สิงหาคม 2553 : มติสภา 253:178 ผ่านงบฯ ปี 54 ข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเร่งด่วน 6 ประเด็น สภา ผ่านงบฯ ปี 54 ด้วยคะแนน 253 : 178 เลือกตั้ง ส.ก. พท. พ่าย ปชป. ครม. ตีกลับโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีมติ 103 ต่อ 4 ไม่รับอุทธรณ์ยึดทรัพย์ ยิง M79 ถล่มคิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ รอบสอง ไทย-กัมพูชา ฟื้นสัมพันธ์การทูต หลัง “ทักษิณ” พ้นที่ปรึกษาฯ กัมพูชา ไม่รับเงินช่วยเหลือจากไทยสร้างถนน โอบามา ประกาศยุติภารกิจการสู้รบในอิรัก จีน – ไทย ร่วมลงทุนรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง ครูอัตราจ้างได้ปรับเป็นพนักงานข้าราชการ ร้านเหล้าหน้ามหาวิทยาลัยเพิ่มต่อเนื่อง คลังเปิดทางให้ ขรก. รักษา ร.พ. เอกชนได้ ก.พ. เตรียมออกกฎเอาผิดข้าราชการล่วงละเมิด-คุกคามทางเพศ ป.ป.ช. ส่งทนายฟ้องคดีทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิงและที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ไทยรั้งที่ 6 ละเมิดลิขสิทธิ์ในเอเชีย สรุปข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เร่งด่วน 6 ประเด็น ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นประธาน คณะกรรมการพิจารณาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้สรุปข้อเสนอแก้ไขเร่งด่วน 6 ประเด็น เสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1. เรื่องการทำสัญญากับต่างประเทศ ต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา โดยให้ระบุชัดเจนว่าสัญญาประเภทใดบ้างที่รัฐบาลต้องขออนุมัติสภา (มาตรา 190) 2. แก้ไขระบบเลือกตั้ง ส.ส. จากระบบแบ่งเขตเรียงเบอร์ กลับไปใช้ระบบเขตเดียวเบอร์เดียว และให้ ส.ส. ลงสมัครเลือกตั้งโดยไม่ต้องสังกัดพรรคการเมือง 3. ลดจำนวน ส.ส.ระบบเขต จาก 400 คน เหลือ 375 คน และเปลี่ยนระบบ ส.ส.สัดส่วน 8 กลุ่ม 80 คน กลับไปใช้ระบบปาร์ตี้ลิสต์ แต่เพิ่มจำนวน ส.ส. เป็น 125 คน 4. ส.ส. ส.ว. สามารถติดตามการทำงานของข้าราชการเฉพาะกรณีที่เกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน (มาตรา 266) 5. ที่มาของวุฒิสภากำหนดให้มาจากการเลือกตั้ง 77 คน และสรรหา 73 คน รวมเป็น 150 คน 6. ไม่ให้ยุบพรรคการเมือง และให้ลงโทษ กรรมการบริหารพรรค เฉพาะบุคคล ส่วนกรรมการบริหารพรรคที่ไม่ได้ร่วมทำความผิด ไม่ต้องถูกลงโทษและไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี (มาตรา 237) ซึ่งรัฐบาลจะได้เสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเร่งด่วน 6 ประเด็นนี้ เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2553 ต่อไป สภา ผ่านงบฯ ปี 54 ด้วยคะแนน 253 : 178 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2553 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ 253 ต่อ 178 งดออกเสียง 14 ไม่ลงคะแนน 21 เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 วงเงิน 2.07 ล้านล้านบาท หลังจากที่ได้มีการอภิปรายเกือบ 5 วันเต็ม โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณกรรมาธิการและ ส.ส. ที่เห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ และยืนยันว่ารัฐบาลจะนำงบประมาณดังกล่าวไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติด้วยความเป็นธรรมและโปร่งใส ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน ที่ประชุมสภาฯ มีมติ 249 ต่อ 178 เห็นชอบมาตรา 30 งบประมาณรายจ่ายของรัฐวิสาหกิจ วงเงิน 115,501 ล้านบาท เลือกตั้ง ส.ก. พท. พ่าย ปชป. สรุปผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) 50 เขต หลังการนับคะแนนเสร็จสิ้น ปรากฏว่า มีผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ก. จำนวนทั้งสิ้น 61 คน จาก 50 เขต แยกเป็นผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ 45 คน จากพรรคเพื่อไทย 15 คน และผู้สมัครอิสระ 1 คน การเลือกตั้ง ส.ก. มีจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 6,433 หน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 4,139,075 คน มีผู้มาแสดงตนใช้สิทธิเลือกตั้ง 1,703,206 คน คิดเป็นร้อยละ 41.15 จากเดิมร้อยละ 41.94 เขตที่มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ก. มากที่สุด ได้แก่ เขตภาษีเจริญ คิดเป็นร้อยละ 45.21 และเขตที่มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ก. น้อยที่สุด ได้แก่ เขตวัฒนา คิดเป็นร้อยละ 35.03 ครม. ตีกลับโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2553 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติไม่อนุมัติโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน วงเงิน 64,000 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่ามีข้อมูลอีก 3 เรื่องที่ยังไม่ชัดเจน คือ 1. ปัญหาการเกษียณอายุก่อนกำหนดของพนักงาน ขสมก. จำนวน 2,300 ราย 2. ผลกระทบของโครงการรถเมล์ฟรีในโครงการนี้ โดยเฉพาะประมาณการเรื่องรายได้ และ 3. การเชื่อมโยงโครงการในส่วนของรถร่วมบริการเอกชน