กุมภาพันธ์ 2558 : อัยการสูงสุดยื่นฟ้องยิ่งลักษณ์ คดีทุจริตจำนำข้าว อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง "ยิ่งลักษณ์" คดีทุจริตจำนำข้าว 'ป.ป.ช.' มีมติส่งข้อมูลคดีจำนำข้าวให้ ก.คลัง ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ปิดจำนำข้าวรอบใหม่ขาดทุนเพิ่มอีก 18,000 ล้านบาท ประยุทธ์ ห้ามข้าราชการดูงานต่างประเทศ สนช. รับหลักการ กม.ชุมนุมสาธารณะ ศาลฎีกานักการเมือง รับฟ้องคดี สลายม็อบพันธมิตรฯ ปี ’51 มติ ป.ป.ช.เอกฉันท์ แจ้งข้อกล่าวหา "อภิสิทธิ์-สุเทพ" สลายแดงชุมนุมปี 53 สนช. ผ่านกฎหมายอุ้มบุญ ครม. อนุมัติงบ 7,000 กว่าล้านบาท จัดการน้ำระยะเร่งด่วนใน 1 ปี 'ศาลปกครองสูงสุด' สั่ง 'กฟผ.' ฟื้นสภาพแวดล้อมรอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ รมว.พลังงาน ยกเลิกประกาศสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 เตรียมแก้ กม.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เอื้อลูกจ้างมากขึ้น เดินหน้าตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ 5 อุตสาหกรรมหลักต้องการแรงงานอีกกว่า 3.286 ล้านคน สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ ทรงแนะ 6 มาตรการอนุรักษ์ป่า ปุ๋ยหมัก-อาหารสัตว์ อาจแก้ปัญหาเผาตอซัง 53 จังหวัดแห่ขอทำไฟฟ้าจากขยะ ตากมีสิทธิร้อนเกิน 40 องศา ข้าวนาปรังสร้างปัญหาขาดแคลนน้ำกินใช้หน้าร้อน กทม ตั้งเป้าสู่เมืองคาร์บอนต่ำ 66 เมืองใหญ่จีนมีปัญหามลภาวะในอากาศ แก๊งอิทธิพลตัวการทำลายป่าอะเมซอน อากาศแปรปรวนสุดขั้วทั่วโลก อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง "ยิ่งลักษณ์" คดีทุจริตจำนำข้าว        เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบกรณีละเลยไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว โดยศาลฎีกาฯ จะนัดฟังคำสั่งรับฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่ในวันที่ 19 มีนาคม และเลือกองค์คณะจำนวน 9 คน ภายใน 14 วัน หากศาลรับฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถยื่นขอประกันตัวชั่วคราวได้ แต่หากจะเดินทางออกนอกประเทศจะต้องขออนุญาตจาก คสช. ป.ป.ช. มีมติชงข้อมูลคดี 'ยิ่งลักษณ์' ให้ ก.คลัง เรียกค่าเสียหาย        เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง เพื่อแจ้งให้พิจารณาความเสียหายในคดีอาญาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนก่อให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โดยระบุถึงมูลค่าความเสียหายจากการปิดบัญชีครั้งที่ 3 ไว้ที่ประมาณ 3.2 แสนล้านบาท โดยในหนังสือที่แจ้งไปนั้นเป็นการแจ้งไปตามคดีอาญาในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพียงคนเดียว ในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ส่วนจะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่เป็นการพิจารณาของกระทรวงการคลังในฐานะหน่วยงานรับค้ำประกันเงินงบประมาณในโครงการรับจำนำข้าว ปิดรับจำนำข้าวขาดทุน 536 แสนล้าน        คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว ได้สรุปยอดปิดบัญชีถึง ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 มียอดขาดทุน 700,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการปิดบัญชีรอบก่อนหน้า ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 อีก 18,000 ล้านบาท        ผลขาดทุนดังกล่าวแยกเป็น 11 โครงการก่อนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 163,000 ล้านบาท และอีก 4 โครงการของสมัยยิ่งลักษณ์ อีก 536,000 ล้านบาท และผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้น 18,000 ล้านบาท เป็นของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทั้งหมด        นอกจากนี้ ยังมีข้าวหาย 130,000 ตัน