ธันวาคม 2553 : พระราชทานพรปีใหม่: จงมีสุขด้วยการ “ให้”! พระราชทานพรปีใหม่ : จงมีสุขด้วยการ “ให้” ผลงานรัฐบาลหลังครบ 2 ปี ปชป. รอดซ้ำ ศาล รธน. ยกคำร้อง ทหารกัมพูชา จับ 7 คนไทย ล้ำแดน เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครบทุกจังหวัด จำคุก 85 นักรบศรีวิชัย ศาลถอนคำสั่งเก็บภาษีโอ๊ค-เอม ขายหุ้นชินคอร์ป จำคุก อดีต กกต. ขึ้นเงินเดือนตัวเอง ชาวบ้านคลิตี้ ได้ค่าชดเชย 35 ล้าน! “อภิรักษ์” ชนะเลือกตั้งซ่อม กทม. จตุพรยังรอดคุก แต่ศาลสั่งห้ามชุมนุมการเมือง ต่ออายุมาตรการอุ้มค่าครองชีพ ถึงสิ้น ก.พ. 54 ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 8-17 บาท ทั่วประเทศ พระราชทานพรปีใหม่ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2553 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพรปีใหม่ ประจำปีพุทธศักราช 2554 แก่ประชาชนไทย โดยขอให้ทุกคนมีความสำเร็จสมประสงค์ในสิ่งที่ปรารถนา “ความปรารถนาของทุกคนคงไม่แตกต่างกันนัก คือ ต้องการให้ตนเองมีความสุขความเจริญ และให้บ้านเมืองมีความสงบร่มเย็น ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเห็นคนไทยมีความสุขถ้วนหน้าด้วยการให้ คือ ให้ความรักความเมตตากัน ให้น้ำใจไมตรีกัน ให้อภัยกัน ให้การสงเคราะห์อนุเคราะห์กัน โดยมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกันด้วยความบริสุทธิ์ใจและจริงใจ ทุกคน ทุกฝ่าย จะได้สามารถร่วมมือ ร่วมความคิดอ่านกันสร้างสรรค์ความสุข ความเจริญมั่นคงให้แก่ตน แก่ประเทศชาติ อันเป็นสิ่งที่แต่ละคนต้องการให้สำเร็จผลได้ดังที่ใจปรารถนา” ผลงานรัฐบาลหลังครบ 2 ปี เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2553 นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงว่า หลังครบ 2 ปี ที่ได้เป็นรัฐบาลได้พัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ อาทิเช่น เพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) จากที่เคยชะลอตัวลงอย่างรุนแรงติดลบที่ร้อยละ 2.33 เป็นบวกอย่างน้อยร้อยละ 7.9 ลดจำนวนคนว่างงานลงเหลือเพียง 343,000 คน (0.9%) จากที่มีการคาดการณ์กันไว้ว่าอาจสูงถึง 2 ล้านคนในปี 2551 เพิ่มมูลค่าการส่งออกจากเดิม 11,800 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 17,700 ล้านเหรียญสหรัฐ (ตัวเลขเดือนพฤศจิกายน 2551 และ พฤศจิกายน 2553) เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากปีละ 14.6 ล้านคน เป็น 15.2 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าเป้าที่วางไว้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้นจาก 449.96 จุด เป็น 1,002.90 จุด เพิ่มราคาสินค้าเกษตร ได้แก่ ราคาข้าว เพิ่มสูงขึ้นเป็น 13,645 บาท/ตัน (เดิมอยู่ที่ 12,755 บาท/ตัน) ราคาข้าวโพด เพิ่มสูงขึ้นเป็น 8.67 บาท/กก. (เดิมอยู่ที่ 6.51 บาท/กก.) ราคามันสำปะหลัง เพิ่มสูงขึ้นเป็น 3.25 บาท/กก. (เดิมอยู่ที่ 1.16 บาท/กก.) ราคายาง เพิ่มสูงขึ้นเป็น 117 บาท/กก. (เดิมอยู่ที่ 34 บาท/กก.) ราคาปาล์มน้ำมัน เพิ่มสูงขึ้นเป็น 6.67 บาท/กก. (เดิมอยู่ที่ 3.31 บาท/กก.) นอกจากนี้ยังมีการดำเนินนโยบายด้านสังคม ได้แก่ ลดภาระการครองชีพ โดยให้ใช้ไฟฟ้า ประปา รถไฟ และรถเมล์ฟรี เรียนฟรี 15 ปี จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 5.7 ล้านคน ประกันสุขภาพคนไทย 63 ล้านคน จ่ายค่าตอบแทนอาสาสมัครหมู่บ้าน 976,343 คน ประกันรายได้เกษตรกร 4 ล้านราย เป็นเงิน 36,498 ล้านบาท แก้ปัญหาหนี้นอกระบบไปแล้ว กว่า 6 แสนราย จากที่เข้าโครงการทั้งหมด 1 ล้านราย อนุมัติการออกโฉนดชุมชนแล้ว 35 แปลง ให้ผู้ไร้ที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินเพื่อเกษตรกรรม ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ปรับปรุงโรงเรียน 2,930 แห่ง ถนน 900 สาย กว่า 3 ล้านกิโลเมตร แก้ปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยตั้งกรรมการแก้ปัญหาและติดตามผล ให้เก็บภาษีจากผู้ก่อมลพิษ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครอบครัวละ 5,000 บาทแล้วกว่า 6 แสนครอบครัวเป็นเงินกว่า 3 พันล้านบาท จัดตั้งธนาคารที่ดิน จัดสรรการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกร เตรียมพัฒนาระบบการขนส่งระบบราง โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงร่วมกับจีน