สนทนา เรื่อง ระดับและอุณหภูมิของน้ำทะเล : กรุงเทพฯ กำลังจะจมทะล?       นับเป็นการสนทนาต่อเนื่องภายใต้โครงการโลกร้อน.... ครั้งที่ 5 เรื่อง “ระดับและอุณหภูมิของน้ำทะเล” นำการเสวนาโดย ศ.ดร.ปริญญา นุตาลัย วันที่ 22 กรกฎาคม 2558 ณ ห้องแวนด้า โรงแรมทีเค พาเลซ กรุงเทพฯ และได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์       ศ.ดร.ปริญญา นุตาลัย ได้เริ่มสนทนาด้วยการปรารภว่า โลกที่เราอยู่มาหลายพันล้านปีนี้ เป็นเรื่องของกาล (Time) และ เทศะ (Space) ที่ไม่มีต้นไม่มีปลาย ซึ่งไม่ได้หมายความว่าก่อนหน้านี้ไม่มีโลก แต่อาจจะไม่ใช่โลกนี้ มนุษย์มาจากไหน มีทฤษฎีเยอะมาก และมนุษย์อยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ มนุษย์มีข้อจำกัดมากมายที่ไม่อาจรู้ได้ มีความไม่รู้มากกว่าความรู้ มนุษย์ยังไม่มีเครื่องมือ ไม่มีวิธีบริหารจัดการโลกที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงมีความพยายามที่จะจัดการเกี่ยวกับระดับน้ำและอุณหภูมิโลก ซึ่งมนุษย์ก็อยู่ในโลกนี้ในช่วงสั้นๆ แต่การเปลี่ยนแปลงของโลกมีมานานแล้ว ทุกวันนี้คนให้ความสนใจกับเรื่องสภาวะโลกร้อน (Global Warming) มาก ตั้งแต่การประชุม Rio Conference แต่ในขณะเดียวกัน ก็มักมีกระแสพูดถึงสภาวะโลกเย็น (Global Cooling) เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งเรื่องโลกร้อนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และเคยเย็นมาแล้ว ส่วนความสนใจในเรื่องผลกระทบต่อเรื่องโลกร้อนนั้น ประเทศมหาอำนาจเป็นผู้สร้างขึ้นทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา จีน อินเดีย ส่วนไทยเรามีส่วนที่น้อยมาก ประเด็นที่ได้ขยายความในการสนทนาครั้งนี้ เรื่องที่สำคัญและควรทำความเข้าใจร่วมกันคือ การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลในอดีตถึงปัจจุบันกับผลกระทบต่อประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเล เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คงที่ เนื่องจากโลกเราหมุนรอบดวงอาทิตย์และมีดวงจันทร์หมุนรอบโลก จึงเกิดน้ำขึ้นน้ำลงทุกวัน บางประเทศเกิดขึ้นทุกๆ ครึ่งวัน ปริมาณหรือมวลน้ำมีการเปลี่ยนสถานภาพเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งส่วนที่เพิ่มส่วนใหญ่เป็นน้ำใหม่ที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิด เพราะว่า 90% ของแก๊ซที่ออกจากภูเขาไฟก็คือน้ำ รองลงมาก็คือคาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ อีกส่วนคือน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งที่ละลาย ขณะนี้เราอยู่ในช่วงที่น้ำแข็งละลายมากกว่าหิมะที่ตกลงมา เพราะฉะนั้นตอนนี้ระดับน้ำ ปริมาณน้ำในมหาสมุทรจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งหากน้ำแข็งที่มีอยู่ทั้งหมดในโลกละลายพร้อมกันในวันนี้ น้ำทะเลจะสูงขึ้นมากกว่า 30 เมตร การสูงขึ้น หรือต่ำลงของพื้นผิวโลกจากกระบวนการภายในโลก จากฝีมือมนุษย์ จากการกัดเซาะบนพื้นโลก การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของปริมาตรการกักเก็บน้ำทะเลและน้ำจืดจากกระบวนการภายในโลก และจากตะกอนบกไปทับถมในทะเลและมหาสมุทร ซึ่งมีตัวอย่างการศึกษาของประเทศไทยในกรุงเทพมหานคร มีจุดทรุดหลายจุด จุดที่ทรุดมากที่สุดคือบริเวณหลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทรุดไปแล้วถึง 