กรกฎาคม 2552 : ขยายเวลาช่วยค่าครองชีพ ขยายเวลาช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนอีก 5 เดือน เว้นภาษีเงินได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์ ได้ข้อเสนอไม่ควรเช่ารถเมล์ NGV กกต. ชี้ 13 ส.ส. ถือหุ้นขัด รธน. กกต. ยกคำร้องเรื่องยุบพรรคเพื่อแผ่นดิน อนุมัติงบ 450 ล้าน คุมหวัด 2009 ไทยให้เขมรกู้ 1.4 พันล้านบาท ขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินชายแดนใต้ จีดีพี Q2/52 ดีขึ้น ขยายเวลาสินเชื่อภาคท่องเที่ยว ต่ออายุ 5 มาตรการ ลดค่าครองชีพ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2552 มีมติต่ออายุมาตรการเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนออกไปอีก 5 เดือน จนถึงสิ้นปี 2552 ได้แก่ 1) มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า 8.5 ล้านครัวเรือน 2) มาตรการช่วยเหลือน้ำประปา 4 ล้านครัวเรือน 3) มาตรการบริการรถไฟฟรี 280,000 คนต่อเดือน 4) มาตรการบริการรถเมล์ฟรี 430,000 คนต่อวัน และ 5) มาตรการตรึงราคาก๊าซแอลพีจีที่ใช้หุงต้ม ทั้งนี้ การขยายเวลาการช่วยเหลือค่าครองชีพเหล่านี้จะทำให้รัฐต้องรับภาระค่าใช้จ่ายรวม 1.1 หมื่นล้านบาท ยกเว้นภาษีดอกเบี้ยออมทรัพย์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2552 กรมสรรพากรได้ออกประกาศยกเว้นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับผู้ที่มีเงินได้จากดอกเบี้ยเงินฝากประเภทบัญชีออมทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาท/ปี ไม่ว่าจะเป็นบัญชีเดียวหรือหลายบัญชีรวมกัน โดยให้เจ้าของบัญชีแจ้งให้ทางธนาคารทราบ หรือจะยื่นขอลดหย่อนในช่วงยื่นเสียภาษีบุคคลธรรมดาก็ได้ ทั้งนี้จะมีบัญชีออมทรัพย์ที่ได้รับการยกเว้นภาษีประมาณ 62 ล้านบัญชี ไม่ควรเช่ารถเมล์ NGV คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร มีข้อสรุปสำหรับโครงการรถเมล์ NGV จำนวน 4,000 คัน ที่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีว่าสมควรยกเลิกโครงการฯ เนื่องจากราคาที่เสนอแพงเกินจริง ทั้ง ค่าเช่า ค่าซ่อม การประเมินกำไรในโครงการ ใช้ฐานตัวเลขผู้ใช้บริการสูงกว่าที่ใช้จริง เป็นต้น พร้อมเสนอว่า ควรใช้วิธีซื้อหรือเช่าซื้อ จะดีกว่า โดยที่ กมธ. จะส่งข้อมูลนี้ไปยังหน่วยงานอื่นๆ อาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสอบอีกทางหนึ่ง กกต. ชี้ 13 ส.ส. ถือหุ้นผิด รธน. เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2552 ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเสียงข้างมากเห็นว่า ส.ส. 13 คน ถือครองหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานรัฐหรือทำธุรกิจด้านสื่อซึ่งเข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ คือ 1. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และรองนายกรัฐมนตรี 2. นายอนุชา บูรพชัยศรี ส.ส. กทม. 3. นายสมเกียรติ ฉันทวานิช ส.ส. กทม. 4. นายสราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร 5. นายเธียรชัย สุวรรณเพ็ญ ส.ส.ตาก 6. น.ส.นริศา อดิเทพวรพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช 7. นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช 8. นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก 9. นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา 10. นายลาภศักดิ์ ลาภาโรจน์กิจ ส.ส.สงขลา 11. นางนิภา พริ้งศุลกะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี 12. น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ส.ส.สัดส่วน กลุ่มที่ 8 และ 13. นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน ส่วน ส.ส. อีก 14 ราย นั้น กกต. มีมติว่าไม่ผิดรัฐธรรมนูญเนื่องจากบริษัทที่มีหุ้นอยู่นั้นไม่เข้าลักษณะต้องห้าม คือ 1. นายสกล ภัททิยกุล ส.ส. กทม. 2. นายวินัย เสนเนียม ส.ส.สงขลา 3. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส. กทม. 4. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส. กทม. 5. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ 6. นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก 7. นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช 8. นางกันตวรรณ ตันเถียรกุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส.พังงา 9. พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี ส.ส.สัดส่วน กลุ่มที่ 1 10. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส. กทม. 11. นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร ส.ส.นครสวรรค์ 12. นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส. กทม. 13. นายวิชัย ล้ำสุทธิ ส.ส.ระยอง และ 14. นายประกอบ จิรกิติ ส.ส.สัดส่วน สำหรับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีต ส.ส.