ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เสียงร้องเตือนจากความเงียบดังขึ้นให้หยุดทำร้ายประเทศ ภายหลังเหตุการณ์จลาจลกลางเมืองหลวงที่เพิ่งผ่านไป เป็นเสียงที่ได้รับการขานตอบจากสังคมโดยทั่วไป ด้วยคิดว่าจะสยบความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ใช้ความรุนแรงทั้งด้วยการยั่วยุทางวาจาและการกระทำ ประชาชนคนทั่วไปที่ไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับการใช้ความรุนแรงทุกประเภทก็รู้สึกถึงความไม่มั่นคงปลอดภัยทางสังคมมากขึ้น ประชาชนคนที่กระตือรือร้นมีส่วนร่วมทางการเมืองไม่ว่ากับฝ่ายใด ก็อาจจะต้องกลับมาคิดทบทวนใหม่กับการใช้สิทธิแสดงออกทางการเมือง ว่าแท้จริงแล้วเป็นวิธีการและแนวทางที่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยที่เอ่ยอ้างกันจริงหรือ การใช้สิทธิเสรีภาพที่เป็นกันอยู่ในสังคมไทย เป็นการกระทำที่เกินขอบเขต กระทั่งไปกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของปัจเจกบุคคลอื่นๆ อีกมากมาย เรียกว่า กระทบกับส่วนรวมส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมยอมรับไม่ได้ ดังเช่น กรณีการบุกโรงแรมที่ผู้นำสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียนมาประชุมที่พัทยา สร้างความเสียหายต่อเกียรติภูมิของประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพ การปิดล้อมถนนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้เจ็บป่วยที่ต้องเข้า-ออกโรงพยาบาลหลายแห่งละแวกนั้น การติดตามไล่ล่ามุ่งประทุษร้ายแก่ชีวิตนายกรัฐมนตรี เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิในชีวิตและร่างกายของมนุษย์ เป็นการไม่เคารพในศักดิศรีของความเป็นมนุษย์ที่ได้รับการยอมรับอย่างเสมอภาคถ้วนหน้า ที่ไม่อาจละเมิดได้ หน้าที่ของมนุษย์คือ การยอมรับในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ทุกหมู่เหล่า ยอมรับในเสรีภาพที่ไม่อาจซื้อ-ขายได้ และความเสมอภาค รวมทั้งความสมานฉันท์ระหว่างพวกเขาเหล่านั้น เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกผู้ทุกนามในสังคมที่จะสร้างให้เกิดความสมดุลในความหมายของคำว่า เสรีภาพ และ ความรับผิดชอบ ระหว่างที่สิทธิถูกนำไปอ้างถึงเสรีภาพ หน้าที่จึงต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบเสมอ ซึ่งประกอบด้วยหน้าที่ทางศีลธรรมเป็นส่วนใหญ่ นั่นย่อมแสดงว่าการใช้สิทธิและเสรีภาพจำต้องมีศีลธรรมกำกับ ให้รู้ถึงความเป็นประโยชน์-ความไร้ประโยชน์ ความผิด-ถูกชัดเจน การใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อถกเถียงเรื่องทางการเมืองในสังคมประชาธิปไตยจึงควรยอมรับและเข้าใจถึงการมีอยู่ของความแตกต่างหลากหลายของมนุษย์แต่ละหมู่ เหล่า เผ่าพันธุ์ รวมถึงความแตกต่างทางความคิดด้วย การผดุงให้มนุษย์ในสังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีคุณค่าในความเป็นคนที่มีชีวิต มีเลือดเนื้อ มีความคิด และมีวัฒนธรรม จึงอยู่ที่การให้มนุษย์ทุกคนได้ทำหน้าที่ในการยอมรับซึ่งกันและกัน ด้วยการแสดงออกซึ่งการรับฟังกันให้มากขึ้น และ ด้วยระยะเวลาแห่งการฟังที่ดีนี้ จึงเป็นโอกาสเพื่อแสวงหาเหตุผล ข้อเท็จจริงและทางออกที่ดีอย่างเห็นพ้องต้องกันมากกว่าการใช้ความรุนแรงที่เป็นอวิชชา การพยายามแสดงออกถึงความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยวิธีการที่รุนแรง และมุ่งทำลายล้างซึ่งกันและกัน ล้วนสวนทางกับวิถีทางประชาธิปไตยและลดทอนคุณค่าของมนุษย์อย่างสิ้นเชิง เป้าหมายความมั่นคงทางสังคม จึงอยู่ที่มนุษย์ทุกผู้ทุกนามได้เข้าใจในความเป็นมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรี ไม่ยั่วยุเพื่อการทำลายล้างหรือฆ่ากันได้ง่ายๆ โดยไม่ผ่านกระบวนการที่ใช้ธรรมเป็นที่ยุติ คือ กระบวนการยุติธรรม ในแง่นี้ สิทธิมนุษยชนหรือสิทธิของมนุษย์จึงควรได้รับการปกป้องจากความคิดที่ควรเข้าใจให้ตรงกัน หน้าที่ของมนุษย์จึงมีอยู่เพื่อจรรโลงสังคมของมนุษย์เองให้คงอยู่สถาพร ผู้ที่เคารพในศักดิ์ศรีของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาเหล่านี้จะไม่อาจทำร้ายประเทศไทยได้เลย ทิพย์พาพร ตันติสุนทร ผู้อำนวยการร่วม สถาบันนโยบายศึกษา