สิงหาคม 2551 : ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ กทม. ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน กทม. หลัง นปช. ปะทะพันธมิตรฯ กกต. มีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคพลังประชาชน และส่งเรื่องต่อให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครองไม่รับฟ้อง กรณีหวยออนไลน์ ครม. ตั้งคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีอำนาจเสนอแนะรัฐบาล ไม่มีสิทธิตัดสินใจ "ไทย-เขมร" ตกลงถอนทหาร คงเหลือแค่ตำรวจและสารวัตรทหาร ศาลฎีกาฯ ออกหมายจับ "แม้ว-อ้อ" ริบเงินประกัน 13 ล้าน คดีที่ดิน ถ.รัชดาภิเษก ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก "วัฒนา" 10 ปี คดีบ่อบำบัดคลองด่าน เสนอลดโครงการรถเมล์เช่าเหลือ 4 พันคัน ให้ ครม. พิจารณา ให้ทีโอทีพัฒนา 3 จี มูลค่า 3 หมื่นล้าน คาดเปิดบริการปี 52 ระเบิดหน้าโรงพักสุไหง-โกลก นักข่าวดับ ตำรวจ-ทหารเจ็บกว่า 20 นาย โอนเงิน "เอสเอ็มแอล" 4.8 พันล้าน ให้ 21,000 หมู่บ้านและชุมชน ทุน 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่น 3 ใช้งบฯ 5 พันล้าน ส่ง 900 น.ร. เรียนต่อ แก้ กม.เหล้า-ยาสูบ ให้รัดกุม เก็บภาษีเพิ่ม-ขยายเพดาน เพิ่มค่าอาหารนักโทษ จาก 42 เป็น 68 บาทต่อคนต่อวัน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลัง นปช. ปะทะพันธมิตร เจ็บ-ตาย เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 กันยายน นายสมัคร สุนทรเวช ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ กทม. และแต่งตั้งให้ผู้บัญชาการกองทัพบก พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ให้กลับสู่ปกติโดยเร็วที่สุด โดยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนี้เกิดขึ้นเนื่องจากในกลางดึกของคืนวันที่ 1 ก.ย. ได้เกิดการปะทะอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ณ บริเวณถนนราชดำเนิน จนมีคนตาย 1 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 40 คน การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ บนถนนราชดำเนินที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2551 เพิ่มดีกรีความรุนแรงตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม เมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ประกาศ "แผนปฏิบัติการไทยคู่ฟ้า" เข้ายึดหน่วยราชการต่างๆ รวม 6 แห่ง รวมทั้งทำเนียบรัฐบาล สถานีโทรทัศน์ NBT ทำให้ฝ่ายพันธมิตรฯ จำนวน 82 คน ที่ไปยึดสถานีโทรทัศน์ NBT ถูกจับและนำตัวไปขังไว้เพื่อทำการสอบสวน แต่พันธมิตรฯ ก็สามารถยึดทำเนียบรัฐบาลเอาไว้ได้และชุมนุมต่อโดยระบุว่าเป็นการประกาศสงครามครั้งสุดท้ายในการขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบใหม่ ในวันที่ 28 สิงหาคม รัฐบาลจึงได้ร้องขอต่อศาลให้ออกหมายจับแกนนำ 9 คน ในความผิดข้อหากบฏ ซึ่งศาลได้อนุมัติและออกหมายจับในวันเดียวกัน ข้อกล่าวหาซึ่งอาจมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตนี้ ทำให้พันธมิตรฯ ในต่างจังหวัดเริ่มเคลื่อนไหวออกมาทำการปิดทางเข้าออกสนามบินหลายแห่งในภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม ซึ่งในจำนวนนั้นมีสนามบินจังหวัดภูเก็ตด้วย การปิดสนามบินได้รับการทบทวนในเวลาต่อมาทำให้สามารถเปิดสนามบินทุกแห่งได้ตามปกติ ต่อมาพันธมิตรฯ ในต่างจังหวัดได้ย้ายไปชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดแทน ในเวลา 14.40 น. ของวันที่ 29 