คุณภาพผู้ลงคะแนนเสียง : เสียงจากเยาวชน จ.หนองบัวลำภู       เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 สถาบันนโยบายศึกษา ร่วมกับวิทยาลัยชุมชนหนองบัวลำภู และ คปจ.หนองบัวลำภู จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การรณรงค์ทางการเมืองและผู้ลงคะแนนเสียงที่มีคุณภาพ” โดยการสนับสนุนของมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ ซึ่งจัดที่ห้องประชุมของวิทยาลัยชุมชน งานดังกล่าวนี้มีทั้งนักศึกษาจากวิทยาลัยชุมชน และวิทยาลัยเทคนิค จังหวัดหนองบัวลำภู       ดร.พงษ์ศักดิ์ ศรีวรกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชน ได้กล่าวต้อนรับและกล่าวเปิดงานที่ให้ความสำคัญในการรู้จักใช้สิทธิทางการเมือง เช่น การลงประชามติ หรือการเลือกตั้งให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ โดยเฉพาะการเลือกตั้งมีอยู่ในระดับท้องถิ่น ทั้ง อบต. เทศบาล และ อบจ. และยังมีระดับชาติ คือ ส.ส. และ ส.ว. อีกด้วย นักศึกษาที่มาวันนี้จะได้รับทั้งความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อเป็นแนวทางในการคิด พิจารณาตน เพื่อที่จะเป็นผู้ที่มีคุณภาพเพียงพอในการลงคะแนนเสียง        คุณทิพย์พาพร ตันติสุนทร ผอ.ร่วม สถาบันนโยบายศึกษา ได้แนะนำสถาบันนโยบายศึกษาและมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ ที่มีบทบาทในสังคมไทย และกล่าวถึงความสำคัญของโครงการที่มีวัตถุประสงค์สร้างความตระหนักรู้แก่นักศึกษาในการมีส่วนร่วมในสิทธิอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นคุณภาพของผู้ลงคะแนนเสียง ดังนั้น การเลือกผู้แทนเข้าสู่สภาจะได้คนดีหรือคนไม่ดี จึงอยู่ที่ผู้เลือก หรือผู้ลงคะแนนเสียง อันเป็นต้นทางในการคัดกรองคุณสมบัตินั่นเอง วันนี้จึงมาช่วยกันคิด แสดงออกร่วมกันว่า ลักษณะของผู้ไปเลือกตั้งที่มีคุณภาพเพื่อการตัดสินใจอนาคตของประเทศควรจะเป็นเช่นไร เพื่อให้เยาวชน นักศึกษา ได้แง่คิดและร่วมกำหนดด้วยตัวเขาเอง        คุณบรรลุ ผ่านสำแดง สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ได้กล่าวต้อนรับและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับโอกาสดีๆ ได้ร่วมจัดให้มีโครงการนี้ เพื่อสร้างสำนึกพลเมืองในหมู่นักศึกษาจะได้มีความรู้และทัศนคติทางการเมืองที่ถูกต้องมากขึ้น        คุณสุเทพ พรหมวาศ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ กกต. ได้มาให้ความรู้พื้นฐาน พัฒนาการการเมืองและการเลือกตั้งในประเทศไทย เพื่อให้เห็นภาพชัดถึงผลพวงจากการเลือกตั้ง และทำให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎ กติกา และรูปแบบการเลือกตั้งบ่อยๆ อีกทั้งยังเปรียบเทียบการเลือกตั้งในระบบเลือกตั้งที่เหมาะสมในแต่ละประเทศ ซึ่งจะทำให้นักศึกษาได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และท้ายที่สุดแล้วผลการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะได้คนประเภทใดมาบริหารประเทศนั้น ก็ล้วนขึ้นอยู่กับผู้ไปลงคะแนนเสียงให้ทั้งสิ้น จึงจำเป็นที่ทุกคนควรพิจารณาให้มากขึ้น ก่อนการลงคะแนนเสียง ซึ่งต้องมีความรู้เรื่องการเมือง พรรคการเมือง และตัวนักการเมือง ประกอบการพิจารณาเสมอ        ดร.