และยังมีข้อมูลของการระบายข้าวที่ไม่ตรงกัน จึงได้ให้กรมการค้าต่างประเทศ, องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.), องค์การคลังสินค้า (อคส.) กระทรวงพาณิชย์ สรุปให้ชัดเจน โดยการปิดบัญชีรอบถัดไป จะปิดอีกครั้งในระยะเวลา 1 ปี ที่ 30 กันยายน 2558 "นายกฯ" ห้ามข้าราชการดูงานต่างประเทศ        เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ คืนความสุขให้คนในชาติทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่าไม่อยากให้ข้าราชการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ เว้นแต่ไปติดต่อราชการหรือไปประชุม และหากมีความจำเป็นควรจัดประชุมสัมมนาในประเทศไทย โดยเชิญผู้บรรยายมาไทยซึ่งจะใช้งบประมาณน้อยกว่า สนช.รับหลักการ กม.ชุมนุมสาธารณะ        เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)มติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ในวาระ 1 ด้วยคะแนน 182 งดออกเสียง 4 และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาจำนวน 22 คน ดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน        พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ชี้แจงหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ว่า เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การใช้สิทธิชุมนุมสาธารณะให้ชัดเจน สอดคล้องกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยเป็นภาคี ทั้งนี้เพื่อให้การชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี ตลอดจนสุขอนามัยของประชาชน หรือความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ และไม่กระทบกระเทือนสิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น        ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มีเนื้อหารวมทั้งสิ้น 35 มาตรา แบ่งออกเป็น 5 หมวด คือ หมวด 1 เป็นบททั่วไป หมวด 2 เป็นการแจ้งการชุมนุมสาธารณะ หมวด 3 หน้าที่ของผู้จัดการชุมนุมและผู้ชุมนุม หมวด 4 การคุ้มครองความสะดวกของประชาชนและการดูแลการชุมนุมสาธารณะ และหมวด 5 บทกำหนดโทษ ศาลฎีกานักการเมือง รับฟ้องคดีสลายม็อบพันธมิตร ปี 51        เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 295 และ 302 จากกรณีรัฐบาลนายสมชายมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปิดล้อมทางเข้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 471 ราย        คดีนี้ ป.ป.ช. ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา "อภิสิทธิ์-สุเทพ" กรณีสลายแดง        เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ แจ้งข้อกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือ พระสุเทพ ปภากโร อดีตรองนายกรัฐมนตรี ว่ามีพฤติการณ์ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง จากกรณีที่เป็นผู้มอบนโยบายการบังคับบัญชาในระดับพื้นที่ในการใช้กำลังทหารเข้าขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมปี 2553 จนเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงประชาชนและเด็กที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม โดย ป.ป.ช. จะส่งหนังสือเพื่อแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองคนรับทราบ เพื่อให้มาแก้ข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนจะดำเนินคดีอาญาด้วยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการแก้ข้อกล่าวหาของบุคคลทั้งสอง        สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐรายอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ต้องพิจารณาต่อไปว่า พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน คุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่มากน้อยแค่ไหน พ.ร.บ.