กันยายน 2551 : โปรดเกล้าฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ คนที่ 26 โปรดเกล้าฯ แล้ว สมชาย นั่งนายกคนที่ 26 พร้อม ครม.ชุดใหม่ "ไทย" อันดับ 9 จาก 12 ประเทศ น่าเชื่อถือกระบวนยุติธรรม ฮ่องกงมาอันดับ 1 วุฒิสภาเห็นชอบงบฯ ‘52 "24 อธิการ" จี้ปฏิรูปการเมือง ตั้ง กก.อิสระ เน้นเพิ่มบทบาทการเมืองภาคประชาชน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คุก "สมัคร" 2 ปี พร้อม "ดุสิต" -ลุ้นฎีกา "สามารถ" ฟ้องแพ่ง 100 ล. ยันใช้ทวิภาคีแก้พระวิหาร เขมรขอถกปม "2ปราสาท ตาเมือนธม - ตาควาย" รัฐบาลอนุมัติ 133 ล้านบาท พัฒนาระบบเนื้อโค-กระบือ สบน. แจ้ง หนี้สาธารณะลดลง สิ้น ก.ค. เหลือ 3.3 ล้านล. "สภาเด็ก" เสนอรัฐบาล ตั้ง "กระทรวงเยาวชน" พร้อม 5 ข้อเสนอ หมายจับอีก "แม้ว-อ้อ" ไม่ฟังตัดสิน ศาลเลื่อนอ่านคดีที่รัชดา 21 ต.ค. ครม. ซื้อใจชาวนาเพิ่มจำนำข้าวอีก 1 ล้านตัน ทุ่มงบกว่า 900 ล้านบาท ใช้ 8 ล. ปรับดอนเมืองเป็นทำเนียบ 2 รับรัฐบาลใหม่ โปรดเกล้าฯ แล้ว สมชาย นั่งนายกคนที่ 26 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2551 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 และได้พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังมีรายนามต่อไปนี้ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ โอกาสนี้ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่คณะรัฐมนตรี ทรงให้กำลังใจรัฐบาลปฏิบัติงานให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็น นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็น รองนายกรัฐมนตรี นายโอฬาร ไชยประวัติ เป็น รองนายกรัฐมนตรี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็น รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็น รองนายกรัฐมนตรี นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ เป็น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุพล ฟองงาม เป็น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอุดมเดช รัตนเสถียร เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธีระชัย แสนแก้ว เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมั่น พัธโนทัย เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสา นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายไชยา สะสมทรัพย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประสงค์ โฆษิตานนท์ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางอุไรวรรณ เทียนทอง เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ นายศรีเมือง เจริญศิริ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสมชาย เข้ารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีหลังนายสมัคร สุนทรเวช ลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และ รมต.กระทรวงกลาโหม ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกฯ จากการเป็นพิธีกรรายการ "ชิมไปบ่นไป" และรายการ "ยกโขยงหกโมงเช้า" หลังนายสมชาย ได้รับตำแหน่งใหม่แล้ว ในวันที่ 14 กันยายน ได้มีการแถลงประกาศยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน "ไทย" อันดับ 9 จาก 12 ประเทศ น่าเชื่อถือกระบวนยุติธรรม เมื่อวันที่ 14 กันยายน เพิร์ค บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ ทำการสำรวจถึงความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมของ 12 ประเทศ และเขตเศรษฐกิจพิเศษในเอเชีย ปรากฏว่าไทยรั้งอันดับที่ 9 โดยฮ่องกงครองอันดับความน่าเชื่อถือมากที่สุด ขณะที่กระบวนการยุติธรรมของอินโดนีเซียถูกระบุว่าเลวร้ายที่สุด ในส่วนของกระบวนการยุติธรรมไทยที่อยู่ในอันดับ 9 เช่นกัน วุฒิสภาเห็นชอบงบฯ ‘52 เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ 2552 จำนวน 1,835,000,000,000 บาท ด้วยคะแนนเสียง 90 ต่อ 35 แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่น ไม่เกิน 1,807,459,822,500 บาท และเพื่อชดใช้เงินคงคลังจำนวน 27,540,177,500 บาท "24 อธิการ" จี้ปฏิรูปการเมือง ตั้ง กก.อิสระ เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวม 24 สถาบัน ร่วมแถลงถึงแถลงการณ์ที่อธิการบดีมหาวิทยาลัย 24 แห่งทั่วประเทศร่วมลงลายมือชื่อ ขอให้ (1) จัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อปฏิรูประบบการเมืองการปกครอง เพื่อศึกษาหาแนวทางและข้อเสนอแนะในการปฏิรูประบบการเมืองการปกครองของประเทศ โดยยึดหลักการการเพิ่มบทบาทของการเมืองภาคประชาชน การกระจายอำนาจ การจัดระบบการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองที่เหมาะสมเป็นธรรม (2) จัดระบบตรวจสอบการใช้อำนาจทางการเมือง (3) ขอให้นายกฯประกาศต่อสาธารณะว่าเมื่อได้รับข้อเสนอในข้อ (1) แล้ว จะนำข้อเสนอไปสู่กระบวนการลงประชามติ หากประชาชนเห็นชอบแล้ว คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะได้นำเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามแนวทางดังกล่าวขอความเห็นชอบต่อรัฐสภาต่อไป ทั้งนี้ขอให้การดำเนินการในข้อ (1) และ (2) เสร็จทันภายใน 120 วัน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คุก "สมัคร" 2 ปี พร้อมคู่หู "ดุสิต" เมื่อวันที่ 