เมษายน 2556 : ศาลโลกเริ่มพิจารณาคดีพระวิหาร ศาลโลกเริ่มพิจารณาคดีพระวิหาร นายกรัฐมนตรีแสดงจุดยืนการเมืองที่มองโกเลีย เลื่อนวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เตรียมแก้รัฐธรรมนูญให้บุพการี-คู่สมรส-บุตร ส.ส. ลงสมัคร ส.ว. ได้ ไทยยังไม่รับ 5 ข้อ เสนอแกนนำบีอาร์เอ็น กกต. ชี้ ก่อแก้ว ไม่สิ้นสภาพความเป็น ส.ส. พงศพัศ กลับไปนั่งตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ค่าครองชีพตบเท้าขึ้น รัฐเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า รัฐขาดดุลเงินสด 5.29 แสนล้าน ทุนสำรองประเทศลด 800 ล้านเหรียญสหรัฐ ออกพันธบัตรรัฐชดเชยงบขาดดุล รัฐควักกระเป๋าจ่ายค่ารถเมล์-รถไฟฟรี มูดี้ส์คาดการณ์เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ปีละ 5% ออก 4 มาตรการอุ้มเอสเอ็มอี แก้กฎหมาย กบข. ให้ ขรก. กลับไปใช้ระบบบำนาญได้ ศาลโลกเริ่มพิจารณาคดีพระวิหาร เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2556 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกได้เริ่มการพิจารณาคดีพระวิหารตามที่ประเทศกัมพูชาได้ยื่นคำร้องไว้ว่าไทยได้รุกรานเข้าไปในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบตัวปราสาท และขอให้ศาลโลกรับรองแผนที่ภาคผนวก 1 หรือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 โดยศาลได้ให้คู่กรณีทั้งสอง คือ ไทย และกัมพูชา ขึ้นแถลงด้วยวาจา โดยตัวแทนประเทศกัมพูชาคือ นายฮอร์ นัมฮง รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พร้อมทีมทนาย ได้ขึ้นชี้แจงก่อน และต่อมาในวันที่ 22 เมษายน 2556 นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะผู้แทนประเทศไทยได้ขึ้นชี้แจงต่อมาร่วมกับคณะที่ปรึกษากฎหมายของไทยประกอบด้วย นายอแลง แปลเล่ต์ ทนายความชาวฝรั่งเศส นายเจมส์ ครอว์ฟอร์ด ทนายความชาวออสเตรเลีย นายโดนัลด์ เอ็ม แม็คเรย์ ทนายความชาวแคนาดา-นิวซีแลนด์ น.ส.อลินา มิรง ทนายความชาวโรมาเนีย และนายโธมัส แกรนต์ ทนายความชาวสหรัฐอเมริกา หลังแถลงเปิดคดีแล้ว นายวีรชัย กล่าวว่าการตัดสินคงมี 4 แนวทาง คือ ศาลไม่รับคำร้อง, ศาลตัดสินเข้าข้างไทย, ศาลตัดสินเข้าข้างกัมพูชา และศาลตัดสินกลางๆอย่างไรก็ตามยังไม่ขอคาดคะเนผลการตัดสินของศาลในขณะนี้ นายกฯ แสดงจุดยืนการเมือง เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงปาฐกถาระหว่างการประชุมประชาคมประชาธิปไตย ที่เมืองอูลันบาตอร์ สาธารณรัฐประชาชนมองโกเลียที่มีนัยยะสำคัญต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ว่าตน ไม่เอา ส.ว. แบบสรรหาและแสดงความเห็นว่าองค์กรอิสระใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต นอกจากนั้นนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวย้อนเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 ว่าเป็นการล้มล้างรัฐบาลที่มาโดยระบอบประชาธิปไตย ซึ่งปาฐกถาครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ แสดงท่าทีชัดเจนต่อแนวทางการเมืองและยังก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์ถึงความเหมาะสมของเนื้อหาสาระในฐานะที่เป็นผู้นำประเทศ เลื่อนวาระพิจารณาร่าง กม.นิรโทษกรรม เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2556 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ 283 ต่อ 56 เห็นชอบให้เลื่อนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. .... ขึ้นมาพิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน ก่อนหน้านี้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวถูกเตรียมเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาเป็นลำดับแรก เมื่อมีการเปิดประชุมสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 1 สิงหาคม 2556 แต่นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้เสนอให้นำขึ้นมาพิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน เตรียมแก้ รธน. ให้บุพการี-คู่สมรส-บุตร ส.ส. สมัคร ส.ว. ได้ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2556 ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแก้รัฐธรรมนูญได้มีมติเสียงข้างมากให้ตัดบทบัญญัติที่ห้ามไม่ให้บุพการี คู่สมรส หรือบุตร ของผู้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลงสมัคร ส.ว. และยังได้แก้ไขให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นลงสมัคร ส.