IPPS in last year
Contact us
Site Map
Homepage
หน้าแรกHomepageAbout IPPSAbout IPPSPublicationPublicationArticleDemocracy MonitoringDemocracy MonitoringSocial ReformActivities
 
ติดตามประชาธิปไตย (Thai)
มกราคม 2551 :
ไทยได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 25

  • โปรดเกล้าฯ สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 25

  • ทอ. ได้ฝูงบินขับไล่ของสวีเดนใหม่ 6 ลำ มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท
  • ครม. กำหนด 5 ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเพื่อเด็กไทย
  • ครม. อนุมัติให้ ขรก. ทำงานรับใช้ คมช. 15% จาก 442 คน ได้ 2 ขั้น
  • พนง. 6 มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐได้เงินอุดหนุน 242 ล้านบาท
  • สร้างเครือข่ายผู้ตรวจการภาคประชาชน
  • แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติใหม่
  • ประเดิมงบฯ งวดแรก 340 ล. ให้ทีวีสาธารณะ ทีพีบีเอส โดยมี “เทพชัย หย่อง” นั่งแท่นผู้อำนวยการ
  • สูตรเช่าท่อก๊าซ ปตท. ลงตัว ขั้นต่ำปีละ 180 ล้านบาท สูงสุดไม่เกิน 550 ล้านบาท
  • รัฐบาลสั่งยกเลิกโครงการสร้างเขื่อนรับร่อและเขื่อนคลองกลาย
  • ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่าง กม.ความปลอดภัยทางชีวภาพ เพื่อดูแลพืชดัดแปลงพันธุกรรม (จีเอ็มโอ)
  • ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จังหวัดภาคใต้ และขยายออกไปในพื้นที่ 4 อำเภอในสงขลา
  • ได้ข้อสรุปว่าไร้หลักฐาน “ทักษิณ” สั่งฆ่าตัดตอนช่วงสงครามยาบ้า
  • แบตเตอรี่-ปุ๋ย-นม ขอขึ้นราคา

    โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง สมัคร สุนทรเวช เป็น นรม.

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายสมัคร สุนทรเวช ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 มกราคม สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 310 ต่อ 163 งดออกเสียง 3 และไม่เข้าประชุม 1

    นอกจากนี้ สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 เลือกนายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ พ.อ. อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นรองฯ คนที่ 1 และ 2 ตามลำดับ

    อนึ่ง นายสมัคร สุนทรเวช เคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองหลายตำแหน่งด้วยกัน เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งที่ผ่านมา ได้คะแนนสูงถึง 240,312 คะแนน แต่ก็ต้องยกเลิกภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549

    ทอ. ได้เครื่องบินขับไล่ใหม่ 6 ลำ

    ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 มกราคม มีมติอนุมัติให้กระทรวงกลาโหมโดยมอบให้กองทัพอากาศดำเนินการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพน (Gripen) 39 C/D จำนวน 6 ลำ เป็นเครื่องบิน 1 ที่นั่ง 2 ลำ เครื่องบิน 2 ที่นั่ง 4 ลำ พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม การปรับปรุงอาคารสถานที่และการบริหารโครงการ เป็นเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท โดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือจีทูจี ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสวีเดน ในลักษณะของการอนุมัติงบประมาณผูกพัน ในระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2555

    เครื่องบินขับไล่ดังกล่าวจะนำมาทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบ เอฟ-5อี (F-5E)

    5 ยุทธศาสตร์เพื่อเด็ก

    ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 มกราคม มีมติเห็นชอบการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์วาระเพื่อเด็กและเยาวชนปี 2551 เพื่อเป็นของขวัญในวันเด็ก ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ 5 ด้าน คือ 1. การส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชนทั้งในและนอกระบบการศึกษา 2. การส่งเสริมสถาบันครอบครัว 3. ส่งเสริมสื่อเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็ก 4. ส่งเสริมจังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็กและเยาวชน โดยพัฒนาให้เกิดจังหวัดต้นแบบอย่างน้อยภาคละ 1 จังหวัด เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและปลอดอบายมุข และ 5. พัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีคุณภาพ

    ปูนบำเหน็จ 2 ขั้นให้เด็ก คมช. 15%

    ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 มกราคม มีมติอนุมัติตามที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอให้เลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี 2551 เป็นกรณีพิเศษ 2 ขั้น ในอัตราร้อยละ 15 ของกำลังพลที่ปฏิบัติงานให้กับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จากจำนวนทั้งสิ้น 442 นาย ในรอบการประเมิน 6 เดือน ตั้งแต่ตุลาคม 2550 ถึงมีนาคม 2551 ทั้งนี้ การพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนดังกล่าว ไม่ได้อยู่ตามหลักการระเบียบราชการ เพราะเป็นการตั้งหน่วยงานพิเศษที่ไม่เคยมีในระบบราชการมาก่อน

