สถาบันนโยบายศึกษา : Institute of Public Policy Studies (IPPS)

ชวนกันไปโหวต

      เข้าโค้งช่วงสุดท้ายแล้ว อีกไม่นานก็จะได้รู้ผลการลงคะแนนครั้งสำคัญ วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2559 “การออกเสียงประชามติ” ว่าจะ “รับ” หรือ “ไม่รับ” กับร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมกาiร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน

      ระหว่างทางนับจากนี้ไปจนถึง “วันโหวต” มีเสียงแสดงความคิดเห็นกันประปราย ไม่คึกคักเท่าที่ควร การส่งเสียงทักท้วงทั้งเห็นแย้งและสนับสนุน จึงจำกัดอยู่กับกลุ่มเดิมๆ ที่มีทัศนะที่แตกต่างกัน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด หากแต่ยังสะท้อนจุดยืนของแต่ละกลุ่มอย่างชัดเจน และยังสร้างสีสันให้กับบรรยากาศที่ยังอยากจะเดินไปสู่แนวทางประชาธิปไตยอีกด้วย

      ถ้าจะให้ดี ควรปล่อยให้ชวนคิด ชวนคุย แสดงออก และถกเถียงกันให้คึกคักกว่านี้ เพื่อส่งเสริมการใช้เสรีภาพในการใช้ปัญญาหรือกำหนดชะตากรรมของบ้านเมือง ซึ่งเรื่องใหญ่ขนาดนี้ปล่อยให้รัฐประโคมเสียงประชาสัมพันธ์แต่ฝ่ายเดียว โดยมีเสียงตอบรับแบบเงียบๆ หงอยๆ อย่างที่เป็นอยู่ การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนก็ดูจะน้อยลงไป ด้วยความกังวลหรือกลัวที่จะแสดงออกแล้วถูกตีความว่าผิดกฎหมายนั่นเอง

คนที่ชอบและอยากแสดงออกในทางที่เป็นบวกกับรัฐบาล ซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อย ก็ไม่กล้า และต้องนิ่งเฉยไปเสียอีก เราจึงเห็นแต่ฝ่ายที่เห็นต่าง กล้าแสดงออก และบอกจุดยืนของเขาอยู่ตลอดเวลา ดังเช่นที่มีกลุ่มนักศึกษาที่ยืนยันความเห็นต่างที่แย้งกับร่างรัฐธรรมนูญในหลายเรื่อง ซึ่งฝ่ายที่เห็นด้วยก็ควรออกมาแสดงจุดยืนและบอกความคิดได้เช่นกัน หากทำได้เช่นนี้ประชาชนทั่วไปก็จะได้เรียนรู้ และได้แนวคิดเปรียบเทียบความดี ความด้อยในสาระของร่างรัฐธรรมนูญได้ด้วย

      มีแต่การได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง มีการคิดและเปรียบเทียบด้วยวิจารณญาณรับรู้ข้อมูลจากทุกฝ่าย ประชาชนจึงจะสามารถแยกแยะและไม่ถูกครอบงำหรือถูกชี้นำได้ง่ายๆ ไม่ว่าโดยกระแสสังคม หรือการกดดันจากอำนาจรัฐ ด้วยวิธีการเช่นนี้ประชาชนจะเรียนรู้ที่จะเป็นประชาธิปไตยได้ด้วยตัวของเขาเอง

      เหลือเวลาอีกเพียงเดือนเศษๆ จะทำอย่างไรให้เป็นบรรยากาศที่คลายความตึงเครียดลงไป เรื่องการออกเสียงประชามติ อย่างไรเสียก็มีเรื่องที่เห็นต่างทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว และแน่นอนเป็นเรื่องการเมืองที่เกี่ยวกับทุกคนโดยเฉพาะที่มีสิทธิไปโหวตถึง 50 ล้านคน จึงควรที่จะช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ของการออกเสียงประชkมติครั้งนี้ด้วยความรับผิดชอบต่อประเทศ ไม่ใช่เพื่อสร้างความนิยมให้อยู่กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

      คิดร่วมกันได้เช่นนี้ ก็เป็นการโหวตที่มีความสุข ประเทศก็เป็นสุข

ทิพย์พาพร ตันติสุนทร
ผู้อำนวยการร่วม สถาบันนโยบายศึกษา