มีนาคม 2554 : นายกฯ และ 9 รมต. ผ่านโหวตไม่ไว้วางใจ นายกฯ และ 9 รัฐมนตรี สอบผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับผ่านรัฐสภาวาระแรก ประกาศรายชื่อ 375 เขตเลือกตั้ง ศาลรัฐธรรมนูญชี้ยังไม่ถึงเวลาวินิจฉัยกรอบเจบีซี 3 ฉบับ วุฒิสภาร่างงบประมาณรายจ่ายกลางปี 2554 นปช. ได้ประกันตัวครบ ศาลสั่งพันธมิตรฯ จ่าย 522 ล้าน ค่าปิดสนามบิน ขยาย กม.มั่นคง ใน กทม. ออกไปอีก 30 วัน หั่นชื่อ ก. การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนนอกระบบ ขึ้นเงินเดือนลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ รายได้ไม่ถึง 50,000 บาท คนไทย 83.4 % ไม่เอาไฟฟ้านิวเคลียร์ โหวตผ่าน อภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2554 หลังจากที่พรรคฝ่ายค้าน เพื่อไทย ได้ทำการอภิปรายเพื่อตรวจสอบและถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 8 คน มาตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 18 มีนาคม 2554 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็ได้มีการลงมติ โดยทั้ง 9 ได้คะแนนดังต่อไปนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ: ไว้วางใจ 249 เสียง ไม่ไว้วางใจ 184 เสียง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี: ไว้วางใจ 249 เสียง ไม่ไว้วางใจ 185 เสียง นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง: ไว้วางใจ 245 เสียง ไม่ไว้วางใจ 185 เสียง นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร: ไว้วางใจ 247 เสียง ไม่ไว้วางใจ 185 เสียง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี: ไว้วางใจ 246 เสียง ไม่ไว้วางใจ 182 เสียง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย: ไว้วางใจ 250 เสียง ไม่ไว้วางใจ 188 เสียง นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม: ไว้วางใจ 248 เสียง ไม่ไว้วางใจ 188 เสียง นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์: ไว้วางใจ 251 เสียง ไม่ไว้วางใจ 186 เสียง นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์: ไว้วางใจเพียง 243 เสียง ไม่ไว้วางใจ 188 เสียง และสำหรับนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ถูกยื่นขออภิปรายแต่มิได้มีสถานภาพเป็น ส.ส. นั้น ได้รับเสียงไว้วางใจ 247 เสียง ไม่ไว้วางใจ 188 เสียง กฎหมายลูก รธน. 3 ฉบับผ่านสภาวาระแรก เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2554 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติ ผ่านร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับในวาระแรก ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 36 คน ประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี 5 คน และ ส.ส.อีก 31 คน แบ่งเป็นพรรคเพื่อไทย 12 ประชาธิปัตย์ 11 ภูมิใจไทย 2 เพื่อแผ่นดิน 2 ชาติไทยพัฒนา 2 รวมชาติพัฒนาและกิจสังคม 1 มาตุภูมิและประชาราช 1 ซึ่ง ครม. มอบสัดส่วนให้ กกต. กำหนดแปรญัตติภายใน 7 วัน เป็นที่คาดหมายว่าหลังจากกฎหมายทั้งสามฉบับผ่านเรียบร้อยแล้ว นายกรัฐมนตรีคงจะประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ประกาศชื่อ 375 เขตเลือกตั้งใหม่ ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่รายชื่อเขตเลือกตั้งใหม่ทั้ง 375 เขตพร้อมจำนวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละจังหวัดแล้ว โดยแต่ละเขตจะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 170,342 คน คนต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งคน จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้ง และ ส.ส. มากเรียงลำดับลงไป ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 33 คน นครราชสีมา 15 คน อุบลราชธานี 11 คน เชียงใหม่ 10 คน ขอนแก่น 10 คน นครศรีธรรมราช 9 คน และบุรีรัมย์ 9 คน แต่ในประกาศดังกล่าวยังขาดจังหวัดบึงกาฬ เนื่องจาก พ.ร.บ.ตั้งจังหวัดจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2554 ดังนั้นจำนวน ส.ส. 5 คนของจังหวัดบึงกาฬจึงยังรวมอยู่ในจังหวัดหนองคาย ศาล รธน. ชี้ยังไม่ถึงเวลาวินิจฉัยกรอบเจบีซี 3 ฉบับ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้จำหน่ายคำร้องกรณีบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ทั้ง 3 ฉบับออก เนื่องจากเรื่องดังกล่าวยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด เพราะยังมีขั้นตอนอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ จะต้องพิจารณาดำเนินการเสียก่อน ในชั้นนี้จึงยังไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์การวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 6 ประกอบมาตรา 154 วรรค 1 (1) ทั้งนี้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาได้ส่งความเห็นของสมาชิกรัฐสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด ว่าบันทึกการประชุมเจบีซี รวม 3 ฉบับ เป็นหนังสือสัญญาที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 หรือไม่ วุฒิฯ ผ่านงบกลางปี 54 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2554 ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเอกฉันท์ 36 เสียง และงดออกเสียง 25 เสียง เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 วงเงิน 9.9 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ได้มีการอภิปรายเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างกลไกตรวจสอบการใช้งบประมาณตามที่มีคำครหาว่าเป็นการจัดสรรงบประมาณเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง จากนี้วุฒิสภาจะส่งร่าง พ.ร.