สิงหาคม 2555 : โพลชี้คนไทยติดประชานิยม โพลชี้คนไทยเสพติดประชานิยม กต.ยันรัฐบาลไม่ขอตัวทักษิณ ข้ามแดน สวนดุสิตโพล เผย ยิ่งลักษณ์ได้คะแนน 6.95 จาก 10 ปชป. ตั้ง 6 คำถามถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ รัฐเบรก กทม. สร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองบางซื่อ เตรียมทำประชาคมแก้ รธน. ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมายผ่านสภา ศาลสั่งถอนประกัน เจ๋ง ดอกจิก หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 1.23 แสนล้านบาท รัฐกู้เงินโปะงบขาดดุล ขึ้นภาษีสรรพสามิตเหล้าและบุหรี่ บริจาคการศึกษาและกีฬาหักภาษีได้ 2 เท่า ต่ออายุยกเว้นภาษีดีเซล อีก 1 เดือน ทักษิณ-สุริยะ พ้นผิดซีทีเอ็กซ์ เปิด 3 ช่องทางให้ประชาชนแจ้งเบาะแสคอร์รับชั่น ปรับเกณฑ์เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภาคใต้ย้อนหลัง สังคมไทยเสื่อม เด็กซึมเศร้า-อีคิวลด คนว่างงานเพิ่ม ยูเอ็นแนะทั่วโลกเตรียมรับภัยแล้ง โพลล์เผยคนไทยเริ่มเสพติดประชานิยม กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจ เรื่อง "นโยบายประชานิยมส่งผลดีหรือเสียต่อประเทศไทย" ระหว่างวันที่ 21-28 สิงหาคม 2555 70 นักเศรษฐศาสตร์จาก 27 องค์กรชั้นนำประเมิน 16 โครงการนโยบายประชานิยมดังนี้คือ มี 7 โครงการที่ไม่มีผลดี ได้แก่ โครงการรับจำนำข้าวเปลือก, โครงการแจกแท็บเลตพีซี, โครงการรถยนต์คันแรก, โครงการชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงบางประเภทชั่วคราวเพื่อให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงทันที, โครงการบัตรเครดิตพลังงานสำหรับผู้ประกอบการอาชีพรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสารสาธารณะ, โครงการเพิ่มเงินทุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอีกแห่งละ 1 ล้านบาท และโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีวงเงินจังหวัดละ 100 ล้านบาท 5 โครงการดีแต่ใช้วิธีดำเนินการไม่ถูกต้อง ได้แก่ โครงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน, โครงการจบปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท, โครงการพักหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อย, โครงการกองทุนพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นจำนวนเงิน 3-5 แสนบาทต่อหมู่บ้าน และโครงการเพิ่มเงินทุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอีกแห่งละ 1 ล้านบาท และมี 4 โครงการที่ดีคือ โครงการเบี้ยยังชีพคนชราแบบขั้นบันได, โครงการอินเทอร์เน็ตฟรีในที่สาธารณะ, โครงการบ้านหลังแรก (คืนภาษี-เพิ่มค่าลดหย่อน) และโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคได้จริง นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ร้อยละ 48.6 เชื่อว่าประชาชนเสพติดโครงการประชานิยมแล้ว รองลงมาร้อยละ 47.1 เชื่อว่าประชาชนเริ่มเสพติดโครงการประชานิยม และไม่มีนักเศรษฐศาสตร์คนใดเลยที่เห็นว่าคนไทยยังไม่เสพติดโครงการประชานิยม กต. ยันไม่ขอตัวทักษิณ ข้ามแดน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลงานครบรอบ 1 ปีรัฐบาล ว่า ได้ดำเนินงานเร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรม นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนต่างประเทศ 18 ประเทศ เพื่อเจริญสัมพันธไมตรี โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านสามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ดี และกล่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาล ไม่ดำเนินนโยบายเรื่องการขอให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมารับโทษในประเทศ ยิ่งลักษณ์สอบผ่านเกิน 6 จาก 10 คะแนน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นคนไทยทั่วประเทศ ในหัวข้อประเมินผลงาน 1 ปีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยพบว่า ประชาชนให้คะแนนความตั้งใจการทำงานของนายกรัฐมนตรีและคะแนนผลงานนายกรัฐมนตรี 6.95 และ 6.41 จากคะแนนเต็ม 10 ส่วนความตั้งใจในการทำงานของคณะรัฐมนตรีทั้งชุด ให้ 6.25 จาก 10 คะแนน ขณะเดียวกัน ประชาชนให้คะแนนผลงานยอดเยี่ยมอันดับ 1 คือ การปราบยาเสพติด ร้อยละ 35.58 รองลงมา คือ การขึ้นเงินเดือน ร้อยละ 26.76 และผลงานยอดแย่อันดับ 1 คือ การแก้ปัญหาราคาสินค้าแพง ร้อยละ 32.12 รองลงมา คือ การแก้ปัญหาน้ำท่วม ร้อยละ 19.45 ปชป. ตั้ง 6 คำถามถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2555 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้เปิดแถลงครบรอบ 1 ปีรัฐบาล โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายกฯ เงา บอกว่า พรรคได้ประเมินผลงานของรัฐบาลใน 6 เรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนมากที่สุด และตั้งคำถามฝากไปยังรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรในเรื่องต่อไปนี้ การลดค่าครองชีพของประชาชน เช่นปัญหาน้ำมัน และสินค้าแพง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา การสร้างความปรองดองที่แท้จริงด้วยการถอนร่างกฎหมายล้างผิด การแก้ปัญหาภาคใต้อย่างจริงจัง โครงการป้องกันน้ำท่วม และการใช้งบน้ำท่วม การลดหนี้ของประชาชนและหนี้ประเทศ รัฐเบรคโปรเจคกทม.