    เงินอุดหนุน พนง. มหาวิทยาลัย 242 ล้านบาท

    ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติอนุมัติงบประมาณอุดหนุนค่าตอบแทน 242 ล้านบาท ให้แก่คณาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ 6 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

    นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติแผนพัฒนาอุดมศึกษาระยะยาว ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2550-2564 และเห็นชอบยุทธศาสตร์พัฒนาโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ และโรงเรียนในโครงการพระราชดำริประมาณ 300 แห่งทั่วประเทศ โดยได้อนุมัติงบฯ ตามแผนดำเนินงานในระยะ 4 ปี จำนวน 1,300 ล้านบาท โดยปี 2551 ได้อนุมัติงบฯ 55 ล้านบาท และที่เหลือให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะอุดหนุนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปี เพื่อให้การพัฒนาโรงเรียนดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์

    สร้างเครือข่ายผู้ตรวจการ

    ผลการประชุมคณะรัฐมตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 มกราคม ครม. เห็นชอบในหลักการข้อเสนอการสร้างเครือข่ายที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เสนอ โดยให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายในการพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วม พัฒนาองค์กรความรู้และสร้างเครือข่ายที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน และให้ผู้แทนเครือข่ายที่ได้รับเลือกมีฐานะเป็นที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนของผู้ตรวจการสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ตรวจการกระทรวงทุกกระทรวง โดยออกบัตรแสดงตนให้แก่ที่ปรึกษาผู้ตรวจการภาคประชาชนด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ครม. จึงเห็นชอบให้ สปน. ใช้เงินอุดหนุนทั่วไปในโครงการเพิ่มขีดสมรรถนะในการกำกับติดตามการปฏิบัติการราชการในส่วนภูมิภาค ซึ่งได้รับการจัดสรรในงบประมาณ พ.ศ. 2551

    แบ่งส่วนราชการ ตร. ใหม่

    ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 มกราคม มีมติอนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... ซึ่งกำหนดให้มีการแบ่งส่วนราชการใหม่ออกเป็น 2 ส่วน คือ หนึ่ง สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จำนวน 12 สำนัก และสอง กองบัญชาการ 21 กองบัญชาการ และให้จัดตั้งหน่วยงานเพิ่มอีก 9 หน่วยงาน คือ 1. สำนักงานเลขานุการ 2. สำนักงานกำลังพล 3. สำนักงานข่าวกรอง 4. สำนักงานนโยบายและแผน 5. สำนักงานวิชาการและกฎหมาย 6. สำนักงานส่งกำลังบำรุง 7. สำนักงานงบประมาณและการเงิน 8. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ และ 9. สถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ ในจำนวนนี้ยังมีบางหน่วยงานที่จัดตั้งมาแล้วก่อน พ.ร.ฎ. ปี 2548

    การปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการดังกล่าวจะไม่มีการเพิ่มตำแหน่งข้าราชการตำรวจ แต่จะใช้วิธีการปรับเปลี่ยน และจัดกำลังพลที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังอนุมัติจัดสรรตำแหน่งคืนเนื่องจากการเกษียณอีก 1,494 อัตรา และอนุมัติสร้างอาคารกองบัญชาการและที่พักอาศัยของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 วงเงิน 338 ล้านบาท

    ทีวีสาธารณะ ทีพีบีเอส ให้งบฯ งวดแรก 340 ล.

    ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการจัดสรรทุนประเดิมให้แก่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ทีพีบีเอส) ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ในเบื้องต้น 340 ล้านบาท

    ส่วนความคืบหน้ากรณีสถานีโทรทัศน์ทีพีบีเอส วันที่ 22 มกราคม เป็นวันแรกที่คณะกรรมการนโยบายชั่วคราวเข้าทำงานตาม ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้งขึ้น จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายเทพชัย หย่อง นางนวลน้อย ตรีรัตน์ นายขวัญสรวง อติโพธิ นายอภิชาติ ทองอยู่ และนายณรงค์ ใจหาญ

    โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะมีหน้าที่กำหนดกฎ กติกา และกรอบระเบียบในการบริหารงาน แนวทางการทำงาน รวมทั้งมีอำนาจในการกำหนดจัดผังรายการ การคัดเลือกพนักงาน โครงสร้างเงินเดือน และต้องสรรหาผู้อำนวยการสถานี โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน

    ทั้งนี้ได้มีการอนุมัติให้กรมสรรพสามิตเก็บภาษีสุราและยาสูบเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1.5 ของมูลค่าภาษีที่เสียอยู่ในปัจจุบัน เพื่อนำเงินไปจัดตั้งกองทุนทีวีสาธารณะ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มกราคมเป็นต้นไป คาดว่าปีนี้จะได้เม็ดเงินจากภาษีดังกล่าวเพื่อโอนเข้ากองทุนจำนวน 1,700 ล้านบาท