ได้เกิดการปะทะกันขึ้นที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ระหว่างกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายพันธมิตรฯ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 คน และค่ำวันนั้น พันธมิตรฯ ส่วนหนึ่งได้ไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อปิดล้อม แต่เจ้าหน้าที่ได้ยิงแก๊สน้ำตาออกมาเพื่อสลายม็อบ การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำวิจารณ์ว่ารุนแรง จึงทำให้มีคำสั่งในเวลาต่อมาให้เจ้าหน้าที่มีแต่โล่เพื่อป้องกันตัว ในวันที่ 31 สิงหาคม รัฐบาลได้เรียกประชุมสภานัดพิเศษระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา เพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปรับฟังข้อเสนอแนะในการแก้ไขโดยไม่มีการลงมติ แต่ปรากฏว่าข้อเสนอที่ให้นายกรัฐมนตรีลาออกหรือให้ยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านและสมาชิกวุฒิสภาไม่ได้รับการตอบสนองจากนายกรัฐมนตรี ท่าทีของนายกรัฐมนตรีต่อข้อเสนอนี้ทำให้สหภาพรัฐวิสาหกิจจำนวนมากประกาศเข้าร่วมชุมนุมกับฝ่ายพันธมิตรฯ ในวันที่ 1 กันยายน มีกลุ่ม นปช. จำนวนมากเดินทางมาจากต่างจังหวัดไปชุมนุมกันที่สนามหลวง และได้เคลื่อนกำลังจากบริเวณท้องสนามหลวงในกลางดึกคืนนั้น ผ่านแนวต้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตามถนนราชดำเนิน และได้ปะทะกับฝ่ายการ์ดของพันธมิตร การต่อสู้ยุติลงก่อนจะถึงรุ่งเช้าเมื่อทหารจำนวนหนึ่งได้ออกมารักษาความสงบ แต่เหตุการณ์นี้ทำให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งให้อำนาจห้ามการชุมนุมในที่สาธารณะ โดยมอบให้กองทัพบกเข้าควบคุมสถานการณ์และดูแลความสงบตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 2551 เป็นต้นไป ในบ่ายวันที่ 2 ผู้บัญชาการกองทัพบกได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า กองทัพจะทำหน้าที่ในกรอบ คือ การทำให้เหตุการณ์เข้าสู่สภาพปกติโดยเร็วโดยไม่มีการใช้กำลังสลายม็อบในบริเวณทำเนียบรัฐบาล พร้อมยืนยันว่าปัญหาทางการเมืองต้องแก้ไขโดยวิถีทางการเมือง และไม่มีหนทางที่ทหารจะใช้กำลังเพื่อแก้ปัญหานี้ กกต. เป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรค พปช. เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์ทั้ง 5 เสียง เห็นชอบให้ยุบพรรคพลังประชาชน เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคทุจริตเลือกตั้ง โดยให้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง นอกจากพรรคพลังประชาชนแล้ว พรรคชาติไทยและมัชฌิมาธิปไตย ได้ถูกร้องเรียนเรื่องทุจริตในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ด้วย ซึ่งขณะนี้ กกต. กำลังทำการพิจารณาเรื่องการยุบพรรคอยู่ แต่กรณีของพรรคพลังประชาชนแตกต่างไปจากพรรคชาติไทยและมัชฌิมาธิปไตย เพราะศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เป็นเวลา 5 ปี ศาล ปค. ไม่รับฟ้องหวยออนไลน์ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับฟ้องคดีออกคำสั่งให้ดำเนินการออกจำหน่ายสลากแบบเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ออนไลน์ ซึ่งจะเปิดจำหน่ายงวดแรกวันที่ 17 กันยายน ตามที่นายมนัส เปรื่องชีว ทนายความ ยื่นฟ้องกระทรวงการคลัง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 ตั้งคณะ กก.