อุ้มบุญ มีผลใช้บังคับแล้ว        เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบวาระ 3 ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้วด้วยคะแนน 160 ต่อ 2 และงดออกเสียง 4 และให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป        ร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดหลักการเพื่อกำหนดสถานะความเป็นบิดามารดาที่ชอบด้วยกฎหมายของเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ตลอดจนการควบคุมการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับตัวอ่อนและเทคโนโลยีฯ ไม่ให้ใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ข้อห้ามในเรื่องของการตั้งครรภ์แทน สิทธิในการดูแลเด็ก นอกจากนี้ ยังห้ามใช้เพื่อธุรกิจหรือผลประโยชน์ทางการค้า โดยมีบทลงโทษผู้กระทำผิด ครม. ไฟเขียว 7 พันล้าน แผนน้ำระยะเร่งด่วน        เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบกลาง ประมาณ 7,000 กว่าล้านบาท เพื่อดำเนินงานตามแผนงานหรือโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระยะเร่งด่วน ภายในเวลา 1 ปี กว่า 1,700 โครงการโดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ -เมษายนนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ต้องช่วยกันดูแลเกษตรกรและชาวสวนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ที่สำคัญต้องไม่ให้ผลผลิตทางการเกษตรตาย โดยมีหลายมาตรการในการจัดการ เช่น กรมชลประทานระบายน้ำช่วยเหลือเกษตรกร แต่หากปริมาณน้ำไม่เพียงพอก็ต้องใช้น้ำจากบ่อบาดาลของ ทส. ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยนั้น จะนำรถสูบน้ำเข้าช่วยเหลือ โดยได้เน้นย้ำให้ดูแลประชาชนกลุ่มยากจนให้ดี และช่วยเหลืออย่างเต็มที่ 'ศาลปกครองสูงสุด 'สั่ง' กฟผ. ฟื้นสภาพแวดล้อมรอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ        เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 ศาลปกครองสูงสุดเชียงใหม่มีคําพิพากษาให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ติดตั้งม่านน้ำ เพื่อเป็นการลดฝุ่นละอองในบรรยากาศ มีความยาว 800 เมตร ระหว่างที่ทิ้งดินกับหมู่บ้านห้วยคิง และให้จัดตั้งคณะทํางานระดับท้องถิ่นที่มีผู้เชี่ยวชาญ ร่วมอยู่ด้วย เพื่อพิจารณาอพยพประชาชนบ้านห้วยคิงออกนอกรัศมีผลกระทบ 5 กิโลเมตร รวมทั้งให้ฟื้นฟูขุมเหมืองให้ใกล้เคียงกับสภาพเดิมตามธรรมชาติ โดยการถมดินกลับในบ่อเหมืองให้มากที่สุดและให้ปลูกป่าทดแทนในส่วนที่ทําเป็นสวนพฤกษชาติและสนามกอล์ฟ และให้นําพืชที่ปลูกในพื้นที่ชุ่มน้ำไปกําจัดและปลูกเสริมทุกๆ 18 เดือน และต้องทําการขุดลอก เพื่อเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำในพื้นที่ชุ่มน้ำ        คดีนี้ นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ กับพวกรวม 318 คน ชาวบ้านรอบเหมืองแม่เมาะ ได้ฟ้องการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มลพิษก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์แพร่กระจายออกมากระทบชาวบ้านจนเกิดการเจ็บป่วยล้มตายไปเป็นจำนวนมาก โดยก่อนหน้านี้ศาลปกครองเชียงใหม่ได้อ่านคำพิพากษาชั้นต้น เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2552 สั่งให้ กฟผ. จ่ายค่าเสียหายให้ชาวบ้าน และให้เพิกถอนสนามกอล์ฟ แล้วให้ปลูกป่ากลับสภาพเหมือนเดิม แต่ กฟผ. และรัฐบาลอุทธรณ์ ศาลปกครองสูงสุดจึงพิจารณาและมีคำสั่งว่า กฟผ. ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม 'รมว.