4 พรรคการเมืองถก นโยบายการพัฒนาภาคอีสานกับปัญหาความยากจน ผศ.เกษม บุญรมย์ อธิการบดี ม.ราชภัฏอุบลราชธานี กล่าวเปิดการเสวนา เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2550 ที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สถาบันนโยบายศึกษา โดยการสนับสนุนของมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ ร่วมกับสถาบันอีสานภิวัฒน์ และสมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน ได้จัดเวทีเสวนาประชาธิปไตยพรรคการเมืองพบสื่อมวลชน เรื่อง “นโยบายการพัฒนาภาคอีสานกับปัญหาความยากจน” โดยได้เชิญตัวแทนพรรคการเมืองในพื้นที่จังหวัดกลุ่มที่ 4 รวม 6 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร และร้อยเอ็ด เข้าร่วมการเสวนา นายประเกียรติ นาสิมมา พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ปัญหาของภาคอีสานในประเด็นหลักจะเป็นเรื่องน้ำที่จะต้องมีการบริหารจัดการแม่น้ำที่สำคัญของภาค คือ แม่น้ำมูลและแม่น้ำชี ด้วยการทำโครงการเชื่อมต่อการกักเก็บน้ำของแม่น้ำและลำน้ำสำคัญๆ ของภาคอีสาน ทำเป็นโครงการขนาดใหญ่ โดยในการขุดร่องน้ำ ประมาณการว่าค่าขุดร่องน้ำใหม่ใช้เงินไม่น้อยกว่า 120,000 ล้านบาท (จากซ้าย) คุณพร เพ็ญพาส ดร.มานะ มหาสุวีระชัย และคุณประเกียรติ นาสิมมา ด้านนายพร เพ็ญพาส ผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชามติ กล่าวว่า ปัญหาที่สำคัญในภาคอีสานมี 3 เรื่อง คือ เรื่องน้ำ การศึกษา และเศรษฐกิจ โดยเรื่องน้ำจะต้องกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติร่วมกันทุกภาคส่วนของสังคม ทุกรัฐบาลจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ชาวอีสานทุกคนต้องลงแรงร่วมแก้ไขระยะยาว ส่วนเรื่องการศึกษา พรรคจะสนับสนุนให้มีนโยบายอุดหนุนการศึกษา ให้เรียนฟรีเต็มตามศักยภาพจนถึงปริญญาเอก และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะต้องนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในด้านเศรษฐกิจ ดร.มานะ มหาสุวีระชัย ผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาราช เห็นว่า เรื่องน้ำเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นภูมิภาคที่อยู่ในที่แห้งแล้งขนาดใหญ่ การพัฒนาเรื่องน้ำในภาคอีสานที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง ต้องใช้การพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กตลอดทั้งภูมิภาคต้องใช้เงินสูงถึง 2 ล้านล้านบาท ซึ่งพรรคได้ทำนโยบายแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำที่มีความเป็นไปได้ โดยในพื้นที่หกจังหวัดอีสานใต้มีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 156 โครงการ ใช้เงิน 22,000 ล้านบาท จะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำได้ทั้งหมด นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วน พรรคชาติไทย กล่าวว่า พรรคเห็นความสำคัญในการปรับโครงสร้างภาษีเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางสังคมมากขึ้น ได้แก่ ภาษีที่ดิน ภาษีมรดก เป็นต้น รวมทั้งการจัดการที่ดินของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อจัดสรรให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน ส่วนเรื่องน้ำ พรรคมีนโยบายที่ชัดเจนในการจัดตั้งกระทรวงทรัพยากรน้ำเพื่อบริหารน้ำอย่างมีเอกภาพ ผู้เข้าร่วมเสวนา ทั้งนี้ สื่อมวลชนและนักวิชาการท้องถิ่นได้ซักถามถึงการแก้ไขปัญหาความยากจนของภาคอีสานทั้งทางด้านการศึกษา การมีที่ดินทำกิน และการบริหารจัดการน้ำให้ทั่วถึงโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งนักการเมืองทั้ง 4 พรรค ต่างเสนอนโยบายให้มีการจัดการน้ำเป็นวาระหลักของภาคอีสาน