รัฐมนตรีเศรษฐกิจ เพื่อเสนอแนะนโยบาย เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2551 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ปลัดกระทรวงเศรษฐกิจ คณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ ให้ทำหน้าที่ประเมินสภาวะเศรษฐกิจและเสนอโยบายและมาตรการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ พร้อมทั้งกำกับ ดูแล ประสาน ผลักดันและติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายและมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดนี้ จะมีอำนาจเพียงเสนอแนะมาตรการและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันในประเด็นที่สำคัญเท่านั้น แต่จะไม่มีอำนาจในการตัดสินใจใดๆ เนื่องจากทุกเรื่องที่ออกมาจะต้องผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม. ก่อน "ไทย-เขมร" ยุติการเผชิญหน้า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายฮอ นัม ฮอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้ประชุมหารือเป็นครั้งที่ 2 เกี่ยวกับพื้นที่พิพาทบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร ได้ข้อสรุปว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเสนอต่อรัฐบาลของตนให้ความเห็นชอบจัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ครั้งต่อไปในต้นเดือนตุลาคมนี้ เพื่อหารือประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องภายใต้ข้อกำหนดอำนาจหน้าที่และแผนแม่บทของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมฯ (เขาสัตตะโสม-หลักเขตแดนที่ 1) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญกฎหมายไทยและกัมพูชา จากนั้นรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศจะประชุมกันอีกครั้งภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมฯ และผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย นายฮอ นัม ฮอง กล่าวหลังการประชุมว่า มีความก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งหลังการประชุมเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา จะร่วมกันทำงานต่อไป กัมพูชาจะถอนทหารออกจากพื้นที่ทั้งหมดโดยให้เหลือแต่ตำรวจกับสารวัตรทหารเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ร้องเรียนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตินั้น ตนมีความเห็นส่วนตัวว่ากัมพูชาคงจะถอนเรื่องในเร็วๆ นี้ ศาลฎีกาฯ ออกหมายจับ "แม้ว-อ้อ" ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้ปรับและริบเงินประกัน และออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เนื่องจากผิดสัญญาประกันโดยไม่เดินทางกลับประเทศไทยและไม่มารายงานตัวต่อศาลในคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นการออกหมายจับครั้งที่สองหลังจากที่ครั้งแรกจำเลยทั้งสองได้ไม่มารายงานตัวต่อศาลเนื่องจากอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ คดีนี้อัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องแล้วศาลมีคำสั่งรับฟ้อง แต่จำเลยได้รับการประกันตัวในระหว่างการสู้คดี โดยศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยตีราคาประกัน พ.ต.ท. ทักษิณและคุณหญิงพจมาน คนละ 8 และ 5 ล้านบาท ตามลำดับ รวมเป็นเงิน 13 ล้านบาท จำเลยทั้งสองได้เดินทางออกจากประเทศไทยในต้นเดือนสิงหาคม 2551 หลังจากที่ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้จำคุกคุณหญิงพจมาน เป็นเวลา 3 ปี ในคดีหลีกเลี่ยงการเสียภาษีหุ้นบริษัทชินคอร์ป เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม และสั่งให้มารายงานตัวในวันที่ 11 สิงหาคม จำคุก "วัฒนา" 10 ปีคดีคลองด่าน เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติ 8 ต่อ 1 ให้จำคุกนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นเวลา 