พลังงาน' เซ็นยกเลิกสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 แล้ว        เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ลงนามยกเลิกประกาศการเปิดให้เอกชนยื่นสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 21 ตามกรอบระยะเวลาเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 16 มีนาคม ออกไปอีก 3 เดือน ซึ่งระหว่างนี้จะรอให้คณะทำงานในการแก้ไขกฎหมายการบริหารทรัพยากรปิโตรเลียมในประเทศทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนก่อนที่จะมีการประกาศให้เอกชนยื่นสิทธิสำรวจและผลิตตามกรอบเวลาเดิมที่ 120 วัน โดยเงื่อนไขการยื่นประมูลสัมปทานที่เชิญชวนเอกชนไปก่อนหน้านี้ ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะการที่รัฐบาลจะขอสิทธิ์เจรจาในพื้นที่ 3 แปลงในทะเลจาก 29 แปลง คือแปลง G3/57 G5/57 และ G6/57 ที่จะเป็นระบบแบ่งปันผลผลิตหรือ PSC เป็นต้น        สำหรับเรื่องที่มีหลายฝ่ายคัดค้านการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมในครั้งนี้ นางพวงทิพย์ ศิลปศาสตร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงพลังงาน กล่าวว่า หากยังไม่มีข้อสรุปอาจต้องยุติการดำเนินการสำรวจปิโตรเลียมรอบนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงพลังงานของประเทศไทยอย่างแน่นอน เนื่องจากมีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติที่พิสูจน์แล้ว (Proved Reserve) มีอยู่ได้ประมาณ 8.42 ล้านลูกบาศก์ฟุต หากไม่มีการลงทุนและสำรวจเพิ่มเติม เมื่อหารด้วยอัตราการผลิตปัจจุบันที่ระดับ 1.31 ล้านลูกบาศก์ฟุต จะทำให้ประเทศไทยมีก๊าซธรรมชาติใช้ได้อีกประมาณ 7 ปี หลังจากนั้นวิกฤติการณ์การขาดแคลนพลังงานก็จะเริ่มเกิดขึ้นทันที เพราะประเทศไทยพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติมากที่สุด เตรียมแก้ กม.กองทุนเลี้ยงชีพฯ เอื้อลูกจ้างมากขึ้น        เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้แก้กฎหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและขจัดปัญหาอุปสรรคให้กับลูกจ้าง ที่สำคัญยังทำให้ลูกจ้างสามารถออมเงินได้ตามต้องการ เพื่อเก็บไว้ใช้ยามชราภาพ โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้พนักงานลูกจ้าง สามารถสมทบเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้มากกว่านายจ้าง โดยที่นายจ้างไม่ต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังแก้ไขกฎหมายให้อำนาจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีอำนาจออกประกาศให้ลูกจ้างหรือนายจ้างหยุดหรือเลื่อนการส่งเงินสะสมหรือเงินสมทบเข้ากองทุนฯ เป็นการชั่วคราว ได้ ในกรณีที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ สาธารณภัย หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โดยไม่ขาดจากการเป็นสมาชิก และเมื่อผ่านพ้นวิกฤติแล้วสมาชิกสามารถนำส่งเงินได้เช่นเดิม ขณะเดียวกันพนักงานลูกจ้างที่มีอายุ 55 ปี แล้วสิ้นสมาชิกภาพหรือลาออกไปก่อนเกษียณอายุงาน สามารถขอรับเงินเป็นงวดๆ โดยไม่ต้องนำเงินออจากกองทุนทั้งจำนวนซึ่งจะช่วยให้ลูกจ้างมีเงินดำรงชีพได้อย่างต่อเนื่อง        ขั้นตอนต่อไปคือส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาก่อนเสนอให้ สนช. พิจารณาต่อไป ตั้งกองทุนออมแห่งชาติ        คณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ได้เห็นชอบการจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อดูแลแรงงานนอกระบบและผู้มีรายได้อิสระให้มีหลักประกันทางการเงินในช่วงเกษียณอายุ โดยให้โอนสมาชิกประกันสังคมตามมาตรา 40(3) มาที่ กอช. ทั้งหมด สศอ.