25 กันยายน ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายดุสิต ศิริวรรณ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 1 และ 2 เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองขณะเป็นผู้ดำเนินรายการ "สมัคร-ดุสิต คิดตามวัน" ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี และรายการ "เช้าวันนี้ที่ช่อง 5" สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เมื่อปี 2549 ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณี การกล่าวหาว่าผู้บริหาร กทม. ได้รับเงินจากผู้รับเหมาโครงการประมูลก่อสร้างสะพานและอุโมงค์ของกรุงเทพมหานคร 10 โครงการ ซึ่งนำมาซื้อรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 สีบรอนซ์เงิน หลังการอ่านคำพิพากษา จำเลยทั้งสองได้รับการประกันตัวออกไปสู้คดีในชั้นศาลฎีกา ด้วยหลักทรัพย์ คนละ 2 แสนบาท ซึ่งคดีนี้โจทก์ย้ำจะไม่มีการประนีประนอม และยังได้ฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายอีก 100 ล้านบาท ยันใช้ทวิภาคีแก้พระวิหาร เมื่อวันที่ 30 กันยายน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชาต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการว่า ทั้งสองฝ่ายได้มีการตกลงระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา ปรับลดกำลังทหารในพื้นที่ลงเหลือแค่ฝ่ายละ 30 คนแล้ว และจะพยายามหาทางลดจำนวนลงไปอีก นอกจากนี้ในการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งต่อไปจะมีการหยิบยกเรื่องปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายขึ้นมาหารือด้วย ทั้งนี้ เลขาธิการยูเอ็นยังอยากให้ทั้งสองประเทศพูดจากันในลักษณะทวิภาคี ไม่จำเป็นต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอีกด้วย รัฐบาลอนุมัติ 133 ล้านบาท พัฒนาระบบเนื้อโค-กระบือ รัฐบาลได้มีการอนุมัติโครงการให้ความช่วยเหลือผู้เลี้ยงโคและกระบือจำนวน 8 โครงการ วงเงิน 133.2 ล้านบาท เพื่อให้ผู้เลี้ยงโคเนื้อและกระบือพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็งและเตรียมความพร้อมเปิดเสรีอย่างแท้จริงในอีก 12 ปีข้างหน้า ตามกรอบเอฟทีเอไทยกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทั้งนี้ โครงการที่ได้รับอนุมัติ อาทิ คัดเลือกพ่อพันธุ์กำแพงแสนเพื่อใช้ผลิตน้ำเชื้อ การปรับปรุงพันธุกรรมโคเนื้อของไทย จัดตั้งตลาดกลางโคเนื้อพันธุ์กำแพงแสน ปรับโครงสร้างสินค้าเนื้อโคขุน เป็นต้น หนี้สาธารณะลดลง สิ้น ก.ค. เหลือ 3.3 ล้านล้าน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยถึงยอดหนี้สาธารณะคงค้างล่าสุด ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2551 ว่ามีจำนวน 3,330,372 ล้านบาท คิดเป็น 35.39% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 377,721 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.34% และหนี้ในประเทศ 2,952,651 ล้านบาท หรือคิดเป็น 88.66% ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,207,617 ล้านบาท หรือ 96.31% และหนี้ระยะสั้น 122,755 ล้านบาท หรือ 3.69% ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง โดยลดลง 45,647 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.49% จากเดือนก่อน เนื่องจากหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลง "สภาเด็ก" เสนอรัฐบาล ตั้ง "กระทรวงเยาวชน" เมื่อวันที่ 21 กันยายน สภาเด็กระดมสมองจากเยาวชนทุกจังหวัดกว่า 400 คน ทั่วประเทศ เนื่องในวาระวันเยาวชนแห่งชาติ จัดทำข้อเสนอแนะรัฐบาล 5 ข้อ อาทิ ขอตั้งกระทรวงเยาวชน เปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายที่เกี่ยวกับเด็ก และร่วมวางแผนพัฒนาหลักสูตรการเรียน พร้อมให้กระทรวงศึกษาธิการบรรจุวิชาการจัดการสิ่งแวดล้อมในการศึกษาภาคบังคับ และให้ความสำคัญกับการประกอบอาชีพของเด็ก หมายจับอีก "แม้ว-อ้อ" ไม่ฟังตัดสิน เมื่อวันที่ 17 กันยายน ผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา มาฟังคำพิพากษาในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ โดยหมายจับครั้งนี้นับเป็นใบที่ 4 ในคดีนี้ และศาลได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 21 ตุลาคม 2551 หลังจากที่เดิมมีกำหนดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 16 ตุลาคม นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังถูกอายัดเงินฝากในบัญชีธนาคารต่างๆ มูลค่า 76,621,603,061.05 บาท ไว้ เนื่องจากถูกสงสัยว่าทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกตินี้จะได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการขัดผลประโยชน์กับรัฐ ทุ่ม 8 ล. ปรับดอนเมืองเป็นทำเนียบ2 ผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 กันยายน ครม. เห็นชอบให้ใช้การท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อให้ข้าราชการประจำทำเนียบใช้เป็นที่ปฏิบัติงานโดยใช้งบประมาณ 8 ล้านบาท เป็นค่าปรับปรุงสถานที่ ทั้งนี้เนื่องจากการที่พันธมิตรฯ เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2551 ทำให้ ครม. และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในทำเนียบไม่มีที่ปฏิบัติงานจึงต้องหาที่ปฏิบัติงานชั่วคราว