10 ปี ในคดีออกโฉนดที่ดิน 1,900 ไร่ทับที่สาธารณะ เพื่อนำไปขายให้กรมควบคุมมลพิษ เพื่อก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ นอกจากนี้ยังมีมติ 5 ต่อ 4 ให้ริบทรัพย์พระผงสุพรรณเลี่ยมทองคำ ของกลางกระทำผิดคดีนี้ ที่จำเลยมอบให้เจ้าหน้าที่รังวัดของกรมที่ดินเป็นการตอบแทนที่ช่วยเหลือออกโฉนดด้วย ศาลได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษามาจากวันที่ 9 กรกฎาคม 2551 เนื่องจากนายวัฒนา ไม่มาฟังคำพิพากษา และได้ออกหมายจับจำเลยที่หลบหนี คดีนี้นี้มีอายุความ 15 ปี นับแต่วันที่จำเลยหลบหนี ปรับลดโครงการรถเมล์ 6 พันคัน เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแผนการปรับปรุงโครงสร้าง การบริหารงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้ปรับลดการเช่ารถโดยสารปรับอากาศลง 30% เหลือเพียง 4,000 คัน ด้วยเหตุผลว่า หากไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนจะมีรถเปล่าจอดไม่ใช้งานถึง 2,000 คัน ทำให้สิ้นเปลืองเงินค่าเช่าโดยใช่เหตุและไม่คุ้มค่าการลงทุน ดังนั้นในชั่วโมงเร่งด่วน จะนำรถปรับอากาศของ ขสมก. ที่ไม่ใช้งานจำนวน 1,700 คันมาวิ่งเสริมแทน การลดจำนวนรถเช่าลง 2,000 คัน ทำให้วงเงินค่าเช่าลดลง 43,000 ล้านบาท เหลือเพียง 67,000 ล้านบาท จากมูลค่าเดิม 1.1 แสนล้านบาท ตลอดระยะเวลา 10 ปี ทั้งนี้ เนื่องจากอัตราค่าเช่าอยู่ที่วันละ 5,100 บาทต่อคัน ทำให้หนึ่งคันมีค่าเช่า 18.615 ล้านบาทตลอดระยะเวลา 10 ปี อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปนี้เป็นเพียงความเห็นที่จะเสนอ ครม. เท่านั้น โดยการตัดสินใจครั้งสุดท้ายเป็นอำนาจของ ครม. ให้ ทีโอทีพัฒนา 3 จี มูลค่า 3 หมื่นล้าน เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 (3 จี) ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เสนอ โดยมีวงเงินลงทุนรวม 29,000 ล้านบาท แยกเป็นเงินกู้ให้แก่ทีโอที จำนวน 2.4 พันล้านบาท เพื่อดำเนินการในระยะเริ่มต้น และเงินกู้ระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล จำนวน 26,600 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายก่อสร้างสถานีฐานจำนวน 5,220 สถานีทั่วประเทศระหว่างปี 2552-2555 เพื่อเปิดให้บริการภายในปี 2552 คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการไม่น้อยกว่า 4 ล้านคน ภายใน 5 ปีหลังเปิดบริการ ที่ประชุม ครม. ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณารายละเอียดของโครงการอีกครั้ง และมอบให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเป็นผู้ดูแลเรื่องเงินกู้ที่จะเป็นภาระหนี้สาธารณะ โทรศัพท์มือถือในระบบ 3 จี หรือ 3rd Generation มีความสามารถในด้านข้อมูลที่สามารถสื่อสารได้มาก ทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวและเสียง ที่ส่งถึงกันได้ในเวลาที่รวดเร็วกว่าโทรศัพท์ 2 จีที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ในการประชุมผ่านโทรศัพท์ที่เห็นหน้ากันได้ และสามารถใช้รับชมรายการทีวีที่ให้ภาพคมชัด อีกทั้งยังเก็บข้อมูลได้เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ ระเบิดนราธิวาส เจ็บกว่า 20 คน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เวลา 21.08 น. คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ที่ซุกระเบิดไว้ภายในระเบิดกลางเมืองสุไหงโก-ลก ตรงข้ามโรงพัก หลังเจ้าหน้าที่พร้อมสื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เกิดระเบิดซ้ำ ทำให้นักข่าวของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้สื่อข่าวช่อง 