นักศึกษาวิทยาลัยชุมชนจังหวัดระนอง กับการสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง       สถาบันนโยบายศึกษา โดยการสนับสนุนของมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ ร่วมกับวิทยาลัยชุมชนระนอง ได้ร่วมกันจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง วัฒนธรรมทางการเมืองประชาธิปไตย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561 ณ ห้องแก้วเจ้าจอม เฮอริเทจ แกรนด์ คอนเวนชั่น อ.เมือง จ.ระนอง       การจัดงานครั้งนี้อยู่ภายใต้โครงการ “การให้การศึกษาทางการเมืองเพื่อพัฒนาวัฒนธรรมประชาธิปไตย” ซึ่งสถาบันฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ และต้องการสร้างเวทีในที่ต่างๆ ตลอดทั้งปี เพื่อให้เรื่อง “วัฒนธรรมทางการเมืองประชาธิปไตย” ได้ปลูกสร้างขึ้นในสังคมไทย ซึ่งประกอบด้วยวิถีชีวิตของสังคมการเมือง (ระบบคุณค่า, อุดมการณ์ และการประพฤติปฏิบัติ) ซึ่งจำเป็นต้องสร้างให้เกิดขึ้นในตัวของพลเมืองให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของสังคมประชาธิปไตย ซึ่งอยู่ในค่านิยมสากล       ผู้แทนมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ Mr.Georg Gafron ได้ให้เกียรติเดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ และได้กล่าวเปิดงานว่า มูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ สนับสนุนคุณค่าประชาธิปไตย และทำงานอยู่ทั่วโลกกว่า 120 ประเทศ สำหรับประเทศไทย เป็นประเทศที่มีความร่วมมือด้วยนานที่สุดในภูมิภาคเอเชีย คือ 37 ปี ซึ่งมูลนิธิฯ ให้ความสำคัญกับค่านิยมประชาธิปไตย (Democratic Values) อย่างยิ่ง การจัดงานครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นเวทีของการถกเถียงโครงสร้างพื้นฐานของประชาธิปไตย คือ การเคารพในความเป็นมนุษย์ การเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น ซึ่งมีความหมายคือ เราไม่ใช่หนึ่งเดียวในโลก หรือนึกถึงแต่ตนเองคนเดียว แต่ต้องมองคนที่อยู่ห่างไกลออกไป เพราะเราต้องเคารพว่าแต่ละคนมีเอกลักษณ์ ซึ่งควรได้รับการเคารพและยอมรับในสิ่งนี้ และนี่คือสิ่งที่นำมาซึ่งสันติภาพและความสงบสุข และจากการได้เรียนรู้พุทธศาสนา พระพุทธเจ้าก็ทรงให้ความสำคัญในเรื่องศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นมนุษย์ เมื่อศึกษาเปรียบเทียบกันระหว่างพุทธศาสนาและศาสนาคริสต์ ก็รู้สึกว่าหลายอย่างมีพื้นฐานใกล้เคียงกัน แม้ว่าจะไม่ได้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง ความเข้าใจเช่นนี้มิได้หมายความว่าเราต้องยอมรับทุกอย่าง หากแต่ต้องพร้อมนำเสนอความเห็นที่แตกต่าง คือต้องสามารถต่อสู้เพื่อความคิดเห็นของตนเอง “ซึ่งหลักการของศาสนาคือสอนให้เราเป็นคนดี แต่การเป็นคนดีก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ไม่ฉลาด”       ผอ.วิทยาลัยชุมชนระนอง ผอ.ปรารมณ์ นาคบำรุง ได้กล่าวต้อนรับว่า ขอขอบคุณมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ และสถาบันนโยบายศึกษา ที่ให้เกียรติจัดงานร่วมกับวิทยาลัยชุมชนในครั้งนี้ และเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นสำหรับนักศึกษาด้านรัฐศาสตร์ของวิทยาลัยที่มาในวันนี้ ที่จะได้รับความรู้และประสบการณ์ในการร่วมสร้างวัฒนธรรมการเมืองในแนวทางประชาธิปไตย ซึ่งนักศึกษาจะสามารถนำไปใช้และประพฤติปฏิบัติในชีวิตจริง และทำให้เกิดการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างมีวัฒนธรรม และกล่าวอีกด้วยว่า ทางวิทยาลัยชุมชน ซึ่งทำงานร่วมกับสถาบันนโยบายศึกษามาหลายปีติดต่อกันอยู่แล้ว ก็ยินดีที่จะร่วมงานกันอีกในปีต่อๆ ไปด้วย        คุณวรินทร์ เทียมจรัส อดีตสมาชิกวุฒิสภา ได้เป็นวิทยากรในช่วงเช้า พูดถึงวัฒนธรรมว่า เป็นสิ่งที่เป็นทั้งความเชื่อและแนวทางปฏิบัติต่อๆ กันมา ในด้านความหมายแล้ว วัฒนธรรมก็คือวิธีปฏิบัติของมนุษย์ที่ดีงาม ที่ถูกสั่งสมสืบทอดต่อๆ กันมา ซึ่งคนโดยทั่วไปเข้าใจอยู่แล้ว แต่วัฒนธรรมทางการเมืองนั้น คือวิถีทางการนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศชาติด้วยระบบการเมืองประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ในทางปฏิบัติจึงต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญคืออุดมการณ์ของชาติ และวิถีปฏิบัติของคนทุกภาคส่วนในชาติ ที่จะทำให้ประเทศเกิดความมั่นคง ซึ่งต้องผ่านกระบวนการสร้างขึ้น เพื่อฝึกฝนและเรียนรู้จนซึมซับอยู่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งต้องมีการเรียนรู้ ทำความเข้าใจเรื่องการเมือง ความเข้าใจเนื้อหาสาระรัฐธรรมนูญ รูปแบบของรัฐ รูปแบบการปกครอง อำนาจอธิปไตย และการใช้อำนาจ พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรม ไปจนกระทั่งถึงอำนาจหน้าที่ต่างๆ ขององค์กรรัฐ และบทบาทหน้าที่ของพลเมือง กับการมีส่วนร่วมทางการเมือง เป็นต้น ซึ่งความเข้าใจและศรัทธาต่ออุดมการณ์ทางการเอง และอุดมการณ์ของชาติ จะทำให้ทุกคนในชาติเข้าไปมีส่วนร่วมในการร่วมพัฒนาการเมืองอย่างมีวัฒนธรรมได้        คุณสมชาติ เจศรีชัย อดีตรองเลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการให้การศึกษาทางการเมืองแก่ประชาชนอย่างเข้าใจและทั่วถึงทุกช่วงวัย จะทำให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางไม่เฉพาะแต่ไปมีส่วนร่วมในวันเลือกตั้งเท่านั้น เพราะการเมืองและการเลือกตั้งของไทยนั้น มักจะเน้นที่รณรงค์ให้คนไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ทำให้ประชาชนไม่เข้าใจความเป็นประชาธิปไตยแท้จริง และคิดว่าการเลือกตั้งคือวิถีทางเดียวของประชาธิปไตย แม้ว่าการเลือกผู้แทนจะเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อคัดเลือกตัวแทนของประชาชนก็ตาม แต่การสร้างการรับรู้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้เพื่อการรู้ทันทางการเมือง การรู้จักติดตามข่าวสารการเมือง และรู้จักคิดพิจารณาเลือกสิ่งที่ดีสำหรับประเทศให้ไปในทิศทางก้าวหน้า โดยพิจารณาจากการเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้งนั้น ประชาชนจำเป็นต้องมีชุดความรู้ที่เพียงพอเพื่อการเป็นผู้ที่จะฉลาดเลือกหาตัวแทนของตนอย่างมีวิจารณญาณ มากกว่าการถูกครอบงำหรือชี้นำจากความคิดของผู้อื่น นอกจากนี้ วิทยากรยังได้ให้ความรู้เรื่องพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองและการเลือกตั้งที่หากจะมีขึ้นในอนาคต ตั้งแต่ความเข้าใจเรื่องระบบไพรมารีโหวต (Primary Vote) การลงคะแนนเลือกตั้งแบบแข่งเขตเลือกตั้ง การ Vote no ระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ระบบการจัดสรรปันส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น ซึ่งการเลือกตั้งแบบใหม่นี้ มีการเปลี่ยนแปลงทั้งวิธีคิดและวิธีปฏิบัติ จึงจำเป็นที่ประชาชนทั่วไปจะต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อนวันไปเลือกตั้ง       การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ สร้างความตื่นตัวทางความคิด ความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งจากวิทยากร และนักศึกษาอย่างมาก เนื่องจากทั้งแนวคิดเรื่องการสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง และเรื่องการเลือกตั้งแบบใหม่ยังไม่เป็นที่เข้าใจและรับรู้แก่ประชาชนในวงกว้าง จึงทำให้การจัดงานครั้งนี้ได้ทำหน้าที่จุดประกายความคิดและแนวทางปฏิบัติให้เกิดขึ้นแก่คณาจารย์และนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนระนอง เพื่อการเผยแพร่ในวงกว้างต่อไปในจังหวัดระนอง