ขุดอุโมงค์น้ำ2พันล้าน เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2555 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ถอนวาระโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ จากคลองลาดพร้าวถึงแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากยังขาดความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้ กทม. กลับไปศึกษาเพิ่มเติม ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างอุโมงค์ฯ ได้รับงบประมาณอุดหนุนจากรัฐบาลปี 51-56 วงเงิน 2.45 พันล้านบาท และได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว ในปีนี้ได้ขออนุมัติงบผูกพันข้ามปีงบประมาณ 1 พันล้านบาท พร้อมเสนอรายงานผลการดำเนินจัดจ้าง เตรียมทำประชาคม แก้ รธน. เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2555 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การสร้างความสมดุลในการใช้อำนาจองค์กรต่างๆ 2. ความสมดุลระหว่างความโปร่งใสตรวจสอบได้ เสถียรภาพ และความต่อเนื่องในการบริหารราชการแผ่นดิน และ 3. การใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ ให้เป็นไปตามกลไกการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยกำหนดให้มีการจัดทำประชาคม ประกอบด้วย คณะกรรมการในส่วนกลาง จังหวัดและอำเภอ และกระทรวงมหาดไทยได้เสนอให้มีการจัดประชุมสัมมนาและรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชน ในพื้นที่ 2,016 ชุมชน และ 79,888 หมู่บ้าน เพื่อสรุปนำเสนอ ครม. ต่อไป สภาไฟเขียว พ.ร.บ.เข้าชื่อเสนอ กม. เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2555 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ 355 เสียง ต่อ 6 เสียง เห็นชอบวาระ 3 ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย มีสาระสำคัญว่าการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ต้องมีผู้ริเริ่มซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน ดำเนินการรวบรวมลายมือชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 1 หมื่นชื่อ จึงจะเสนอต่อประธานรัฐสภาได้ ศาลถอนประกัน เจ๋ง ดอกจิก เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2555 ศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำ นปช. เนื่องจากมีพฤติการณ์เข้าข่ายยั่วยุปลุกปั่น จากการปราศรัยละเมิดสิทธิ์ครอบครัวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เพิกถอนการประกันตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ และแกนนำ นปช. คนอื่นๆ เพียงแต่ มีคำสั่งเพิ่มเติมห้ามบุคคลที่ได้รับการประกันตัวขึ้นเวทีปราศรัยยุยงหรือปลุกปั่นให้ประชาชนกระทำการผิดกฎหมาย และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนเวลาการปล่อยตัวชั่วคราวของจำเลยแต่ละรายแตกต่างกัน หนี้รัฐพุ่งอีก 1.23 แสนล้านบาท นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 มีจำนวน 4.79 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 43.34% ของจีดีพี เป็นหนี้ของรัฐบาล 3.5 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.02 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 2.46 แสนล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 1.23 แสนล้านบาท รัฐกู้เงินโปะงบขาดดุล นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1.56 ล้านล้านบาท ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1.9 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 6.75 หมื่นล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณ 3.4 แสนล้านบาท เมื่อรวมกับการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 3.64 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 3.76 แสนรัฐบาลจึงได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 2.57 แสนล้านบาท ขึ้นภาษีสรรพสามิตเหล้า บุหรี่ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2555 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตสุราและยาสูบ โดยให้มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม เป็นต้นไป โดยบุหรี่ 8 ยี่ห้อจะต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้น 6-8 บาท/ซอง สุราผสม ปรับภาษีสรรพสามิตเพิ่มเป็น 120 บาทต่อลิตร และสุราต่างประเทศ เพิ่มเป็น 400 บาทต่อลิตร คาดว่าจะทำให้รายได้ของกรมสรรพสามิตเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10,000 