บ. ให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้ต่อไป ศาลปล่อยครบ 23 นปช. เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2554 ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวนายอร่าม แสงอรุณ นายมานพ ชาญช่างทอง และนายสมพงษ์ บางชม จำเลยร่วม 19 แกนนำ นปช. ที่ถูกข้อกล่าวหาว่าก่อการร้ายในระหว่างการชุมนุมเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 นอกจากนี้ศาลยังได้ให้ปล่อยตัวจำเลยอีกสองคน คือ นายเดชพล พุทธจง และนายกำพล คำคง ในคดีระเบิดพรรคภูมิใจไทยด้วย ทั้งนี้ ทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดประกันสามคนแรกคนละ 600,000 บาท ส่วนอีกสองคนหลัง คนละ 500,000 บาท ศาลสั่งพันธมิตรจ่าย 522 ล้านค่าปิด 2 สนามบิน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2554 ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก พิพากษาให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กับพวกที่เป็นแกนนำร่วม รวม 13 คน ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินรวม 522 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่ 3 ธันวาคม 2551 ให้แก่บริษัท การท่ากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ตามความผิดที่นำกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 ทั้งนี้ ศาลยังได้ให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าฤชาทนายความของโจทก์เป็นเงิน 8 หมื่นบาท อีกด้วย ต่ออายุ พ.ร.บ.มั่นคง ใน กทม. เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่ 7 เขต ของ กทม. ออกไปอีก 30 วัน จนถึงวันที่ 24 เมษายน 2554 จากที่จะสิ้นสุดการบังคับใช้ในวันที่ 25 มีนาคม 2554 เปลี่ยนชื่อกระทรวง พม. ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2554 มีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นกระทรวงการพัฒนาสังคม และกำหนดแบ่งส่วนราชการใหม่ออกเป็น 7 ส่วนราชการ ดังนี้ 1. สำนักงานรัฐมนตรี 2. สำนักงานปลัดกระทรวง 3. กรมกิจการเด็กและเยาวชน 4. กรมกิจการผู้สูงอายุ 5. กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว 6. กรมประชาสงเคราะห์ และ 7. กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ร่างมาตรา 3 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 16 และมาตรา 17) สิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนนอกระบบ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2554 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติข้อเสนอของกระทรวงแรงงาน ที่เสนอให้ผู้ที่มิได้อยู่ในระบบประกันสังคมสามารถรับสิทธิประโยชน์ในจากการเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายและชราภาพได้ใน 2 กรณี คือ 1. ผู้ที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเดือนละ 100 บาท จะได้รับประโยชน์ทดแทนเมื่อประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และตาย 2. ผู้ที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเดือนละ 150 บาท จะได้รับประโยชน์ทดแทนเมื่อ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และชราภาพ โดยในกรณีตายทายาทหรือบุคคลที่ระบุไว้จะเป็นผู้ได้รับสิทธิประโยชน์ ขึ้นเงินเดือนลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ รายได้ไม่ถึง 50,000 บาท เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2554 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอให้รัฐวิสาหกิจทั้ง 65 แห่งสามารถขึ้นค่าจ้างไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้งบประมาณของตนเองปรับขึ้นเงินเดือนให้แก่พนักงานที่มีเงินเดือนไม่เกินเดือนละ 5 หมื่นบาทได้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีมติเห็นชอบให้จ่ายโบนัส 1 เดือน แก่พนักงานธนาคารเฉพาะกิจ 5 แห่ง ที่เข้าร่วมปล่อยสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ทั้งนี้ ครม. เห็นว่ายอดการปล่อยสินเชื่อเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด คนไทย 83.4 % ไม่เอาไฟฟ้านิวเคลียร์ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องทัศนคติต่อการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.4 ไม่เห็นด้วยกับการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย ในขณะที่ร้อยละ 16.6 ยังคงเห็นด้วย แต่เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะมีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัดที่ท่านพักอาศัย พบว่า มีเพียงร้อยละ 10.5 เท่านั้นที่เห็นด้วย แต่ส่วนใหญ่ร้อยละ 89.5 ไม่เห็นด้วย การสำรวจความเห็นครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์ ตามด้วยคลื่นยักษ์สึนามิที่จังหวัดมิยางิของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่ออาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง การคมนาคมขนส่ง ระบบสาธารรูปโภคและสาธารณูปการ รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่จังหวัดฟูกุชิมะจนทำให้ทางการต้องสั่งอพยพผู้ที่ตั้งบ้านเรือนในรัศมี 20-30 กิโลเมตรจากโรงไฟฟ้าออกไปจากพื้นที่เนื่องจากมีกัมมันตรังสีรั่วไหล ประเทศไทยนั้นแม้จะยังไม่มีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่ก็เคยมีการสำรวจหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการตั้งโรงไฟฟ้า รวมทั้งเคยมีการทำรายงานว่าในอนาคตหากไม่สร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์อาจจะเกิดวิกฤติขาดแคลนพลังงานหรือราคาค่าไฟฟ้าสูงมาก ทั้งนี้ เนื่องจากนิวเคลียร์เป็นเชื้อเพลิงที่ให้พลังงานไฟฟ้าที่มีต้นทุนไม่สูงเมื่อเทียบกับพลังงานถ่านหินหรือปิโตรเลียมที่กำลังจะหมดไป