มีนาคม 2559 : กรธ.ส่งร่างรัฐธรรมนูญให้ ครม.-สนช.-สปท. กรธ. ส่งมอบ รธน.ร่างสุดท้ายให้ ครม.-สนช.-สปท.แล้ว รธน.ชั่วคราว ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เปิดทางทำประชามติ กกต.ขอ งบฯ เกือบ 3 พันล้าน ทำประชามติ ร่าง ก.ม.ประชามติ ให้แสดงความเห็นได้ แต่ห้ามชี้นำรับ/ไม่รับ “นายกฯ” แจงไทยพร้อมลงทุนรถไฟความเร็วสูงตามลำพัง มท.ประกาศเขตภัยแล้ง 18 จังหวัด เพิ่มเงิน-ขยายอายุ เงินอุดหนุนดูแลเด็กเล็ก ครม.อนุมัติอีก500 ล้าน ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ชาวประมง แก้ พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ ให้สอดรับมาตรฐานอียู สนช.ผ่านร่าง พ.ร.บ.คุมขอทาน ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการ กรธ. ส่งมอบ รธน.ร่างสุดท้ายให้ ครม.-สนช.-สปท.แล้ว       เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ส่งมอบร่างรัฐธรรมนูญร่างสุดท้ายให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เพื่อนำไปสู่กระบวนการทำประชามติต่อไป หลังการทำประชามติ จะต้องมีการออก พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญทั้งหมดรวม 7 ฉบับภายในกำหนดเวลา 8 เดือนนับแต่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ ในจำนวนนี้มี 4 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง คือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งจะต้องมีผลใช้บังคับก่อนแล้วจึงจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ภายใน 150 วัน       เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2559 ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง กรธ.-สนช.-สปท. รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เพื่อรับฟังการชี้แจงสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญจาก กรธ. และในวันที่ 31 มีนาคม คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ จะได้เริ่มแจกเอกสารร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ... ซึ่งเป็นฉบับก่อนลงประชามติ โปรดเกล้าฯ รธน.ชั่วคราว แก้ไขเพิ่มเติม เปิดทางประชามติ       เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2559 ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในมาตรา 3 และมาตรา 4 เพื่อรองรับการออกเสียงประชามติ โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่ดำเนินการจัดให้มีการออกเสียงประชามติและประกาศผลการออกเสียงประชามติ การจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ หลักเกณฑ์ วิธีการและคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ การเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ การนับคะแนน เกณฑ์บัตรเสีย และการประกาศผลการออกเสียงประชามติ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ       ผลการออกเสียงประชามติให้ถือเสียงข้างมากเป็นการสิ้นสุด ถ้ามีคะแนนเสียงเห็นชอบมากกว่าคะแนนเสียงไม่เห็นชอบ ให้นายกรัฐมนตรีนําร่างรัฐธรรมนูญ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายใน 30 วันนับแต่วันประกาศผลการออกเสียงประชามติ และเมื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและใช้บังคับได้ โดยให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ โดยไม่ต้องให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ กกต.เคาะตัวเลข งบฯ ทำประชามติ เกือบ 3 พันล้านบาท       เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2559 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงถึงการเตรียมการออกเสียงประชามติของ กกต. ว่า ที่ประชุม กกต. ได้มีการรับทราบเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และแผนการออกเสียงประชามติ ทั้งการพิมพ์และการแจกจ่ายร่างรัฐธรรมนูญ และสรุปสาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้เห็นชอบในหลักการให้ใช้วิธีพิเศษ โดยจ้างหน่วยงานรัฐ ส่วนแผนและกำหนดการการออกประชามตินั้น จะออกเสียงประชามติประมาณต้นเดือนสิงหาคม 2559 และเห็นชอบในหลักการสำหรับงบประมาณในการทำประชามติ ประมาณ 2,991 ล้านบาท สนช. แจง ก.ม. ประชามติ ไม่ห้ามฝ่ายต้าน แจงข้อเสีย รธน.       เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2559 ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่า ด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ชี้แจงเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญต่อประชาชน ไม่ใช่ให้ กกต. เป็นผู้ชี้แจงแทน เพราะไม่มีใครรู้เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญดีเท่า กรธ. ส่วนการรณรงค์ร่างรัฐธรรมนูญก่อนการทำประชามตินั้น ให้อิสระฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่ต่อต้านเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ สามารถชี้แจงข้อดีและข้อบกพร่องของร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างเต็มที่ แต่จะพูดชี้นำขอให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หรือพูดในลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริงไม่ได้ จะเข้าข่ายผิดกฎหมายดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นฝ่าย กรธ. พรรคการเมือง จะทำได้แค่พูดถึงข้อดีและข้อเสียร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนเรื่องการใช้เครื่องลงคะแนนในการทำประชามตินั้น กมธ.วิสามัญฯ เห็นว่าไม่ควรนำมาใช้ในการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพราะไม่อยากให้มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การฟ้องร้องได้ นายกฯ เชื่อไทยสามารถทำรถไฟความเร็วสูง เองได้       วันที่ 24 มีนาคม 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังไทยตัดสินใจเลิกการร่วมลงทุนสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-โคราช กับจีน ว่าตนเห็นศักยภาพที่พร้อมในภาคอีสาน เพราะมีแหล่งวัตถุดิบ เป็นแหล่งแรงงานและสถานประกอบการต่างๆ หลายจังหวัดใหญ่มีความเข้มแข็ง และรัฐเตรียมงบประมาณไว้แล้วสำหรับโครงสร้างพื้นที่คือตัวราง แต่อาจมีการร่วมทุนกับเอกชนบ้างในเรื่องตัวรถวิ่งกับระบบสัญญาณ มท.ประกาศเขตภัยแล้ง 18 จ. สั่งเร่งวางแผนจัดการน้ำ       เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2559 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมี18 จังหวัด 68 อำเภอ 306 ตำบล ที่ประกาศเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ซึ่งจะต้องบริหารจัดการน้ำต้นทุนให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้ง ได้เน้นย้ำให้การประปาส่วนภูมิภาค และการประปานครหลวงวางมาตรการบริหารจัดการน้ำต้นทุนที่จะนำมาผลิตน้ำประปาให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีระบบประปาหมู่บ้านที่อยู่ในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในปัจจุบันมีประปาหมู่บ้านเกือบทั่วประเทศแล้ว       งบประมาณในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง แยกเป็น 2 ส่วน คือ 1. งบประมาณที่ใช้ในการยับยั้งหรือป้องกันภัยพิบัติ วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้จ่ายเงินได้โดยไม่ต้องประกาศเขตฯ และ 2. งบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน วงเงิน 50 ล้านบาท ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด เพิ่มอีกจังหวัดละ 30 ล้านบาท รวมกับของเดิม 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท เพิ่มอายุ/ขยายเงินอุดหนุน เพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด       เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยขยายเวลาจากเดิมที่อุดหนุนเด็กแรกเกิดจนมีอายุ 1 ปี เป็นมีอายุ 3 ปี หลังจากเด็กอายุครบ 3 ปีแล้วก็สามารถเข้ารับบริการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ภาครัฐให้การอุดหนุนอยู่ได้ นอกจากนี้ ยังอนุมัติเพิ่มวงเงินอุดหนุนจาก 400 บาท/คน/เดือน เป็น 600 บาท/คน/เดือน เนื่องจากมีการสำรวจพบว่าค่าอาหารที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางสมองของเด็กเล็กถัวเฉลี่ยอยู่ที่ 500-800 บาท สำหรับการดำเนินงานในช่วงแรกที่ครอบคลุมเด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 จนถึง 30 กันยายน 2559 จะใช้งบประมาณอุดหนุนราว 864 ล้านบาท และใช้งบประมาณที่จะขยายไปดูแลเด็กที่เกิดในปี 2560 เพิ่มอีก 468 ล้านบาท รวมค่าบริหารจัดการต่างๆ แล้ว จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1,351 ล้านบาท ครม.