เบื้องต้น ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อศึกษาประเด็นดังกล่าวให้ชัดเจน ภายใน 2 เดือน จากนั้นให้นำเรื่องกลับมาเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาอีกครั้ง โดยคณะกรรมการดังกล่าวมี นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯ เป็นประธาน ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พยายามผลักดันให้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ก็ถูกตีกลับหลายครั้งเช่นเดียวกัน ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีมติ 103 ต่อ 4 ไม่รับอุทธรณ์ยึดทรัพย์ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2553 ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีมติเสียงข้างมาก 103 ต่อ 4 เสียงไม่เห็นควรให้รับอุทธรณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีผู้งดออกเสียง 12 เสียง โดยการประชุมดังกล่าวมีผู้พิพากษาศาลฎีกาและผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาเข้าประชุม 119 คน ส่วนกรณีคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ผู้คัดค้านการยึดทรัพย์ดังกล่าว ที่ประชุมมีมติ 101 ต่อ 4 เห็นควรไม่รับอุทธรณ์ นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังมีมติ 99 ต่อ 2 เสียง ไม่รับอุทธรณ์ของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ร่วมคัดค้านการยึดทรัพย์เช่นกัน ทั้งนี้ ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวกรวม 22 คน ที่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดียึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท ยิง M79 ถล่ม คิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ รอบสอง เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 26 สิงหาคม 2553 เวลา 23.00 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณทางเข้าห้างสรรพสินค้าคิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ ซึ่งนับเป็นครั้งที่สอง หลังจากได้เกิดระเบิดไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อไม่นานมานี้ สำหรับเหตุระเบิดครั้งนี้ มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2553 ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณลานจอดรถสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.11) ย่านสุทธิสาร ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุมีรถยนต์ได้รับความเสียหายเล็กน้อย 4 คัน ไทย-กัมพูชา ฟื้นสัมพันธ์การทูต หลัง “ทักษิณ” พ้นที่ปรึกษาฯ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2553 รัฐบาลกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ขอยุติการปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็จฯ ฮุน เซน และที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชาแล้ว ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า เหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขอลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา เนื่องจากประสบความยากลำบากส่วนตัว จึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ด้านนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จึงสั่งการให้นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่ประเทศกัมพูชาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2553 หลังจากที่ไทยได้ประท้วงกัมพูชาที่ตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษา ด้วยการเรียกทูตไทยในกัมพูชากลับประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 ทางการกัมพูชาได้ส่งนางยู ออย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในไทยเหมือนเดิมเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2553 กัมพูชาไม่รับเงินช่วยเหลือจากไทยสร้างถนน เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2553 นายกอย เกือง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ปฏิเสธ เงินจำนวน 41,200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในการให้กู้ยืมเงินทุนสำหรับโครงการสร้างถนน โดยเงินช่วยเหลือดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา โอบามา ประกาศยุติภารกิจสู้รบในอิรัก สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า ภารกิจสู้รบของทหารอเมริกันในอิรักได้ยุติลงแล้ว ต่อไปนี้ชาวอิรักจะรับผิดชอบดูแลความมั่นคงของประเทศตนเอง หลังจากมีการสู้รบมายาวนานกว่า 7 ปี ตามนโยบายของอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ที่ประกาศเริ่มต้นการทำสงครามเมื่อปี 2003 จีน – ไทย ร่วมลงทุนรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้อนุมัติแผนการร่วมทุนระหว่าง รัฐบาลไทย กับ รัฐบาลจีน ในลักษณะ จีทูจี ในโครงการรถไฟความเร็วสูง หรือ ไฮ สปีด เทรน ในเส้นทางหนองคาย - กรุงเทพฯ และ กรุงเทพฯ - ปาดังเบซาร์ ทั้งนี้ ลักษณะการร่วมทุนรัฐบาลไทยกับจีน จะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาบริหารร่วมกัน