80 เซนติเมตร       การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเล หน่วยงานที่ทำการศึกษาระดับน้ำทะเลที่เก่งที่สุดคือบริษัทน้ำมันต่างๆ ที่เขาไปเจาะหาน้ำมัน ซึ่งต้องหาชั้นหินต่างๆ ที่เป็นแหล่งเกิดของน้ำมัน จะให้ข้อมูลได้ชัดที่สุด       การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลมีความสัมพันธ์กับอุณหภูมิ กล่าวคือ เมื่อไรอุณหภูมิสูง-น้ำทะเลสูง เมื่อไรอุณหภูมิต่ำ น้ำทะเลก็ต่ำไปด้วย เพราะเมื่อไรที่อุณหภูมิต่ำน้ำกลายเป็นน้ำแข็งไปอยู่ตามขั้วโลกและภูเขา ซึ่งมีการพบว่าล้านปีที่ผ่านมา อุณหภูมิของโลกเปลี่ยนแปลงน้อยมาก แต่หลังจากนั้นอุณหภูมิในอดีตสูงกว่าปัจจุบันมาก ที่สูงมากที่สุดอยู่แถวๆ 50 ล้านปี สูงกว่าปัจจุบัน 15 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิต่ำมีในอดีตหลายครั้ง ยุคน้ำแข็งเย็นลงไปถึง 4-5 องศาเซลเซียส จนกระทั่งมาถึงประมาณ 10,000 ปี อุณหภูมิค่อยๆ สูงขึ้นจนถึงปัจจุบัน       อุณหภูมิของโลกไม่ได้คงที่ ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดจากการศึกษาในหลายๆ ที่ และเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระดับน้ำทะเลไปทั่วโลก กรณีนี้ปัญหาที่สำคัญที่สุดของบ้านเรา คือ เรื่องการกัดเซาะชายฝั่ง เพราะว่าเมืองสำคัญของประเทศไทยอยู่ชายทะเลทั้งสิ้น ทั้งเมืองหลวง เมืองท่องเที่ยว เมืองอุตสาหกรรมต่างๆ ประมงก็อยู่ชายทะเล ประเด็นก็คือว่า เราจะทำอย่างไร ที่จะไม่ให้น้ำท่วม เพราะว่าเมืองชายทะเลซึ่งยังมีการใช้น้ำบาดาลอยู่อีกด้วย ทำให้แผ่นดินทรุดอีก มีกรณีที่ได้ทำการศึกษาแล้ว พบว่า กรุงเทพฯ ทรุดตัวไปแล้วกว่า 2 เมตร       ปัญหาเรื่องระดับน้ำทะเล มีปัญหาที่ควรดำเนินการโดยรีบด่วนคือ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และฉะเชิงเทรา กำลังจะจมน้ำทะเล จะแก้ไขอย่างไรให้ปลอดจากภัยพิบัติน้ำท่วม ต้องเอาข้อมูลทั้งหมดจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา เรื่องหลักๆ คือ เรื่องการทรุดตัวของชายฝั่ง เรื่องระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุด พายุที่จะทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นอีกมากที่สุดเท่าไร       ต้องได้ข้อมูลกลางมาเร่งศึกษาหาทางแก้ไข และการให้ข้อมูลทางเทคนิคที่ถูกต้องก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นด้วย เพราะจะเป็นการเริ่มสร้างความเข้าใจให้ตรงกับทั้งด้านข้อมูลและทางด้านเทคนิค       ท้ายที่สุด ท่านผู้นำสนทนาได้ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องอุณหภูมิสูงขึ้น หรือลดลง ล้วนเป็นธรรมดาของโลก แต่ชีวิตมนุษย์นั้นสั้นนัก อายุไม่ยาวพอที่จะไปคาดเดาอนาคตไกลๆ ได้ แม้กระนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นก็อยู่ในวิสัยของความรับผิดชอบร่วมกันของมนุษย์ และเรื่องโลกร้อนกับสิ่งแวดล้อม ก็เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกรัฐในระดับที่แตกต่างกันด้วย       ความสนุกจากการได้ข้อมูลความรู้ใหม่ๆ และการแลกเปลี่ยนทีเกิดขึ้นในวันนี้ ทุกท่านจึงเรียกร้องให้สนทนาในประเด็นนี้ต่อเป็นครั้งที่สอง ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 28 ตุลาคม 2558 เวลา 13.00 น. ณ โรงแรม ทีเค พาเลซ ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