เมษายน 2560 : “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 2560” “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 2560” เผยแพร่แล้วในราชกิจจาฯ สนช. เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ "ครม." อนุมัติวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ 26 ต.ค. 60 เป็นวันหยุดราชการ วันเฉลิมพระชนม์ฯ ร.10 28 ก.ค.และสวรรคต ร.9 13 ต.ค. เป็นวันสำคัญชาติไทย ครม. อนุมัติงบ 2,076 ล้านบาท สร้างศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคต "ครม." มีมติขยายเวลายกเว้นภาษีเงินได้วิสาหกิจชุมชนต่ออีก 3 ปี ครม. เห็นชอบกรอบวงเงิน 25,871 ลบ. หนุนโครงการผลิตข้าวครบวงจรปี 60/61 นายกรัฐมนตรีอนุมัติงบกลาง 5,000 ล้านบาท บรรเทาปัญหาโรงพยาบาลขาดทุน ครม. ไฟเขียวร่างกฎหมายลูก พ.ร.บ.ประกันสังคม 3 ฉบับ เพิ่มสิทธิประโยชน์แรงงานนอกระบบ เลื่อนชั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ 2 ขั้นให้ 721 เจ้าหน้าที่ "คสช." ครม. เห็นชอบผู้ประกันตนขาดส่งเกิน 20 ปี กลับเข้าโครงการประกันสังคมได้ “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 2560” เผยแพร่แล้วในราชกิจจาฯ       เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 ภายหลังจากมีพระราชพิธีประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม แล้ว เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 นับเป็นการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับถาวรฉบับใหม่ อย่างเป็นทางการ นับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 20 ของประเทศไทย มีเนื้อหาทั้งหมด 279 มาตรา รวมบทเฉพาะกาล และเป็นรัฐธรรมนูญที่ได้รับความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติถึง 16 ล้านเสียงเศษ คิดเป็นร้อยละ 61.35 จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิออกเสียงประมาณ 30 ล้านคน หรือร้อยละ 60 ของผู้มีสิทธิทั้งหมด โดยผลที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ คือ       1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ซึ่งใช้มาประมาณ 2 ปีเศษ เป็นอันสิ้นสุดลง       2. ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ คณะรัฐมนตรีชุดนี้จะยังคงอยู่ต่อไป เช่นเดียวกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง แม้แต่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ก็จะยังคงอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง       3. สิทธิเสรีภาพของประชาชนจะมีเพิ่มขึ้น       4. มีภารกิจสำคัญ 2 เรื่อง ที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่บัญญัติให้ต้องทำ คือ การวางยุทธศาสตร์ชาติระยะยาว เพื่อกำหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศ ทั้งในทางการเมือง การปกครอง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม       นอกจากนี้ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ต้องจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับ ให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน แต่ละฉบับจะเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ซึ่งจะต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 2 เดือน หากมีการแก้ไขเพิ่มเติม ก็จะใช้เวลาเพิ่มอีกประมาณ 1 เดือน ต่อจากนั้น จึงนำทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ประกาศใช้เป็นกฎหมายภายใน 90 วัน เมื่อประกาศใช้กฎหมาย 4 ฉบับแรก เฉพาะที่จำเป็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งครบถ้วนแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาของการเลือกตั้ง อันประกอบด้วย การสมัครรับเลือกตั้ง การรณรงค์หาเสียง และการลงคะแนน โดยรัฐบาลไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าวันเลือกตั้งจะเป็นเมื่อใด เพราะยังไม่อาจกำหนดวันเริ่มต้นของแต่ละเหตุการณ์ได้ บัดนี้ เราทราบเพียงวันเริ่มต้นนับหนึ่งของเหตุการณ์แรก คือ การประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ต่อจากนั้น เหตุการณ์อื่นๆ ก็จะขับเคลื่อนเลื่อนไหลไปตามลำดับ สนช. ผ่านร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ       เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2560 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติเอกฉันท์ 196 เสียง เห็นชอบในหลักการของร่าง พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยมีผู้งดออกเสียง 3 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 33 คน แปรญัตติ 15 วัน และมีกรอบการดำเนินการ 60 วัน โดยมีสาระสำคัญ คือ การกำหนดให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งจะต้องไม่น้อยกว่า 20 ปี เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่างๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการกัน รวมทั้งเพื่อให้แผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี ครม.อนุมัติวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพเป็นวันหยุดราชการ       เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบวันถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 5 วัน ระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560 โดยกำหนดให้วันที่ 26 เป็นวันหยุดราชการเพียงวันเดียว เนื่องจากเป็นวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยกรรมการที่ดูแลเรื่องดังกล่าวจะพิจารณาวันหยุดเพิ่มเติมหากจำเป็น วันเฉลิมพระชนมพรรษา ร.10- 28 ก.ค. และวันสวรรคต ร.9- 13 ต.ค. เป็นวันสำคัญชาติไทย       ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ 24 เมษายน 2560 ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กําหนดวันสําคัญของชาติไทย โดย วันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และวันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประกาศ ณ วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2560 ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กําหนดเวลาทํางานและวันหยุดราชการ (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2560 ให้ วันที่ 28 กรกฎาคม และ 13 ตุลาคม เป็นวันหยุดราชการ ทั้งนี้ ให้ยกเลิกวันหยุดราชการ วันที่ 5 พฤษภาคม งบ 2 พันล้านสร้างศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคต       เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบสร้างโครงการศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคต หรือ Futurium ในกรอบวงเงินงบประมาณปี 2560 วงเงิน 2,076 ล้านบาท โดยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ดำเนินการทั้งด้านการก่อสร้าง ตกแต่งอาคารสถานที่ จัดทำโครงสร้างนิทรรศการและงานระบบต่างๆ รวมทั้งพัฒนานิทรรศการบางส่วน ในกรอบวงเงิน 1,600 ล้านบาท และดำเนินการขอรับการสนับสนุนเงินนอกงบประมาณมาสมทบเพิ่มเติมวงเงิน 476 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ หรือ อพวช. เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2561-2564 ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับการดำเนินงานจริงของโครงการจนแล้วเสร็จต่อไป ครม. ต่ออายุมาตรการภาษีวิสาหกิจชุมชนต่ออีก 3 ปี       เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบขยายเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับวิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล ซึ่งมีเงินได้ปีละไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ออกไปอีก 3 ปี สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560-31 ธันวาคม 2562 สำหรับการต่ออายุมาตรการดังกล่าว จะช่วยบรรเทาภาระภาษีให้กับวิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และเติบโตเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในอนาคต เพื่อเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของภาครัฐได้อย่างทั่วถึง งบ 2.5 หมื่น ลบ. หนุนโครงการผลิตข้าวครบวงจร       เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปี 60/61 (ด้านการผลิต) รวม 3 โครงการระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2560-2564 วงเงินทั้งสิ้น 25,871 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ 2560 จำนวน 1,087.05 ล้านบาท ในการดำเนินงาน 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการส่งเสริมการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมคุณภาพดี วงเงิน 57 ล้านบาท โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแปลงใหญ่ วงเงิน 411.02 ล้านบาท และโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ วงเงิน 619.48 ล้านบาท ครม. เทงบกลาง 5พันล้านช่วยรพ.ขาดทุน       นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาภาวะโรงพยาบาลขาดทุนเนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประกอบกับที่อัตราเงินงบประมาณรายหัวต่อประชากรที่ไม่สามารถเพิ่มได้เต็มอัตรา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบกลาง 5,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาเติมบรรเทาการขาดสภาพคล่อง ถือเป็นการช่วยเหลือเร่งด่วนแบบเฉพาะหน้า และยังต้องติดตามผลในระยะยาวจากวงเงินช่วยเหลือนี้ ต่อไปถึงไตรมาส 3 และ 4 ทั้งนี้ ในระยะยาวยังต้องมีการปฏิรูประบบสุขภาพทั้งระบบ ปรับระบบหลักประกันสุขภาพ การเงินการคลัง และทำอย่างไรให้โรงพยาบาลสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนแท้จริง เพิ่มสิทธิ 'ประกันสังคม' แรงงานนอกระบบ       เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายลำดับรองที่ออกตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 เพื่อให้กฎหมายประกันสังคมมีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยเพิ่มคุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัครและสิทธิประโยชน์ของแรงงานที่เข้าระบบประกันสังคม โดยกฎหมายระดับรองจำนวน 3 ฉบับที่ ครม. ให้ความเห็นชอบประกอบไปด้วย ร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดคุณสมบัติของบุคคลซึ่งอาจสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. .... ร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทนตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทน พ.