รถไฟฟ้า 5 สายใน กทม. และวางรากฐานรองรับการพัฒนาประเทศเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงราคาถูกให้เข้าถึงประชาชน 40 ล้านคน ในปี 2558 เตรียมประกาศแผนปฏิรูปประเทศไทย สร้างความเท่าเทียมและเป็นธรรม ทั้งด้านเศรษฐกิจ สวัสดิการสังคม การเมืองและกระบวนการยุติธรรม และการศึกษา เพื่อสร้างความปรองดองให้กับคนไทยทั้งชาติ ศาล รธน. ยกอีกคำร้องยุบ “ปชป.” เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2553 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 4 ต่อ 3 ให้ยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินบริจาค 258 ล้าน ด้วยเหตุผลว่า การยื่นคำร้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะข้ามขั้นตอน เนื่องจากไม่มีความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมืองก่อนที่จะนำเรื่องเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คดีนี้สืบเนื่องจากที่อัยการสูงสุด ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากกระทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงการรายงานการรับเงินบริจาค 258 ล้านบาท จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านทางบริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด ทหารกัมพูชา จับ7 คนไทย เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2553 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น และนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม. เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะรวม 10 คน ได้เดินทางไปตรวจสอบหลักเขตชายแดนที่ 48 ท้ายบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยระหว่างตรวจสอบ ได้ถูกกลุ่มทหารกัมพูชาเข้าจับกุมตัว โดยอ้างว่าคนไทยทั้งสิบรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนกัมพูชา แต่ 3 คนหลบหนีไปได้ เบื้องต้นศาลแขวงกัมพูชาได้ไต่สวนคนไทยทั้ง 7 ที่ถูกจับกุม พร้อมตั้งข้อกล่าวหาว่าเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และบุกรุกพื้นที่ทหารโดยไม่ได้รับอนุญาต ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 4 จว.ที่เหลือ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ที่เหลือ 4 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2553 เป็นต้นไป พร้อมมีมติตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ขึ้นมาทดแทนศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก เป็นผู้อำนวยการ ศตส. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหม เป็นประธาน ศตส. จำคุกนักรบศรีวิชัย เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 ศาลได้มีคำพิพากษาสั่งจำคุกการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือที่เรียกกันว่า “นักรบศรีวิชัย” จำนวน 85 นาย ในความผิดร่วมกันพกอาวุธบุกรุกอาคารสำนักงานสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีและทำลายทรัพย์สินเสียหายทั้งสิ้นกว่า 6 แสนบาท เมื่อวันที่ 22-25 สิงหาคม 2551 ศาลเพิกถอนเก็บภาษีโอ๊ค-เอม ขายหุ้นชินคอร์ป เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ศาลภาษีอากรกลาง มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์การประเมินภาษีของกรมสรรพากร ที่มีคำสั่งเรียกเก็บเงินภาษีการขายหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น จากนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร เป็นเงินคนละ 5,677,136,572.88 บาท และ 5,676,860,088 บาท ตามลำดับ โดยให้เหตุผลว่าหุ้นดังกล่าวเป็นของบิดาคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ได้มอบอำนาจให้ น.ส.กาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องกรมสรรพากร และ คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ศาลได้สั่งให้จำเลยที่ 1 คือ กรมสรรพากร ชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมให้แก่โจทก์ คือ ค่าทนายความ 150,000 บาท อดีต กกต. เจอคุก 2 ปีฐานขึ้นเงินเดือนตัวเอง เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ศาลอาญารัชดา ได้พิพากษาจำคุก พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรรมการอีก 4 นาย คือ นายปริญญา นาคฉัตรีย์ นายวีระชัย แนวบุญเนียร และ พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ อดีต กกต. เป็นเวลาคนละ 2 ปี แต่ให้รอลงอาญา ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีที่จำเลยทั้ง 4 คนหลังได้ร่วมกันมีมติเห็นชอบการเพิ่มเงินพิเศษของประธานและคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2547 และหลังจากนั้นได้ให้ พล.