ชี้ไทยขาดแคลนแรงงานภาคอุตสาหกรรม        สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2558-2560) พบว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยยังต้องการแรงงานมากถึง 3.268 ล้านคน โดยเฉพาะใน 5 อุตสาหกรรมหลักที่มีการจ้างงานสูง ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ที่คาดว่าต้องการแรงงาน 4.3 แสนคน, อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 4.7 แสนคน, อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม 1.31 ล้านคน อุตสาหกรรมเครื่องจักรและอุปกรณ์ 1.73 แสนคน และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 8.85 แสนคน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงแนะ 6 มาตรการอนุรักษ์ป่า        วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเป็นองค์ประธานเปิดการสัมมนา “รักษ์ป่าน่าน” ปีที่ 2 ที่ศูนย์การเรียนรู้และบริการวิชาการ เครือข่ายแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน ในโอกาสนี้ ทรงบรรยาย “การจัดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้” โดยยกพระราชกระแสรับสั่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสอนว่าการอนุรักษ์ที่สำคัญ ต้องปลูกป่าในใจคน หรือว่าการที่เราไม่ไปรังแกป่า ป่าก็จะฟื้นตัวขึ้นมาเอง        ในตอนท้ายทรงสรุปว่า การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ มี 6 ประการ คือ ต้องทำพร้อมกับการอนุรักษ์ทรัพยากรอื่นๆ ต้องสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ประชาชน สร้างความรู้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปว่าสรรพสิ่งต่างๆ ล้วนเกี่ยวพันกัน ความรู้เรื่องโลกและชีวิตในโลก เป็นเรื่องน่าสน ใจน่าศึกษา เมื่อศึกษาแล้วจะรักและไม่ทำลาย การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จะช่วยสร้างสำนึกแก่นักท่องเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติ แบ่งพื้นที่ให้ชัดเจนว่าที่ไหนควรปฏิบัติอย่างไร เช่น เขตอนุรักษ์ เขตที่ให้คนเข้าไปได้ เขตที่อนุญาตให้เพาะปลูก และสุดท้าย เมื่อมีสัมปทานป่าไม้ มีกฎว่าถ้าตัดต้นไม้หนึ่งต้นต้องปลูกทดแทน 2-3 ต้น ปุ๋ยหมัก-อาหารสัตว์ อาจแก้ปัญหาหมอกควันเผาตอซัง        ในทุกปีเมื่อถึงฤดูแล้งเกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ 10 จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน ตาก จะเผาทำลายตอซังฟางข้าว เศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นา เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกฤดูกาลใหม่ ทำให้เกิดความร้อน หมอกควัน ฝุ่นฟุ้งกระจายปกคลุมกินพื้นที่หลายจังหวัด ข้อมูลเมื่อสองปีที่แล้วมีปริมาณตอซังและฟางข้าวสูงถึงปีละ 50-60 ล้านตัน การเผาจะสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 27 ล้านตันกิโลกรัม ทำให้เกิดแก๊สเรือนกระจก มองในระดับโลกก็เป็นการสร้างปัญหาโลกร้อนให้รุนแรงมากขึ้น ส่วนพื้นดินที่ถูกเผาจะสูญเสียไนโตรเจน 6-9 กิโลกรัมต่อไร่...ฟอสฟอรัส 0.8 กิโลกรัมต่อไร่...โพแทสเซียม 15.6 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อดินถูกเผาบ่อยเข้าก็จะขาดอินทรียวัตถุ ดินเสื่อมคุณภาพ เพาะปลูกไม่ได้ผล เกษตรกรต้องใช้ปุ๋ยเคมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งใช้ปุ๋ยเคมีก็ยิ่งทำให้จุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิตในดินหายไปมากยิ่งขึ้น นับวันก็ยิ่งต้องใช้ปุ๋ยเคมีมากขึ้นๆ ถ้ายังอยากได้ผลผลิตเท่าเดิม วังวนปัญหาเป็นเช่นนี้ ก็เป็นผลกระทบเชื่อมโยงต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ นอกจากนั้นหมอกควันและขี้เถ้าเมื่อสูดเข้าไปมากจะสร้างปัญหาสุขภาพ        กรมพัฒนาที่ดินได้รณรงค์ให้ไถกลบตอซังแทนการเผา นอกจากนั้นในหลายจังหวัดเช่นเชียงใหม่ก็ทำโครงการปุ๋ยหมักจากวัสดุที่เหลือจากการสีข้าวโพด ซังข้าวโพด เป็นปุ๋ยอินทรีย์บำรุงดินให้อุดมสมบูรณ์ เพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ในดิน ช่วยดึงไนโตรเจนเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดินอีกด้วย ดินที่มีอินทรียวัตถุมากเป็นดินดีมีโครงสร้างทางกายภาพดี ไม่แน่นทึบ เป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายในดิน ไม่ว่าจะเป็นแมลง ตัวห้ำ ตัวเบียน ที่มาออกไข่...