อนุมัติเพิ่มงบสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ชาวประมง       เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย โดยอนุมัติเพิ่มวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือชาวประมงในโครงการประมงไทยก้าวไกลสู่สากล จากเดิมเคยปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 1,000 ล้านบาท ซึ่งปล่อยกู้ไปหมดแล้ว จึงมาขอเพิ่มวงเงินอีก 500 ล้านบาท และขอผ่อนปรนหลักเกณฑ์เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น จากเดิมถ้าเป็นบุคคลธรรมดา อายุต้องไม่ต่ำกว่า 22 ปี หรือเป็นนิติบุคคล วันนี้ผ่อนปรนให้เหลือ 20 ปี รวมถึงการลดดอกเบี้ยปีแรกให้เหลือร้อยละ 0 ต่อปี และปีที่ 2-7 ร้อยละ 4 ต่อปี ซึ่งรัฐบาลจะช่วยชดเชยให้ จากเดิมร้อยละ 4 ต่อปีตลอดไป และระยะเวลาการปลอดชำระหนี้เงินต้น ขยายจาก 6 เดือนเป็น 1 ปี ครม. เห็นชอบร่างแก้ไข ก.ม.ค้ามนุษย์       เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2559 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ตามการเสนอของคณะกรรมการพิจารณาการแก้ไขปัญหาข้อขัดข้อง ด้านกระบวนการยุติธรรม ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยได้มีการเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพิ่มเติมการกระทำที่ถือว่าเป็นการขู่เข็ญ หรือใช้กระบวนการทางกฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม และเพิ่มเติมคำจำกัดความให้ครอบคลุมกับการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ให้ครบทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย พา ส่ง หน่วงเหนี่ยว จ้างวาน จัดให้ หรือรับไว้ เป็นต้น ซึ่งจะสอดคล้องกับการที่สหภาพยุโรปกำลังจะเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ในประเทศไทยด้วย สนช. ผ่าน ก.ม.ควบคุม 'ขอทาน'       เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2559 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. ... ครบทุกมาตราและได้ลงมติวาระ 3 เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. ... ด้วยคะแนน 178 ต่อ 2 งดออกเสียง 7 ให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป       ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว มีสาระสำคัญ คือ จัดระเบียบเกี่ยวกับการสงเคราะห์ผู้ที่ทำการขอทาน การควบคุมการขอทาน และแยกผู้แสดงความสามารถออกจากการเป็นผู้ทำการขอทาน ซึ่งกำหนดให้มีคณะกรรมการควบคุมการขอทาน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน ทำหน้าที่เสนอนโยบาย มาตรการควบคุมการขอทาน แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาและดำเนินการกับผู้แสวงหาผลประโยชน์จากการขอทาน ห้ามมิให้บุคคลใดทำการขอทาน พร้อมระบุลักษณะที่ถือว่าเป็นการขอทาน เช่น การขอเงินหรือทรัพย์สิน การกระทำใดให้ผู้อื่นเกิดความสงสารและส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินให้ รวมถึงไม่ให้มีการแสดงในที่สาธารณะ โดยขอรับทรัพย์สินตามผู้ฟังสมัครใจ ซึ่งการเล่นดนตรีในที่สาธารณะ ต้องมีการขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานในท้องถิ่นนั้นก่อน และกฎกระทรวงต้องมีการกำหนดพื้นที่ในการแสดง นอกจากนี้ ยังกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ใช้บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวาน ยุยงส่งเสริมกระทำด้วยวิธีการใดให้ผู้อื่นขอทาน หรือนำบุคคลอื่นเป็นประโยชน์ต่อการขอทานของตนด้วย