9 บาดเจ็บสาหัส ตำรวจ-ทหารบาดเจ็บกว่า 20 นาย นอกจากนี้ยังทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง "เอสเอ็มแอล" ได้เงินเพิ่มอีก 4.8 พันล้าน วันที่ 20 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (เอสเอ็มแอล) มีมติอนุมัติการโอนเงิน 4,800 ล้านบาท ให้หมู่บ้านและชุมชนที่ยังค้างจ่ายตามกรอบงบประมาณปีงบประมาณ 2551 จำนวน 21,000 หมู่บ้านและชุมชน ทำให้สามารถดำเนินการตามเป้าได้แล้วกว่า 90% จากที่ตั้งเป้าไว้กว่า 40,000 หมู่บ้าน สานต่อโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้รัฐบาลส่งนักเรียนยากจนเรียนต่อระดับปริญญาทั้งในและต่างประเทศ (โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน) รุ่นที่ 3 ปีการศึกษา 2552 รวมจำนวน 926 ทุน ระยะเวลาดำเนินโครงการเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552-2558 โดยใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้นประมาณ 5,460 ล้านบาท คุณสมบัติของผู้รับทุนจากทุกอำเภอ/กิ่งอำเภอนั้น จะต้องเป็นนักเรียนสายสามัญและสายอาชีวศึกษา อยู่ในครอบครัวที่มีรายได้รวมกันไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.00 (สายสามัญ) และไม่ต่ำกว่า 2.75 (สายอาชีวศึกษา) และนักศึกษาในสายอาชีวศึกษาจะต้องเลือกศึกษาในสาขาอุตสาหกรรมที่กำหนดให้ ซึ่งจะเป็นสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศ ครม. ยังเห็นชอบโครงการพัฒนาการศึกษาในเขตพื้นที่ภูเขาสูง ถิ่นทุรกันดารและแนวตะเข็บชายแดนใน 11 จังหวัด รวม 24 เขตพื้นที่การศึกษา ให้สามารถดำรงชีพ รู้รักษ์ธรรมชาติ และรักถิ่นฐานประเทศชาติ โดยครอบคลุมนักเรียน 4.4 แสนคน ใช้งบประมาณ 673 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างปี 2551-2554 แก้ กม.เหล้า- เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2551 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติ 4 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติสุรา ร่างพระราชบัญญัติยาสูบ ร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต และร่างพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต โดยมีสาระสำคัญ คือ การเพิ่มนิยาม คำว่า "ราคาขาย ณ โรงงาน" ในสินค้าสุรา ยาสูบ และโรงงานอุตสาหกรรมเข้าไป พร้อมทั้งขยายเพดานอัตราภาษีสุราและค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 ปรับปรุงอัตราค่าแสตมป์ยาสูบและค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 ทั้งนี้ กฎหมายทั้ง 4 ฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และไม่ได้มีการกำหนดนิยามราคาขาย ณ โรงงาน ทำให้เกิดปัญหาข้อโต้แย้งว่า ราคาใดถือเป็นราคาขาย ณ โรงงาน จนเกิดช่องทางให้แจ้งราคาขาย ณ โรงงาน ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เกิดปัญหาในการจัดเก็บภาษี ให้เพิ่มค่าอาหารนักโทษ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม คณะรัฐมนตรีมีมติให้ปรับค่าอาหารสำหรับเด็กและเยาวชนในสถานพินิจ ทั้งที่อยู่ระหว่างการฝึกอบรมและรอการพิจารณาคดีจากศาลเด็กและเยาวชน จากเดิมวันละ 58 บาทต่อคน เป็น 90 บาทต่อคนต่อวัน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ นอกจากนี้ ยังมีมติปรับค่าอาหารของผู้ต้องขังทั่วประเทศ จากอัตราเดิม 42 บาทต่อคนต่อวัน ไปเป็น 68 บาทต่อคนต่อวัน ตามที่กรมราชทัณฑ์เสนอ เนื่องจากค่าวัสดุอุปกรณ์ และค่าก๊าซมีราคาสูงขึ้น และสาเหตุที่ค่าอาหารของเยาวชนมากกว่านักโทษเนื่องจากเยาวชนต้องดื่มนมทุกวัน