ว. ได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวมาก่อนเป็นเวลา 5 ปี การแก้ไขครั้งนี้เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่ใน กมธ. คือสมาชิกพรรคเพื่อไทยมีความเห็นว่าหากคงข้อห้ามนั้นเอาไว้จะถือว่าเป็นการลิดรอนสิทธิ์ ไทยยังไม่รับ 5 ข้อเสนอบีอาร์เอ็น เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2556 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพฝ่ายไทย กล่าวภายหลังการพูดคุยสันติภาพกับแกนนำบีอาร์เอ็น รอบ 2 ว่า ไทยไม่ยอมรับ 5 ข้อเสนอตามที่นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำบีอาร์เอ็นได้กล่าวเรียกร้อง ไว้ในวิดีโอแพร่ภาพในยูทูป อีกทั้งยังไม่ได้รับปากว่าจะนำข้อเสนอดังกล่าวไปพิจารณาหรือไม่ สำหรับ 5 ข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็น ได้แก่ ให้ผู้ปกครองชาวสยามจะต้องยอมรับบทบาทของรัฐบาลมาเลเซียในฐานะ “ตัวกลาง” การสนทนา การสนทนาที่จะเกิดขึ้นจะจำกัดวงเฉพาะตัวแทนชาวมลายู ซึ่งนำโดยกลุ่มบีอาร์เอ็น ร่วมกับคณะผู้ปกครองชาวสยามเท่านั้น จะต้องอนุญาตให้กลุ่มผู้สังเกตการณ์จากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน, องค์การความร่วมมือแห่งศาสนาอิสลาม (โอไอซี) และองค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ (เอ็นจีโอ) เข้าร่วมในการสนทนาด้วย ผู้ปกครองชาวสยามจะต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาอย่างไม่มีเงื่อนไข และจะต้องระงับการออกหมายจับผู้ต้องสงสัย และ จะต้องยอมรับสถานะของกลุ่มบีอาร์เอ็นในฐานะองค์กรเพื่อการปลดปล่อยปาตานี มิใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน กกต. ชี้ก่อแก้วไม่สิ้นสภาพ ส.ส. เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2556 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า นายก่อแก้ว พิกุลทอง ยังคงมีสถานภาพเป็น ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เนื่องจากไม่ได้ถูกคุมขังในวันเลือกตั้ง และคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก กกต. ได้พิจารณาคุณสมบัติของนายก่อแก้วเนื่องจากนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณา พงศพัศ กลับไปนั่งเลขา ป.ป.ส. เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติแต่งตั้ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กลับไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ หรือ ป.ป.ส. ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.พงศพัศ ได้ยื่นใบลาออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อไปสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรคเพื่อไทย แต่สอบตกจึงขอกลับเข้ารับราชการใหม่อีกครั้ง ค่าครองชีพขยับขึ้น ในวันที่ 1 มิถุนายน 2556 บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพผู้บริหารรถไฟฟ้าบีทีเอส จะขึ้นค่าโดยสาร จาก 15-40 บาท เป็น 15-42 บาท/เที่ยว และตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2556 เป็นต้นไป กระทรวงพลังงานจะเริ่มทยอยขึ้นราคาก๊าซหุงต้มจากกิโลกรัมละ 18.13 บาท เป็น กิโลกรัมละ 24.82 บาท โดยทยอยขึ้นเดือนละ 50 สตางค์/กิโลกรัม จนครบ 6 บาท ส่วนในเดือน พฤษภาคม 2556 อีกหลายผู้ให้บริการสาธารณูปโภคก็กำลังเตรียมปรับขึ้นค่าบริการเช่นกัน ได้แก่ คณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะประชุมขึ้นค่าทางด่วนใหม่วันที่ 1 กันยายน 2556 เช่น รถยนต์ 4 ล้อ ขึ้นจาก 45 บาทปรับเป็น 50 บาท และกรมเจ้าท่าจะพิจารณาขึ้นค่าเรือด่วนเจ้าพระยาอีกระยะทางละ 2 บาท รัฐเก็บภาษีได้ต่ำกว่า นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมากรมศุลกากรจัดเก็บภาษีได้น้อยลงถึง 10 % เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วทำให้มูลค่าสินค้านำเข้าลดลง ด้านนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีรายได้ครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2556 ได้รับผลกระทบจากระเบียบใหม่ที่ให้สามีภรรยาสามารถแยกยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ทำให้รายได้ของกรมฯ หายไปถึง 1.2 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเดิมที่คาดไว้ว่าจะลดลง 7 พันล้านบาท ในขณะที่อัตราการเก็บภาษีนิติบุคคลที่ลดลงเหลือ 20% ของกำไรสุทธิ และค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทลดลง ทำให้การเก็บภาษีของกรมสรรพากรหายไปอีก 