ล้านบาท บริจาคโรงเรียน-กีฬา หักภาษีได้ 2 เท่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2555 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษาและการกีฬา โดยให้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่บริจาคให้แก่โรงเรียน สามารถนำรายจ่ายดังกล่าวมาเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษา ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้สุทธิ ทั้งนี้ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีทั้งหมดข้างต้น มีผลบังคับสำหรับรายจ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ครม. ขยายเวลาลดภาษีดีเซลอีก 1 เดือน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2555 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายเวลายกเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่อไปอีก 1 เดือน โดยให้สิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2555 จากเดิมที่ ครม. เคยมีมติให้สิ้นสุดในวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ทักษิณ-สุริยะ พ้นผิดซีทีเอ็กซ์ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2555 ที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่สั่งฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม และผู้บริหารบริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.) ในคดีการจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจจับระเบิด (ซีทีเอ็กซ์ 9000) และการก่อสร้างระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากเห็นว่าไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ เปิด 3 ช่องทางแจ้งคอร์รัปชั่น น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดโครงการประเทศไทยก้าวไกล ไร้ทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเปิด 3 ช่องทางร้องเรียนเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ได้แก่ ตู้รับเรื่องร้องเรียนทุจริตทั่วประเทศ สายด่วน 1206 และสื่อออนไลน์ www.stopcorruption.co.th เพื่อรับข้อมูลจากประชาชน โดยข้อมูลทั้งหมดที่ประชาชนร้องเรียนจะส่งตรงถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้แต่ละทีมงานตรวจสอบต่อไป ปรับเกณฑ์เยียวยาใต้เพิ่มย้อนหลัง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2555 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์ การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่เสียชีวิต ทุพพลภาพ บาดเจ็บ ให้ครอบคลุมทั้งประชาชนทั่วไป รวมถึงพระสงฆ์ นักบวชในศาสนาอื่น นักท่องเที่ยวต่างชาติ จากเดิมรายละ 100,000 ถึง 200,000บาท ให้เท่าเทียมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐย้อนหลังไปตั้งแต่เดือนมกราคม 2547 เป็น 500,000 บาท โดยจะทยอยปีละ 100,000 บาท ให้เสร็จสิ้นภายในปีงบประมาณ 2558 ส่วนกรณีผู้สูญเสียและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากเหตุการณ์ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และมัสยิดกรือเซะ อ.เมือง จ.ปัตตานี รวมถึงกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นการเยียวยาที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐจะได้รับการเยียวยามากกว่ากรณีอื่น รายละ 7.5 ล้านบาท และ 4 ล้านบาท ตามลำดับ สศช. เผยเด็กไทยซึมเศร้า-อีคิวลด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2555 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงสรุปรายงานภาวะสังคมไตรมาส 2 ปี 2555 พบว่า เด็กไทยเสียเปรียบประเทศอื่นในประชาคมอาเซียนในเรื่องภาษาอังกฤษและความหลากหลายของภาษา มีคะแนนการทดสอบการใช้ภาษาอังกฤษหรือโทเฟล (TOEFL) เฉลี่ยอยู่ในลำดับที่ 55 ของโลก ต่ำกว่าหลายประเทศในอาเซียน และเด็กไทยระดับมัธยมถึงอุดมศึกษาประมาณ 1 ล้านคน เสี่ยงที่จะมีปัญหาสุขภาพจิต ซึมเศร้าและหงุดหงิดไม่รู้สาเหตุ ประชากรวัยทำงานมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 0.85 หรือคิดเป็นผู้ว่างงาน 334,121 คน ในขณะที่ทุกปีมีผู้จบการศึกษาใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานถึง 521,199 คน ยูเอ็นแนะทั่วโลกเตรียมสู้ภัยแล้ง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมอุตุนิยมวิทยาโลกแห่งสหประชาชาติ (ดับเบิลยูเอ็มโอ) ได้เตือนให้ทั่วโลกปรับใช้นโยบายการจัดการภัยแล้งอย่างเร่งด่วน ทั้งการสำรองน้ำให้มากขึ้นและบริโภคให้น้อยลง หลังจากที่ชาวนาตั้งแต่ในแอฟริกาจนถึงอินเดีย ต่างประสบปัญหาฝนแล้ง เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ซึ่งเกิดวิกฤตการณ์แล้งครั้งรุนแรงที่สุดในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ นอกจากปีนี้ จะมีสถิติความร้อนและแล้งรุนแรงที่สุดในหลายพื้นที่ซีกโลกเหนือแล้ว น้ำแข็งขั้วโลกเหนืออาจละลายมากที่สุดด้วย