขียวเบี้ยประชุมศาล ต้องจ่ายค่าเบี้ย 207 ล้านบาทต่อปี       เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมีติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม (ฉบับที่... ) พ.ศ. .... เพื่อกำหนดบทบัญญัติให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมสามารถออกระเบียบเพื่อกำหนดเบี้ยประชุมของข้าราชการตุลาการที่เข้าร่วมการประชุมใหญ่ในศาลชั้นอุทธรณ์และศาลฎีกาได้ ด้วยเสียงเอกฉันท์ 145 เสียง ทั้งนี้ หากร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้จะทำให้ต้องจัดงบประมาณเพื่อจ่ายค่าเบี้ยประชุมในการประชุมใหญ่ของศาลฎีกาและชั้นอุทธรณ์ รวม 207,360,000 บาทต่อปี แบ่งเป็นการประชุม 2 ครั้งต่อเดือน และ 24 ครั้งต่อปี สนช. มีมติเอกฉันท์เห็นชอบกฎหมายภาษีที่ดิน       เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ 169 เสียง เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เริ่มจัดเก็บภาษี 1 มกราคม 2563 หลังจากที่ใช้เวลาพิจารณาถึง 19 เดือน       สาระสำคัญของกฎหมายคือกำหนดการจัดเก็บภาษีเป็น 4 ประเภท คือ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างในการประกอบเกษตรกรรม ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่อยู่อาศัย ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่น เช่น สำหรับอุตสาหกรรม และที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ ซึ่งจัดเก็บอัตราภาษีที่แตกต่างกัน โดย 2 ประเภทหลังเก็บภาษีมากที่สุด       ทั้งนี้ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม และที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่อาศัยหรือบ้านหลังแรก มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาทได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี       อนึ่งกฎหมายฉบับนี้มีบทเฉพาะกาลยกเว้นและลดการจัดเก็บภาษีในช่วง 2-3 ปีแรก มติ ครม. เห็นชอบปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ยา       เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอแก้ไขปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ยา โดยเพิ่มเติมข้อกำหนดในการแต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้เชี่ยวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานรัฐ และเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ในกระบวนการพิจารณาอนุญาตนอกเหนือจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้กระบวนการพิจารณารวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น       พ.ร.บ.ยา ประกาศใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 จึงได้มีการปรับปรุงให้มีความทันสมัย และเหมาะสมกับการนำไปใช้จริง สนช. แก้ร่าง กม.พิจารณาคดีลับหลัง       เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบ การแก้ไข ร่าง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่... )พ.ศ. .... ด้วยเสียงเอกฉันท์ 162 เสียง เพื่อปรับเนื้อหาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการไต่สวนมูลฟ้อง ให้เอื้อต่อการคุ้มครองสิทธิของจำเลย กรณีให้อำนาจศาลตั้งทนายความให้กับจำเลย กรณีที่จำเลยไม่มีทนายความ เพื่อให้การต่อสู้คดี ทั้งการได้ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเป็นไปอย่างรอบด้าน       นอกจากนั้นยังกำหนดให้ในชั้นพิจารณาคดี หากจำเลยไม่มาศาลเพื่อรับฟังการพิจารณาและสืบพยาน รวมถึงกรณีที่ศาลไม่สามารถสืบพยานต่อไปจนกว่าจะได้ตัวจำเลย หรือกรณีไม่มีผู้แทนนิติบุคคลมาดำเนินการแทนนิติบุคคลที่ถูกฟ้อง ให้ศาลมีอำนาจพิจารณาไต่สวนได้ ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวได้วางเงื่อนไข คือ หากศาลเห็นว่าจำเลยหลบหนีหรือไม่มาฟังการพิจารณา และสืบพยานโดยไม่มีเหตุอันควร ให้ศาลออกหมายจับจำเลย หากไม่ได้ตัวจำเลยมาภายใน 3 เดือนนับตั้งแต่วันออกหมายจับ ให้ศาลมีอำนาจพิจารณาสืบพยานลับหลังจำเลยได้ รวมถึงมีคำพิพากษาในคดีนั้นได้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และพิจารณาไม่ชักช้า มติ สนช. เอกฉันท์ ตั้ง 'กก.-กองทุน ประชารัฐ'       เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดการประชารัฐสวัสดิการ เพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ. .... เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ต่อยอดนโยบายและโครงการประชารัฐที่เกิดในสมัยรัฐบาล ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯ ให้เป็นนโยบายและโครงการที่กฎหมายรองรับ และจัดตั้งกองทุนประชารัฐ เพื่อนำไปใช้ในโครงการหรือมาตรการต่างๆ ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ด้วยเสียงเอกฉันท์ 164 เสียง ส่วนผลการบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว กำหนดให้มีผลบังคับใช้ทันทีหลังวันถัดจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา สศช. รายงานภาวะสังคมไตรมาส 3/2561       เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสามปี 2561 ซึ่งมีความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญ ได้แก่ การจ้างงานการจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งภาคเกษตรและนอกภาคเกษตรเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ไตรมาส หนี้สินครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มีสัญญาณปัญหาการชำระหนี้ การเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังโดยรวมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจและโรคหัด และต้องเฝ้าระวังโรคอุบัติซ้ำที่ระบาดจากการเดินทางข้ามประเทศ ค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ลดลง คดียาเสพติดเพิ่มขึ้น ต้องให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังสารเสพติดและการป้องกันปัญหาอาชญากรรมที่ตามมา การเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ทุกภาคส่วนต้องเร่งลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และการฆ่าตัวตายโดยอัตราการฆ่าตัวตายในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง แต่พบว่ามีคนที่พยายามฆ่าตัวตายมากกว่าผู้ที่ฆ่าตัวตายสำเร็จถึงกว่า 10 เท่าตัว       การยกระดับความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยในมิติแรงงาน ในปี 2561 World Economic Forum ได้เผยแพร่รายงานดัชนีความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก 4.0 พบว่า ภาพรวมประเทศไทยถูกจัดลำดับความสามารถทางการแข่งขันอยู่อันดับที่ 38 จาก 140 ประเทศทั่วโลก