สถาบันนโยบายศึกษา : Institute of Public Policy Studies (IPPS)

เปลี่ยนผู้เล่นใหม่เถอะ

      ต้นเหตุวิกฤติการเมืองมาจากปัญหาโครงสร้าง เกิดจากระบบการเมืองที่ล้มเหลวไร้คุณภาพ ไร้ศีลธรรม เป็นการเมืองระบบปิด ปิดกั้นการมีส่วนร่วมของพลเมือง พรรคการเมืองไม่ใช่พรรคการเมืองในแบบประชาธิปไตย พรรคการเมืองส่วนใหญ่เป็นพรรคธุรกิจการเมือง มีนายทุนพรรค การแข่งขันทางการเมืองจึงเพื่อหวังให้ได้ชนะในวันเลือกตั้ง เพื่อให้ได้เสียงข้างมาก

      พฤติกรรมของนักการเมืองหลังจากนั้นจึงทำตัวเสมือนหนึ่งเป็นพ่อค้ามากกว่าดูแลประชาชน เช่นที่คิดอ่านทำแต่เรื่องโครงการใหม่ๆ ใช้งบประมาณมากๆ ซึ่งมีแนวโน้มของการส่อทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกขั้นตอน ความเสื่อมทรามทางการเมืองเช่นนี้เป็นผลให้เกิดวัฒนธรรมชั่วร้ายขึ้นในสังคม ที่เห็นการคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า ข้าราชการบางส่วนก็ผันตัวรับใช้นักการเมือง แบ่งพรรคแบ่งพวกตามแก๊งก๊วนทางการเมือง และละเลยบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของตนที่ต้องปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติเป็นสำคัญ

      ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงของการถกเถียง การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลายเรื่อง ซึ่งทุกฝ่ายรวมทั้งคู่ขัดแย้งทางการเมืองเริ่มมองเห็นกันแล้วว่าอย่างไรเสียก็ต้องมีการปฏิรูปพฤติกรรมการอยู่ร่วมกันในสังคมใหม่ ไม่ว่าจะเรื่องการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง การสร้างคน หรือปฏิรูปคนด้วยการศึกษา เรื่องเศรษฐกิจ ที่มีปัญหาการเข้าถึงการใช้ทรัพยากรอย่างไม่เท่าเทียม ฯลฯ พูดโดยรวมก็คือการปฏิรูปกันยกใหญ่ จึงต้องมาวางกติกากันใหม่ว่าจะอยู่กันอย่างไร ในสภาพที่เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ที่เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว

      พูดง่ายๆ ก็คือ ปัญหาเดิมๆ ที่เคยแก้ด้วยวิธีการเดิมๆ ก็ใช้ไม่ได้ผลดังที่เห็นปัญหาผุดเพิ่มขึ้น มิหนำซ้ำยังมีปัญหาใหม่ในสถานการณ์ใหม่ แต่หากจะใช้วิธีการเก่าๆ แก้ไข ก็ไม่มีทางจะแก้อะไรได้ นอกจากจะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายกว่าเดิม จนแก้ไขได้ไม่ทันกาลกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา

      ที่เห็นไม่ตรงกันแค่ว่าจะปฏิรูป ก่อน หรือ หลัง เลือกตั้ง เท่านั้น

      อันที่จริง ที่เป็นตัวปัญหาทางการเมือง ก็มาจากนักการเมืองไม่กี่พันคนที่หมุนเวียนกันครองอำนาจรัฐ และยังยินดีที่จะอยู่กันแบบเดิมๆ

      บ้านเมืองก็จึงเป็นแบบทุกวันนี้ วันที่นักการเมืองไม่เคยเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรม

      เมื่อเขาไม่เปลี่ยน ดังนั้น เรา – พลเมือง จึงต้องคิดเปลี่ยนแปลงเพื่อประเทศ รื้อถอนซากสิ่งชำรุดทางการเมืองที่มีอยู่ออกไป พร้อมๆ กับปรับเปลี่ยนขึ้นรูปโครงสร้างใหม่ คิดใหม่ให้เข้าที่เข้าทาง ขจัดตัวต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่เป็นนิสัยไม่สอดรับกับประชาธิปไตยออกไป คือ การรักสบาย การรักแต่ตัวเอง ไม่เห็นแก่ประเทศชาติ จะทำให้คนไทยติดอยู่กับความไม่เป็นไร และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปเอง โดยไม่สามารถแก้ไขอะไรได้

      การเมืองไทย จึงถึงคราวต้องช่วยกันหาทางให้มีผู้เล่นใหม่ๆ ทางการเมือง ที่ไม่ใช่หน้าเดิม คิดแบบเดิมอย่างทุกวันนี้

      ผู้ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดผู้เล่นใหม่ในทางการเมืองเพื่อมาจัดการกับกติกาใหม่ให้เข้าที่ให้เรียบร้อย จึงอยู่ที่พลเมืองผู้รู้ทันนักการเมือง ที่จะช่วยกันผลักดันให้เกิดขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงในชาติ

ทิพย์พาพร ตันติสุนทร

ผู้อำนวยการร่วม สถาบันนโยบายศึกษา