ขยายพันธุ์        ดังนั้นการไถกลบตอซังลงไปในดินให้ย่อยสลาย ก็เป็นการเติมออกซิเจน จุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิตในดินก็เริ่มมีชีวิต เพิ่มจำนวน เพิ่มปริมาณ ขยันขันแข็ง ก็จะช่วยคืนความอุดมสมบูรณ์ให้ดินอย่างเป็นระบบ ทำให้ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีมากมายเหมือนเคย เป็นการลดต้นทุนให้กับเกษตรกร        การขยายพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทำให้เกษตรกรมีเปลือกข้าวโพดมาก มหาวิทยาลัยพะเยาร่วมกับสถานีวิจัยทดลองพันธุ์สัตว์พะเยา กรมปศุสัตว์และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภาคเหนือได้ทำการศึกษาวิจัยการนำเปลือกข้าวโพดมาหมักร่วมกับวัสดุอื่นในสภาพไร้อากาศและอัดเป็นก้อนใช้เลี้ยงโคเนื้อแทนการใช้ฟางอัดที่หายากและแพงในฤดูแล้ง 53 จังหวัดขอทำโรงไฟฟ้าจากขยะ        กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) แถลงความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามโรดแม็ปการจัดการขยะมูลฝอยและ ของเสียอันตราย ว่าได้วางแผนบริหารจัดการขยะมูลฝอยใหม่ในทุกจังหวัด คือ 1.ลด คัดแยกขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง 2.กำหนดศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมในแต่ละจังหวัด 3.การกำจัดโดยเทคโนโลยี เน้นการแปรรูปเป็นพลังงาน ซึ่งหลังจากให้แต่ละจังหวัดทำแผนการจัดการขยะในระดับจังหวัดขึ้นมามี 53 จังหวัดเสนอว่ามีศักยภาพทำโรงไฟฟ้าจากการแปรรูปขยะมูลฝอยได้        สำหรับปัญหาขยะมูลฝอยตกค้างสะสมใน 6 จังหวัดวิกฤติ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สระบุรี ลพบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ได้แก้ไขไปแล้ว 8,279,085 ตัน จากปริมาณขยะสะสม 11,047,000 ตัน และในอีก 71 จังหวัด มีแนวทางฝังกลบชั่วคราวภายในพื้นที่ และปรับพื้นที่เพื่อรับขยะใหม่ หรือขนย้ายไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ        ส่วนจังหวัดที่ไม่พบว่ามีขยะเก่าสะสมอยู่เลย ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรสงคราม แพร่ และภูเก็ต ขณะที่จังหวัดที่มีขยะเก่าสะสมเกิน 1 ล้านตันขึ้นไป ได้แก่ ชลบุรี สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี สงขลาและนครศรีธรรมราช ตากมีสิทธิร้อนเกิน 40 องศา        กรมอุตุนิยมวิทยายืนยันประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนเต็มตัว ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ และคาดว่า ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ บริเวณจังหวัดตาก และพื้นที่พรมแดนไทย-พม่า มีโอกาสที่จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 40 องศาเซลเซียส เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีอากาศร้อนอยู่แล้ว ส่วนการที่จะบอกว่าวันใดจะมีอากาศร้อนมากที่สุดนั้นทำได้ยาก เนื่องจากแม้วันนั้นจะเป็นวันที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับโลก เช่นวันที่ 27 เมษายนก็ตาม แต่อาจจะมีเมฆหรือพายุฝนตก ซึ่งมักพบว่าหลังจากสงกรานต์จะเป็นช่วงมีฝนเสมอ        การคาดหมายอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดในเดือนมีนาคม ภาคเหนือจะอยู่ที่ประมาณ 36-38 องศาเซลเซียส ตะวันออกเฉียงเหนือ 35-37 องศาเซลเซียส ส่วนเดือนเมษายน ภาคเหนือ 37-39 องศาเซลเซียส ภาคอีสาน 36-38 องศาเซลเซียส เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว คาดว่าในปีนี้จะมีอุณภูมิสูงขึ้นประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม คงไม่มีเพียงแต่อากาศร้อนเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่นมาแทรก ในฤดูร้อนนี้คงมีพายุฝนฟ้าคะนอง และอาจมีลูกเห็บตกลงมาด้วย ข้าวนาปรังอาจทำลุ่มน้ำแม่กลองขาดแคลนน้ำ        