ศ. .... และ 3. ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบที่รัฐบาลจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมสำหรับบุคคลซึ่งสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตน พ.ศ . .... ซึ่งร่างกฎหมาย 3 ฉบับมีสาระสำคัญโดยได้กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 การเพิ่มและขยายสิทธิประโยชน์รวมถึงเพิ่มทางเลือกใหม่ คือเป็นทางเลือกที่ 3 ในการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมตามมาตรา 40 คือ ผู้ประกันตนจ่าย 300 บาท รัฐจ่ายสมทบ 150 บาท รวมเป็นเงินสมทบ 450 บาทต่อเดือน จะได้ได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 5 กรณีเงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ เงินค่าทำศพ เงินบำเหน็จชราภาพ (เงินออมกรณีชราภาพ) และเงินสงเคราะห์บุตร       ในส่วนของเงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาลจะได้รับวันละ 300 บาท ไม่เกิน 90 วันต่อปี ถ้าไม่นอนโรงพยาบาลแต่แพทย์สั่งให้หยุดงาน 3 วัน ได้รับเงินชดเชยวันละ 200 บาท ไม่เกิน 90 วันต่อปี ขณะที่เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ จะได้รับเงิน 500-1,000 บาทต่อเดือน ไปตลอดชีวิต และเงินค่าทำศพจะได้รับ 40,000 บาทส่วนเงินบำเหน็จชราภาพ นอกจากได้รับตามเงื่อนไขเดิมแล้ว หากจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน จะได้รับเงินเพิ่มจากปกติอีก 10,000 บาท ส่วนเงินสงเคราะห์บุตรจะได้รับคนละ 200 บาทต่อเดือน คราวละไม่เกิน 2 คน ได้รับสิทธิตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี นอกจากนี้ ครม. ยังมีมติเห็นชอบปรับสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ของ พ.ร.บ.ประกันสังคม ซึ่งได้แก่ผู้ประกันตนโดยอิสระ เป็นคนทำงานที่ไม่มีนายจ้าง ทำงานที่บ้าน หาบเร่แผงลอย วินมอเตอร์ไซค์ ทั้งนี้การปรับแก้กฎหมายประกันสังคมใหม่ครั้งนี้คาดว่าจะจะมีผลบังคับใช้ภายในประมาณ 2 เดือน ขั้นตอนต่อไปคือส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแก้ไขในข้อกฎหมาย โบนัส เจ้าหน้าที่ คสช.       เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ การขอรับการพิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ 2 ขั้น (นอกเหนือโควตาปกติ) เพิ่มเติมอีกร้อยละ 3 ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เสนอ ให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานใน คสช. ที่อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถนำมาพิจารณาบำเหน็จประจำปีได้ จำนวน 721 ราย โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 – 30 กันยายน 2560 ถ้าหากไม่สามารถดำเนินการได้ ก็ขอให้เบิกจ่ายจากงบกลางรายการเลื่อนเงินเดือนและปรับวุฒิข้าราชการ ในแบบเดียวกับการเบิกจ่ายงบประมาณให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ จึงเห็นควรขอรับการสนับสนุนโควตาบำเหน็จประจำปี (2 ขั้น) ประจำปี 2560 เช่นเดียวกับในปีที่ผ่านมา ขาดส่งประกันสังคม 20 ปีกลับเข้าใหม่ได้       เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การกลับเป็นผู้ประกันตน โดยให้ผู้ที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน เพราะไม่นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเงินประกันสังคมมีโอกาสกลับเป็นผู้ประกันตนอีกได้ เพื่อสร้างหลักประกันและความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้แก่ประชาชนผู้เป็นหลักประกันตน สำหรับ ที่ผ่านมา กำหนดให้ผู้ที่อยู่ในประกันสังคม เมื่อสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง หากมีความประสงค์จะเป็นผู้ประกันตนต่อ ให้แสดงความจำนงต่อสำนักงานประกันสังคมภายใน 6 เดือนนับตั้งแต่วันสิ้นสุดการเป็นผู้ประกัน ทั้งนี้หากผู้ประกันตนที่ขอต่ออายุขาดส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน หรือ ภายในระยะเวลา 12 เดือน จะสิ้นสภาพทันที ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า มีผู้สิ้นสภาพสูงถึง 950,000 ราย ทำให้กระทรวงแรงงานเสนอกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้กลุ่มดังกล่าวสามารถกลับมาเป็นผู้ประกันตนได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินสมทบย้อนหลังแม้ขาดส่งเป็นระยะเวลา 20 ปี ทั้งนี้ ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับที่ผ่านมา กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย กรณีทุพลภาพ กรณีตายอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน กรณีคลอดบุตร กรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