1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ทำให้กรมสรรพากรต้องทำงานหนักที่จะทำให้ได้ตามเป้า 1.77 ล้านล้านบาท รัฐขาดดุลเงินสด 5.29 แสนล้านบาท สำนักงานเศรษฐกิจการคลังแถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2556 ว่า รัฐมีรายได้ 9.57 แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 1.45 แสนล้านบาท หรือ 17.9% เนื่องจากมีรายได้เพิ่มจากภาษีสรรพสามิตรถยนต์จากโครงการรถคันแรก และจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในขณะเดียวกันมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณถึง 1.37 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 1.02 แสนล้านบาท หรือ 8.1% ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 4.14 แสนล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลอยู่ 1.15 แสนล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 5.29 แสนล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 1.63 แสนล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 3.66 แสนล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.94 แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 160.5% ทุนสำรองประเทศลด 800 ล้านเหรียญสหรัฐ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานฐานะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ล่าสุดเมื่อ วันที่ 19 เมษายน 2556 ว่า อยู่ที่ระดับ 1.768 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.073 ล้านล้านบาท ลดลง 800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.34 หมื่นล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ระดับ 29.25 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากสัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 1.776 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.157 ล้านล้านบาท ออกพันธบัตรอีก 4 พันล้านบาทชดเชยงบขาดดุล กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 โดยการออกพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2 วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 3.50% ต่อปี อายุ 3 ปี จำนวน 1 รุ่นวงเงินซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท (1 หน่วย) และวงเงินซื้อขั้นสูง 2,000,000 บาท (2,000 หน่วย) รัฐควักอีก 3.9 พันล้านจ่ายค่ารถเมล์-รถไฟฟรี เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2557 วงเงินรวม 3,961 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 2,436 ล้านบาท อีกส่วนเป็นเงินอุดหนุนบริการสาธารณะขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 1,524 ล้านบาท มูดี้ส์คาดเศรษฐกิจไทยโต 5% บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้เผยแพร่รายงานล่าสุดเกี่ยวกับการวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2556 โดยยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินบาทและสกุลเงินตราต่างประเทศของประเทศไทย (Local and foreign government bonds) อยู่ที่ระดับ Baa1 และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2556 และ 2557 จะขยายตัวได้ 5% ต่อปี ออก 4 มาตรการอุ้มเอสเอ็มอี เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ4 มาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แก่ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี ยกเว้นค่าบริการในการต่อใบอนุญาตและค่าบริการออกหนังสือรับรองสิทธิประโยชน์ทางอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2556-57 ยกเว้นค่าธรรมเนียมและค่าบริการรายปีตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 เป็นเวลา 3 ปีหรือ 1 ตุลาคม 2556 - 30 กันยายน 2559 โครงการเงินร่วมทุนเพื่อพัฒนาเครื่องจักร แก้ กม. ให้ ขรก. กลับระบบบำนาญได้ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... โดยข้าราชการที่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่เข้ารับราชการก่อนวันที่ 27 มีนาคม 2540 และสมัครเป็นสมาชิก กบข. สามารถเลือกกลับไปใช้สิทธิบำเหน็จบำนาญตาม พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ได้ มีผลบังคับใช้ในปีงบ 2558 เป็นต้นไป โดยจะได้รับเงินสมทบคืนทั้งหมด ทั้งนี้ กรมบัญชีกลาง คาดว่าสมาชิก กบข. ที่เกษียณไปแล้วและยังไม่เกษียณจะเลือกกลับไปใช้ระบบบำนาญแบบเดิม 7.33 แสนคน