กรมชลประทานประกาศขอความร่วมมือชาวนาปรังในลุ่มน้ำแม่กลอง อันได้แก่ แม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำท่าจีนงดทำนาปรังจนกว่าจะถึงต้นฤดูฝน เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ มีเพียง 4,900 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ในขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันคือมกราคมของทุกปีมีปริมาณมากถึง 9,000 ล้านลูกบาศก์เมตร หากใช้น้ำในการทำนาปรังอาจทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเค็มขึ้นสูงสร้างความเสียหายให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้ในพื้นที่ อ.อัมพวา อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม        ขณะนี้มีเกษตรกรปลูกข้าวนาปรังไปแล้วประมาณ 100,000 ไร่ หรือประมาณ 10% ของพื้นที่นาปรังปกติ โดยส่วนใหญ่จะเป็นนาข้าวริมแม่น้ำแม่กลองกับแม่น้ำท่าจีน กรมชลประทานได้ประสานกับทางจังหวัด และผู้นำชุมชนให้ทำความเข้าใจกับเกษตรกรว่า แม้จะยังเห็นมีน้ำอยู่ในคลองส่งน้ำ แต่มีความจำเป็นต้องใช้ส่งไปเพื่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และการเจือจางน้ำเค็ม หากเกษตรกรสูบไปใช้จะเกิดปัญหากับคุณภาพน้ำประปา รวมทั้งยังกระทบกับเกษตรกรชาวสวนผลไม้        มีรายงานว่า เกษตรกรในลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้มีการทำนาปรังไปแล้วกว่า 4.4 ล้านไร่ แม้มีประกาศงดปลูกข้าวนาปรังในฤดูแล้งปีนี้ก็ตาม อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีน ปัจจุบันยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ กทม ตั้งเป้าสู่เมืองคาร์บอนต่ำ        กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดตัวโครงการกรุงเทพฯสู่เมืองคาร์บอนต่ำ ตั้งเป้าหมายจะเป็นเมืองคาร์บอนต่ำให้ได้ภายในปี 2563 ใช้ยุทธศาสตร์สำคัญ 4 ด้าน คือ 1. ปลูก โดยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว วางเป้าหมายจะต้องมีพื้นที่สีเขียวไม่ต่ำกว่า 23,000 ไร่ในปี 2560 อีกทั้งจะรณรงค์ให้ประชาชนร่วมเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยการปลูกต้นไม้ในบ้านเรือนตนเอง 2. ปล่อย เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการของเสีย ทั้งการจัดการขยะ และการจัดการน้ำเสีย จะต้องจัดการอย่างเป็นระบบไม่ส่งผลให้เกิดมลภาวะเพิ่มมากขึ้น 3. ปิด ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างฉลาด ลดปริมาณการใช้พลังงานตามครัวเรือนต่างๆ และ 4. ปรับ คือการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนอย่างยั่งยืน ลดการบริโภคในสิ่งที่ไม่จำเป็น และนำสิ่งที่มีอยู่กลับมาใช้ซ้ำให้เกิดผลสูงสุด โดย กทม. จะดำเนินการนำร่องอาคารในสังกัดของ กทม. จำนวน 35 แห่ง เพื่อกำหนดมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้พลังงานเพื่อร่วมลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์        ปัจจุบัน กรุงเทพฯมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึงปีละกว่า 42 ล้านตัน ถือเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากการใช้พลังงานในระบบขนส่ง ดังนั้นการจัดระบบการขนส่งสาธารณะจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อน และส่งผลต่อสภาพแวดล้อมของเมืองได้ 66 เมืองใหญ่จีนมีปัญหาอากาศพิษ        กระทรวงสิ่งแวดล้อมของจีนเปิดเผยข้อมูลมลภาวะทางอากาศในประเทศ พบว่า เมืองใหญ่ 66 จากทั้งหมด 74 เมือง รวมถึงกรุงปักกิ่งไม่ผ่านค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศ ส่งผลเสียต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ส่วนเมืองคุณภาพอากาศดีที่สุดของประเทศคือเมือง ไห่กัว เมืองเอกของมณฑลไหหนานทางภาคใต้ และกรุงลาซา เมืองหลวงทิเบตอยู่อันดับ 3 