โดยเส้นทางหนองคาย - กรุงเทพฯ คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุน 1 แสนล้านบาท ลดลงจากเดิมที่ประมาณการไว้ที่ 3 แสนล้านบาท เนื่องจากมีการปรับการเดินรถในบางจุดจากรางคู่เป็นรางเดี่ยว ช่วยให้ประหยัดต้นทุนมากขึ้น ครูอัตราจ้างได้ปรับเป็นพนักงานข้าราชการ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2553 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ อนุมัติให้ปรับสถานภาพครูอัตราจ้างของศูนย์การเรียนชุมชน (ศรช.) สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เป็นพนักงานราชการ จำนวน 8,672 อัตรา เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ร้านเหล้าหน้ามหาวิทยาลัยเพิ่มต่อเนื่อง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รายงานผลการสำรวจพบร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมีมหาวิทยาลัย 200 เมตร เฉลี่ย 5.6 ร้านต่อหนึ่งสถาบัน และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ เหล้าปั่นยังได้รับความนิยมจากนักศึกษา โดยปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นของนักดื่มหน้าใหม่ปีละ 2.6 แสนคน นอกจากนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ 40 – 60% คลังเปิดทางให้ ขรก. รักษา ร.พ. เอกชนได้ กระทรวงการคลังขยายสวัสดิการรักษาพยาบาลให้กับข้าราชการและบุคคลในครอบครัว ให้สามารถเบิกค่าใช้จ่ายจากการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลเอกชน จากเดิมที่ต้องเป็นกรณีเกิดอุบัติเหตุที่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตเท่านั้น โดยสวัสดิการที่ขยายเพิ่มขึ้นจะให้ครอบคลุมโรคร้ายต่างๆ ที่จะทำให้เป็นอันตรายจนถึงเสียชีวิตด้วย และจะเริ่มให้เบิกได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางจะมีการกำหนดโรคว่ามีชนิดใดบ้างที่จะเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลเอกชนได้ ซึ่งการเข้าการรักษาจะต้องรับการอนุมัติจากทางกรมบัญชีกลางก่อน หากค่าใช้จ่ายเกินกว่าที่กำหนด ทางข้าราชการต้องออกค่าใช้จ่ายเอง และในปีงบประมาณ 2554 กรมบัญชีกลางจะได้งบประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท ก.พ. เตรียมออกกฎเอาผิดข้าราชการล่วงละเมิด-คุกคามทางเพศ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2553 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ออกกฎว่าด้วยการกระทำอันเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ พ.ศ. .... ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับพฤติกรรมของข้าราชการพลเรือนที่เข้าข่ายความผิดฐานล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ สำหรับลักษณะพฤติการณ์ที่เข้าข่ายทำผิดตามกฎ ก.พ. นี้ มี 5 ข้อ ได้แก่ กระทำการด้วยการสัมผัสทางกายที่มีลักษณะส่อไปในทางเพศ แม้จะเป็นเพศเดียวกันก็มีความผิด กระทำการด้วยวาจาที่ส่อในทางเพศ กระทำการด้วยกิริยาที่ส่อในทางเพศ การสื่อสารด้วยวิธีการใดๆ ที่ส่อในทางเพศ และ การแสดงพฤติกรรมอื่นใดที่ส่อในทางเพศ ซึ่งผู้ถูกกระทำไม่พึงประสงค์หรือเดือดร้อนรำคาญ “ป.ป.ช.” ส่งทนายฟ้องคดีทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิงและที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2553 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติให้ดำเนินการส่งฟ้องคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม. มูลค่า 6,800 ล้านบาทหลังอัยการสูงสุดไม่เห็นด้วยที่จะส่งฟ้องผู้เกี่ยวข้องบางคน แต่ ป.ป.ช. เห็นควรให้ส่งฟ้องผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ยกเว้นนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม. เพราะเสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้ ยังมีมติส่งฟ้องคดีทุจริตซื้อขายที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ด้วย เนื่องจากคดีจะหมดอายุความในวันที่ 21 สิงหาคม 2553 นี้ จึงได้ส่งสำนวนให้สภาทนายความตั้งทนายขึ้นมาฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 20 สิงหาคม หลังอัยการสูงสุดไม่เห็นด้วยกับการส่งฟ้องคดีดังกล่าว ไทยรั้งที่ 6 ละเมิดลิขสิทธิ์ในเอเชีย บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมือง (เพิร์ก) เปิดเผยผลสำรวจผู้จัดการที่เป็นชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจอยู่ใน 12 ประเทศในเอเชีย ระหว่างเดือนมิถุนายน – กลางเดือนสิงหาคม 2553ปรากฏว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 6 ของประเทศเอเซียที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญามากที่สุด ส่วนแชมป์ประเทศที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์มากที่สุดในปีนี้ตกเป็นของอินโดนีเซีย ขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสิงคโปร์มีคะแนน 1.5 รั้งตำแหน่งชาติที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาน้อยที่สุด ตามมาด้วยญี่ปุ่น 2.1 คะแนน ฮ่องกง 2.8 คะแนน ไต้หวัน 3.8 คะแนน และเกาหลีใต้ 4.1 คะแนน