    สรุปสูตรค่าเช่าท่อก๊าซ ปตท. ได้แล้ว

    การคิดอัตราค่าเช่าท่อก๊าซของ บมจ. ปตท. ได้ข้อสรุปว่า ค่าเช่าที่จัดเก็บจะมาจากฐานรายได้ในลักษณะขั้นบันได โดยมีอัตราขั้นต่ำเริ่มจาก 5% ของรายได้ และขยับขึ้นทีละ 5% ตามจำนวนรายได้ที่เพิ่มขึ้นทุก 200 ล้านบาท ไปจนถึงสูงสุด 35% ซึ่งเมื่อประเมินจากรายได้ในปัจจุบันของ บมจ. ปตท. แล้วพบว่า จะคิดเป็นค่าเช่าขั้นต่ำปีละ 180 ล้านบาท และสูงสุดไม่เกิน 550 ล้านบาท

    การสรุปค่าเช่าเป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดที่สั่งให้ท่อก๊าซของ บมจ. ปตท. นี้ เป็นสมบัติของชาติ ซึ่งบริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าให้แก่รัฐ

    รัฐบาลสั่งยกเลิกสร้าง 2 เขื่อน

    ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 มกราคม มีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเพื่อแก้ไขปัญหาของกลุ่มสมัชชาคนจน เสนอให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนรับร่อ จ.ชุมพร และโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองกลาย จ.นครศรีธรรมราช

    เขื่อนทั้งสองเป็นโครงการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ แต่ถูกกลุ่มสมัชชาคนจนคัดค้านจนต้องมีการประชุมเจรจากันเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และได้มีการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ซึ่งมีข้อสรุปว่า สมควรจะยกเลิกโครงการทั้งสอง

    ให้ประชาชนมีส่วนร่วมร่าง กม.พืชจีเอ็มโอ

    เมื่อวันที่ 22 มกราคม คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปลอดภัยทางชีวภาพของเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ เพื่อให้มีประชาชนมีส่วนร่วมในการยกร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยทางชีวภาพในเรื่องของพันธุ์พืชและพืชดัดแปลงพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่เจริญก้าวหน้าไปมากและประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีพิธีสารคาร์ตาเฮนา ว่าด้วยความปลอดภัยทางชีวภาพ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามพันธกรณีพิธีสาร

    ต่ออายุฉุกเฉิน-ขยาย 4 อ. สงขลา

    ผลการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เห็นชอบให้ขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี นราธิวาส ยะลา) ทุกอำเภอต่อไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมเป็นต้นไป นอกจากนี้ยังให้มีการประกาศให้พื้นที่ 4 อำเภอใน จ.สงขลา ประกอบด้วย อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย เป็นพื้นที่ย่านอันตรายเพิ่มเติม เพื่อขยายสิทธิของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในด้านต่างๆ อาทิ เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบ (พ.ส.ร.) บำเหน็จความชอบต่างๆ ให้เท่าเทียมกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน

    ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีข้อสังเกตจากหลายหน่วยงานโดยเฉพาะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 (กอ.รมน. ภาคที่ 4) ว่าในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาดังกล่าว ยังคงมีเหตุการณ์ความไม่สงบ จนทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงสมควรประกาศเป็นพื้นที่ย่านอันตรายเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าวได้รับสิทธิที่เท่าเทียม

    ไร้หลักฐาน “ทักษิณ” สั่งฆ่าตัดตอนช่วงสงครามยาบ้า

    คณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์ การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำเอานโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน (คตน.) ได้สรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเสนอ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า ไม่สามารถสรุปได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาลในขณะนั้น มีนโยบายให้ฆ่าตัดตอนผู้ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริงหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม คตน. ได้เสนอให้สอบเพิ่มเติมว่าการกำหนดนโยบายต่างๆ นั้น มีเจตนาจะให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตซึ่งเป็นองค์ประกอบความผิดทางอาญาระหว่างประเทศหรือไม่ และ คตน. ยังได้รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตภายใต้นโยบายปราบปรามยาเสพติดในระหว่างนั้นด้วย

    แบตเตอรี่-ปุ๋ย-นม ขอขึ้นราคา

    กรมการค้าภายใน (คน.) อาจจะอนุมัติให้ขึ้นราคาสินค้าอีก 3 รายการ ได้แก่ แบตเตอรี่ ปุ๋ยเคมี และผลิตภัณฑ์นมในเร็วๆ นี้ หลังอนุมัติให้ปรับราคาน้ำมันปาล์มขวดไปแล้วในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยผู้ประกอบการผลิตอ้างว่าเหตุราคาวัตถุดิบยังพุ่งไม่หยุด จึงจำเป็นต้องปรับราคาขาย แต่อย่างไรก็จะพยายามไม่ให้ผู้บริโภคเดือดร้อนมากนัก ทั้งนี้ คน. ยังได้เตรียมนำราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์-ไบโอดีเซลมาคำนวณอัตราเงินเฟ้อ โดยหวังว่าจะสามารถสะท้อนความเป็นจริงได้มากที่สุด
  •  


    Print Version