ขณะที่กรุงปักกิ่งตั้งเป้าลดการใช้ถ่านหินผลิตพลังงานลงให้ได้ 75 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2565 เพื่อยกระดับคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น แก๊งอิทธิพลตัวการทำลายป่าแอมะซอน        เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ตำรวจบราซิลแถลงข่าวจับกุมนายอีเซเคว์ล อันโตนิโอ คาสตันญ่า หัวหน้าแก๊งมาเฟียที่เชื่อว่าเป็นตัวการตัดไม้ทำลายป่ารายใหญ่ของบราซิล สร้างความเสียหายให้แก่ผืนป่าแอมะซอนกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ โดยจากการสืบสวนเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน พบว่า แก๊งดังกล่าวได้กระทำความผิดมากมายมหาศาล ตัดไม้ บุกรุกยึดที่ป่า ก่อนนำที่ผืนต่างๆ ไปขายให้แก่ผู้ทำฟาร์มปศุสัตว์ในราคาสูง ซึ่งประเมินความเสียหายทั้งหมดคิดเป็นมูลค่ากว่า 230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อากาศแปรปรวนสุดขั้วทั่วโลก        สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งออสเตรเลียประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยพิบัติจากพายุไซโคลน 2 ลูกที่ซัดขึ้นฝั่ง 2 รัฐนอร์ทเทิร์นเทอร์ริทอรีและควีนส์แลนด์ ทางภาคเหนือและภาคตะวันออก ด้วยความเร็ว 165-224 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเพิ่มความแรงเป็น 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ทำให้เกิดพายุฝนกระหน่ำและลมกรรโชกแรง สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนและระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะชุมชนชาวพื้นเมืองอะบอริจินส์ ในรัฐนอร์ทเทิร์นเทอร์ริทอรี ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจนทางการสั่งเตรียมความพร้อมเผื่อต้องอพยพลี้ภัยด้วย        ทางภาคตะวันออกของสหรัฐฯ และแคนาดายังคงมีสภาพอากาศหนาวเย็นจัดยังปกคลุมหลายพื้นที่ ศูนย์พยากรณ์อากาศสหรัฐฯ ประเมินว่าอุณหภูมิในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ จะหนาวเย็นที่สุดในสหรัฐฯ ในรอบ 20 ปี อุณหภูมิเย็นจัดที่แผ่ปกคลุมทั่วภูมิภาค ทำให้ทางการกรุงวอชิงตันประกาศเตือนผู้คนระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการขับยวดยานบนท้องถนน ส่วนสมาพันธ์บริหารการบินสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) ประกาศให้ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนียยกเลิกหรือเลื่อนเที่ยวบิน เช่นเดียวกับท่าอากาศยานนครบอสตัน มหานครนิวยอร์ก และรัฐเทนเนสซี        ส่วนที่ อิสราเอล จอร์แดน และเลบานอน ในตะวันออกกลาง เกิดหิมะตกหนา รัฐบาลอิสราเอลสั่งปิดโรงเรียนและสถานที่ราชการในนครเยรูซาเล็ม รวมถึงระงับให้บริการรถประจำทางเพราะถนนจับตัวเป็นน้ำแข็ง ทั้งยังมีหิมะตกหนาราว 25 เซ็นติเมตร ในบางพื้นที่ ในกรุงอัมมานของจอร์แดนตำรวจสั่งปิดให้บริการถนนหลายสายเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดโกยหิมะออกไปจากถนน ส่วนที่กรุงเบรุตของเลบานอนเกิดพายุลูกเห็บตกกระหน่ำหลายระลอก และหลายเมืองทางเหนือมีหิมะตกหนาจัดจนต้องสั่งปิดโรงเรียนเช่นกัน        เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 หิมะที่ตกหนักสะสมในจังหวัดปัญจ์ชีร์ ทางเหนือของอัฟกานิสถาน ห่างจากกรุงคาบูลประมาณ 150 กิโลเมตร ได้ถล่มลงมาทับบ้านเรือนประมาณ 100 หลังคาเรือน เบื้องต้นทางการพบว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 ศพ และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 129 คน มีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง ขณะที่ความช่วยเหลือยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากหลายพื้นที่ประสบภัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และถนนหลายสายก็ถูกปกคลุมด้วยหิมะหนา