ต.อ.วาสนา ประธาน กกต. ในขณะนั้น ออกระเบียบย้อนหลังเพื่อจ่ายเงินให้แก่กรรมการทั้งหมดรายละ 400,000 บาท ชาวบ้านห้วยคลิตี้ ได้เงินชดเชย 35 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้พิพากษา ให้บริษัท ตะกั่ว คอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชดใช้ค่าเสียหายให้ชาวบ้านหมู่บ้านคลิตี้ล่าง ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ และ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี จำนวน 151 คน เป็นเงินทั้งสิ้น 35,800,000 บาท พร้อมแก้ไขฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ ด้วยการนำสารตะกั่วที่ตกค้างในลำห้วยออกให้หมด ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัท ฯ กว่า 1 พันล้านบาท ในฐานะก่อมลพิษด้วยการปล่อยสารตะกั่วลงในลำห้วยคลิตี้ จนทำให้ชาวบ้านล้มป่วยและเสียชีวิต “อภิรักษ์” ชนะเลือกตั้งซ่อม กทม. เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2553 คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้แถลงถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. 5 เขตใน 5 จังหวัด ดังนี้ กทม. เขต 2 ได้แก่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ขอนแก่น เขต 2 ได้แก่ ว่าที่ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย นครราชสีมา เขต 6 ได้แก่ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย สุรินทร์ เขต 3 ได้แก่ นายศุภรักษ์ ควรหา ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย พระนครศรีอยุธยา เขต 1 ได้แก่ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ผู้สมัครจากพรรคชาติไทยพัฒนา การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 54.85 จตุพรรอดนอนคุก แต่ศาลสั่งห้ามชุมนุมอีก เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2553 ศาลอาญา มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอถอนการประกันตัวชั่วคราว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แต่เห็นควรให้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม โดยห้ามมิให้จำเลยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป รวมทั้งห้ามเผยแพร่ข้อมูลทางการเมืองที่จะทำให้เสียหายต่อรูปคดี เว้นแต่จะเป็นการอภิปรายในรัฐสภาในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ทั้งนี้ ตามที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ยื่นขอให้ศาลมีคำสั่งถอนการปล่อยตัวชั่วคราว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ใช้ หรือสนับสนุน ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานก่อการร้าย ต่ออายุมาตรการช่วยค่าครองชีพ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ ประกอบด้วย ค่าไฟฟรี รถเมล์ฟรี และรถไฟฟรี ออกไปอีก 2 เดือน ไปสิ้นสุดที่เดือนกุมภาพันธ์ 2554 ทั้งนี้ การต่ออาอายุมาตรการดังกล่าว รัฐจะต้องใช้งบประมาณทั้งหมด 3,085 ล้านบาท แบ่งเป็นงบฯ ในส่วนของค่าไฟฟ้า รวม 2,488 บาท เป็นส่วนที่ต้องจ่ายให้กับ กฟผ. 261 บาท และส่วนภูมิภาค 2,226 บาท งบในส่วนของรถไฟฟรี 177 ล้านบาท และงบฯ ในส่วนของรถเมล์ฟรีที่ต้องจ่ายให้กับ ขสมก. 420 ล้านบาท ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 8-17 บาททั่ว ปท. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2553 ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำปี 2554 ทั่วประเทศในอัตรา 8-17 บาท ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป โดยจังหวัดที่ได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างต่ำสุด 8 บาท มี 7 จังหวัด ได้แก่ พะเยา ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี และประจวบคีรีขันธ์ ส่วนจังหวัดที่ได้รับการปรับเพิ่มสูงสุด 17 บาท มีเพียงจังหวัดเดียว คือ ภูเก็ต จากเดิม 204 บาท เป็น 221 บาท