เชาวนะ ไตรมาศ ที่ปรึกษาสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้เน้นย้ำเรื่องคุณภาพผู้เลือกตั้งว่า จะต้องพิจารณาภูมิหลังทั้งพรรคการเมืองและนักการเมืองที่ต้องเป็นผู้ที่เสียสละ เห็นแก่ประโยชน์ประเทศมากกว่าประโยชน์ของพรรคหรือส่วนตัว ซึ่งนักศึกษาจะต้องคอยติดตามทั้งผลงานที่ผ่านมา และข่าวสารบ้านเมือง เพื่อให้รู้การเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ อันจะทำให้รู้เรื่องการเมืองอย่างรอบด้าน และสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่มีชุดข้อมูล ความรู้ ที่เพียงพอต่อการตัดสินใจเลือกเพื่อประโยชน์ของประเทศเป็นเป้าหมาย โดยไม่ไปตามผู้อื่น หรือถูกใครชี้นำได้ง่ายๆ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ต้องสร้างขึ้นให้เป็นคุณภาพในตัวของผู้มีสิทธิทางการเมืองที่จะต้องแสดงออกด้วยความสุจริต มีวิจารณญาณนั่นเอง       ในช่วงบ่าย คุณสมชาติ เจศรีชัย อนุกรรมการและเลขานุการฯ ในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ เป็นวิทยากรกระบวนการกระตุ้นให้นักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน ทำงานร่วมกันในการคิดและออกแบบการเมืองที่พวกเขาอยากเห็น นักการเมืองที่อยากได้ให้มาบริหารประเทศ อีกทั้งยังช่วยกันกำหนดลักษณะของผู้ที่ไปใช้สิทธิทางการเมืองอย่างมีคุณภาพนั้น ควรมีแนวคิด ความรู้ และการปฏิบัติอย่างไรเพื่อเป็นแนวทางพื้นฐานที่จะสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แล้วได้คนที่มีคุณภาพไปอยู่ในสภา ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ซึ่งนักศึกษาได้ให้ความเห็นพอสรุปได้ดังนี้ คือ นักการเมืองที่ต้องการ พึงมีคุณสมบัติดังนี้ เป็นผู้ที่มีการศึกษาดี รู้เรื่องความต้องการของท้องถิ่น และประเทศชาติเป็นอย่างดี เป็นผู้ที่มีความภักดีต่อประเทศชาติ ไม่สร้างความแตกแยก มุ่งเสริมสร้างความสามัคคี เป็นผู้มีจิตใจเสียสละเพื่อส่วนรวม เห็นประโยชน์ประเทศชาติเหนือประโยชน์ของพรรคและส่วนตัว มีความสามารถ เป็นผู้นำ และรับผิดชอบสูง เป็นผู้ที่เคารพต่อกฎหมาย เป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ ไม่มีประวัติทุจริต รักความยุติธรรม ผู้เลือกตั้งที่มีคุณภาพ มีลักษณะดังนี้ เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจการเมืองเป็นเรื่องสำคัญต่อทุกคน เป็นผู้ที่ติดตามข้อมูลข่าวสารของสังคมและการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและประเทศ เป็นผู้ที่มีความคิด มีเหตุผล รู้จักนำเอาข้อมูลข่าวสารมาพิจารณา คิดวิเคราะห์อยู่เสมอ เป็นผู้ที่เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมและการเมือง ทั้งในระดับชุมชนและประเทศ เป็นผู้ที่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนร่วมก่อนส่วนตนเสมอ ศึกษาภูมิหลังของพรรคการเมืองและนักการเมือง ก่อนการเลือกตั้ง มีความรู้ในเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ไม่ทุจริต ด้วยการขายเสียงเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เป็นผู้ติดตาม ตรวจสอบเรื่องการเมืองและนักการเมือง ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง       ผลจากการร่วมคิด ร่วมทำงานกับนักศึกษาทั้งวิทยาลัยชุมชนและวิทยาลัยเทคนิค จังหวัดหนองบัวลำภู ครั้งนี้ ทำให้นักศึกษามีการตื่นตัวและเข้าใจความสำคัญในการมีสิทธิ และใช้สิทธิในการเลือกตั้งอย่างมีเป้าหมายมากขึ้น ไม่ไปใช้สิทธิตามคนอื่นบอก และไม่เชื่อใครง่ายๆ แต่ยึดเอาประโยชน์ของสังคมและประเทศชาติมาก่อน นอกจากนี้ สิทธิดังกล่าวยังสะท้อนถึงการเป็นผู้มีอำนาจหรืออธิปไตยที่ใครจะมาพรากจากไปได้ง่ายๆ หากเจ้าของสิทธิมีความรู้ รู้เท่าทันทางการเมือง และรู้ทันนักการเมือง เพื่อปกป้องประโยชน์ของตนและประเทศชาตินั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักศึกษาได้บอกกับตนเองทั้งสิ้น