กทม.นั้น กกต. ไม่ได้พิจารณา เพราะได้ลาออกจากการเป็น ส.ส. แล้ว การพิจารณาเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย เมื่อครั้งอยู่พรรคพลังประชาชน ได้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ 28 คนว่ากระทำการอันมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 48 (ถือครองหุ้นในธุรกิจสื่อ) หรือมาตรา 265 (ถือครองหุ้นในบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานรัฐ) หรือไม่ ซึ่งหากผิดจริงจะต้องสิ้นสุดสมาชิกภาพลงตามมาตรา 106(6) ของรัฐธรรมนูญ กกต. ยกคำร้องยุบพรรคเพื่อแผ่นดิน เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2552 ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติเสียงข้างมาก ยกคำร้อง ยุบพรรคเพื่อแผ่นดิน เนื่องจากการกระทำความผิดของนายนพดล พลซื่อ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 3 กรณีถูก กกต. เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนั้น เกิดขึ้นในขณะที่ยังไม่มีสถานะเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน จึงถือว่าการกระทำดังกล่าวไม่เข้าข่ายการกระทำจนเป็นเหตุต้องเสนอให้มีการยุบพรรค อนึ่ง ก่อนหน้านี้ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ให้ใบแดง) นายนพดล ตามที่ กกต. ยื่นคำร้องกล่าวหาว่านายนภดล กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเนื่องจากขนคนไปฟังการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งและให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อนุมัติงบป้องกันหวัด 2009 เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบฯ กลางให้กระทรวงสาธารณสุข 450 ล้านบาท เพื่อดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แก่หน่วยงานส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค สังกัดกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เช่น สำนักการแพทย์กรุงเทพ ในการ 1) จัดซื้อยาซานามีเวียร์ 20,000 ชุด ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสใช้สำรองกรณีที่ผู้ติดเชื้อดื้อยา โอเซลทามีเวียร์ 2) ใช้ประชาสัมพันธ์และการสื่อสารสาธารณะ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โรงภาพยนตร์ เอสเอ็มเอส อินเทอร์เน็ต ข่าวสั้น เป็นต้น และ 3) ซื้อเครื่องช่วยหายใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีมติให้ผู้ป่วยที่เป็นหวัด เจ็บคอ แต่ไม่มีไข้ พักรักษาตัวที่บ้านได้ไม่เกิน 7 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา และไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองแพทย์ โดยมาตรการนี้จะให้มีผลทันทีกับหน่วยราชการและโรงเรียนของรัฐบาล ส่วนภาคเอกชนจะขอความร่วมมือในการปฏิบัติตาม ไทยให้กัมพูชากู้ 1.4 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ 1,400 ล้านบาท ให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) ในการสนับสนุนทางการเงินแก่กัมพูชาในโครงการก่อสร้างและพัฒนาถนนหมายเลข 68 เส้นทาง กรอรันห์-สำโรง-โอเสม็ด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้คิดดอกเบี้ยในอัตรา 1.5% ต่อปี มีระยะเวลาการกู้เงิน 30 ปี ปลอดหนี้เงินต้น 10 ปีแรก แต่ยังต้องชำระดอกเบี้ยทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ในท้องที่ จ.นราธิวาส ยะลา และปัตตานี ต่อไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม - 19 ตุลาคม 2552 โดยเป็นการขยายระยะเวลาครั้งที่ 15 ทั้งนี้ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ นอกจากนี้ ให้ สมช. พิจารณารูปแบบการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนผลกระทบจากการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการนำ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 มาใช้นำร่องแทนกฎอัยการศึกในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ได้แก่ อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย โดยเร็วต่อไป GDP ไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 2/52 ว่าปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1/52 โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) แม้ว่าจะหดตัว 5.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็บวกขึ้นมาถึง 2% จากไตรมาสก่อน ยืดเวลาปล่อยสินเชื่อภาคท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2552 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายเวลาโครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจและปัญหาภายในประเทศ จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2552 เป็นสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2553 โดยให้มีวงเงินช่วยเหลือรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท