ตุลาคม 2552 : เงินคลังสิ้นยังแข็งแกร่ง เงินคงคลังปี 52 ยังแข็งแกร่ง เพิ่มงบลงทุนไทยเข้มแข็ง รัฐบาลเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ สอบคุณสมบัติ 13 ส.ส. ปชป. ผลโพลล์ชี้คนส่วนใหญ่ไม่เลือกข้าง ให้อำนาจนายกฯ คุมไฟใต้ 400 ล้าน เยียวยาเหยื่อ "ใต้" อัยการตีกลับคดี 7 ตุลาฯ แก้ไขกฎหมายสิ่งแวดล้อม นำร่องใช้ “กฎหมายมั่นคง” ในจังหวัดสงขลา กกต. รับรองเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วไทย อำเภอใหม่ "กัลยาณิวัฒนา" "โอบามา" คว้าโนเบลสันติภาพ สร้างถนนเลียบอ่าวไทย เงินคงคลังปี 52 ยังแข็งแกร่ง เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2552 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในเดือนกันยายน 2552 ว่า รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณ จำนวน 21,112 ล้านบาท มีผลให้ตลอดปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 505,404 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลนอกงบประมาณที่เกินดุล 129,118 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 376,286 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4.3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) แต่เมื่อผนวกกับการชดเชยการขาดดุลเงินสดด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วเงินคลัง ทำให้มีเงินคงคลัง ณ สิ้นปีงบประมาณ 2552 เท่ากับ 293,853 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นไปตามกรอบนโยบายงบประมาณขาดดุลของรัฐบาลที่มุ่งกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายของภาครัฐในช่วงที่ภาคเอกชนชะลอการใช้จ่าย เพิ่มงบลงทุนไทยเข้มแข็ง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2552 มีมติอนุมัติโครงการลงทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง เพิ่มเติมอีก ในวงเงิน 230,000 แสนล้านบาท จากเดิมมีการอนุมัติโครงการลงทุนไปแล้ว 1.06 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้โครงการลงทุนตามแผนไทยเข้มแข็ง มีการอนุมัติการลงทุนรวมแล้ว 1.3 ล้านล้านบาท รัฐบาลเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2552 คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ได้แถลงผลการประชุมร่วมกับคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภา หรือวิปวุฒิสภา ว่ามีความคิดเห็นตรงกันที่จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป แม้ฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วม โดยมีมติให้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของ 2 สภา ยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ประเด็น เป็นรายมาตรา รวม 6 ฉบับ เพื่อทำประชามติ และกำหนดให้นำกลับมาพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 โดยให้มีการสอบถามความเห็นประชาชนก่อนลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขต่อรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 5-6 เดือน สอบคุณสมบัติ 13 ส.ส. ปชป. เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2552 ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่ยื่นให้พิจารณาคุณสมบัติของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือหุ้นในกิจการสื่อและบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ อันได้แก่ 1. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เลขาธิการพรรค และรองนายกฯ 2. นายอนุชา บูรพชัยศรี ส.ส.กทม. 3. นายสมเกียรติ ฉันทวานิช ส.ส.กทม. 4. นายสราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร 5. นายเธียรชัย สุวรรณเพ็ญ ส.ส.ตาก 6. น.ส.นริศา อดิเทพวรพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช 7. นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช 8. นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก 9. นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา 10. นายลาภศักดิ์ ลาภาโรจน์กิจ ส.ส.สงขลา 11. นางนิภา พริ้งศุลกะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี 12. น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ส.ส.สัดส่วน กลุ่มที่ 8 และ 13. นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน ส.ส. ผู้ถูกร้องทั้ง 13 คน สามารถส่งคำชี้แจงมาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ภายใน 15 วัน ผลโพลล์ชี้คนส่วนใหญ่ไม่เลือกข้าง เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2552 สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจและผลวิจัยเชิงคุณภาพ เรื่อง ฐานสนับสนุนนักการเมืองกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เปรียบเทียบระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร และมิตรภาพสัมพันธ์คนเสื้อเหลือง - แดง ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับการศึกษา ทุกอาชีพ ทุกรายได้ และทุกภูมิภาค โดยภาพรวม ร้อยละ 53.4 ขออยู่ตรงกลางยังไม่สนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดระหว่าง นายอภิสิทธิ์ - พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ร้อยละ 25.0 สนับสนุน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ร้อยละ 21.6 สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้อำนาจนายกฯ คุมไฟใต้ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2552 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่กระทรวงมหาดไทยขอเพิ่มเติม หลังการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยเป็นเลขาธิการ รวมถึงให้คณะรัฐมนตรีภาคใต้เป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ โดยเพิ่มอำนาจให้สามารถอนุมัติแผนปฏิบัติการ และการตรวจสอบประเมินผลการดำเนินงาน นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมให้จังหวัดสงขลา เป็นหนึ่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย 400 ล้าน เยียวยาเหยื่อ "ใต้" เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2552 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.) ได้พิจารณากรอบวงเงินที่ต้องใช้ในปี 2553 จำนวน 400 ล้านบาท โดยให้เพิ่มหลักเกณฑ์การจ่ายค่าเยียวยาเพิ่มเติมอีก 1 ข้อ คือ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยสุดวิสัยหรือประมาท พร้อมกันนี้ยังอนุมัติแผนยุทธศาสตร์เพื่อดูแลสุขภาพจิตของครอบครัวผู้สูญเสียในพื้นที่ เช่น แม่หม้าย ซึ่งมีจำนวน 3,000 คน และครอบครัวตำรวจที่อยู่นอกพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย อัยการตีกลับคดี 7 ตุลาฯ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2552 สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ตีกลับสำนวนคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช. และอัยการ เพื่อสอบคดีเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าสำนวนคดีดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์ แก้ไขกฎหมายสิ่งแวดล้อม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2552 มีมติเห็นชอบแก้ไข พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ เพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 หลักการคือ กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศกำหนดประเภทโครงการ-กิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง และกำหนดเกณฑ์การทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งประกอบด้วย การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม-ทรัพยากรธรรมชาติ-สุขภาพ ของประชาชนในชุมชน และต้องจัดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบกำหนดให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแต่งตั้งผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ เพื่อพิจารณาการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม นำร่องใช้ “กฎหมายมั่นคง” ในจังหวัดสงขลา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2552 มีมติขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตาม พ.ร.บ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2552 - 19 มกราคม 2553 ซึ่งถือเป็นการต่ออายุ พ.ร.บ.ฉุกเฉินครั้งที่ 16 นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบให้ยกเลิก พ.ร.บ.ฉุกเฉินและการประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ 4 อำเภอ ใน จ.สงขลา ได้แก่ เทพา สะบ้าย้อย จะนะ และนาทวี โดยระหว่างนี้จะมีการนำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรมาใช้ในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา แทน กกต. รับรองเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วไทย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2552 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) ทั่วประเทศ 2,935 แห่ง ที่เลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2552 โดยมีนายก อบต. ได้รับการรับรอง 2,689 คน ส.อบต. 58,911 คน รวม 61,600 คน มีเรื่องร้องคัดค้าน 1,120 เรื่อง และส่งมา กกต.กลางแล้ว 672 เรื่อง ทั้งนี้ กกต. จำเป็นต้องประกาศรับรองไปก่อนแม้จะยังสอบสวนเรื่องร้องคัดค้านไม่เสร็จ เนื่องจากครบกำหนด 30 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ จังหวัดที่ร้องคัดค้านมากที่สุด คือ จ.อุบลราชธานี 120 เรื่อง มหาสารคาม 101 เรื่อง และนครราชสีมา 70 เรื่อง เป็นต้น อำเภอใหม่ "กัลยาณิวัฒนา" เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2552 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอกัลยาณิวัฒนา พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยเห็นว่า ต.บ้านจันทร์ ต.แม่แดด และ ต.แจ่มหลวง ใน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีท้องที่กว้างขวาง มีชุมชน และชุมชนการค้ามีสภาพเจริญขึ้นสมควรแยกออกจาก อ.แม่แจ่ม และรวมตั้งขึ้นเป็น อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ "โอบามา" คว้าโนเบลสันติภาพ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2552 คณะกรรมการรางวัลโนเบลแห่งนอร์เวย์ มอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2552 ให้แก่ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา จากความพยายามอย่างยิ่งยวดในการส่งเสริมการทูตระหว่างประเทศและความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน โดยเฉพาะการพยายามเข้าถึงโลกมุสลิมและการเรียกร้องให้โลกลดการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ สร้างถนนเลียบอ่าวไทย เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2552 กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลตะวันตก พื้นที่ภาคใต้ตอนบน จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง ซึ่ง ทช. ทำการสำรวจ ออกแบบ และก่อสร้างถนนท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลตะวันตกของอ่าวไทย เพื่อพัฒนาเป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยวชายฝั่งในระดับสากล ระยะทาง 615 กม. พร้อมจุดนัดพบและจุดชมวิว งบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างประมาณ 7,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2552-2558