ร่างรัฐธรรมนูญไม่ใช่เพื่อการเลือกตั้ง ปัจจุบันเราอยู่ในช่วงของการร่างรัฐธรรมนูญใหม่อีกครั้งแล้ว บางคนอาจเรียกว่าเป็นการเริ่มการปฏิรูปการเมือง ภาค 2 ภายหลังการทำรัฐประหาร เพื่อให้รู้ที่มาที่ไปที่ต้องร่างฉบับใหม่นี้ก็เพราะทหารปฏิวัติอีกแล้ว ไม่อยากฟื้นฝอยหาตะเข็บให้เสียเวลา ช่วยกันคิดช่วยกันทำให้ประเทศเราเดินหน้าต่อไปดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งรัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญอย่างมีข้อจำกัดด้วยเงื่อนเวลา อาจทำให้ความรอบคอบและข้อคิดเห็นดีดี ตกหล่นในสาระที่เป็นความต้องการของประชาชนจริง ๆ หลายคนอาจตกขบวนรถไฟสายประวัติศาสตร์นี้ไปก็ได้ ด้วยเวลาในการยกร่างมีเพียง 90 วัน เพียงจากเดือนมกราคม ถึง มีนาคม 2550 เท่านั้นเอง จากนั้นก็ว่าไปตามเพลงคือเปิดรับฟังความคิดเห็นและท้วงติงจากประชาชนตลอดการร่างรัฐธรรมนูญ จุดหมายปลายทางรัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องแล้วเสร็จให้ทันมีการเลือกตั้งในปีนี้ อย่างไรก็ดีนับว่าโชคดีประชาชนได้เคยมีประสบการณ์จากการร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 มาแล้วอีกทั้งยังได้มีโอกาสใช้มาในระยะหนึ่งก่อนเกิดเหตุรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ประชาชนจึงควรออกมาแสดงพลังเพื่อบอกความต้องการและข้อบกพร่องผิดพลาดในอดีตได้ ประชาชนต้องออกมาส่งเสียงดังให้มากกว่าเดิมว่ามีข้อเสนออะไรที่สภาร่างรัฐธรรมนูญควรนำไปพิจารณา ด้วยไม่ต้องการให้การร่างรัฐธรรมนูญใหม่เป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของประเทศ โดยไม่รู้สึกรู้สาถึงความต้องการแท้ ๆ ของคนส่วนใหญ่ที่อยู่ตามหัวเมืองและชนบททั่วประเทศ นี่เป็นโอกาสสำคัญยิ่งของพลเมืองที่จะเป็นผู้กำหนดสาระใหม่ในรัฐธรรมนูญเพื่อสะท้อนความต้องการและ ร่วมมีบทบาทโดยตรงในการกำหนดทิศทางของประเทศ เป็นสาระใหม่ที่ไม่บิดเบือนเนื้อหาประชาธิปไตยที่เป็นไปโดยประชาชน เพื่อประชาชนและของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อการเลือกตั้งแต่อย่างใด ทิพย์พาพร ตันติสุนทร สถาบันนโยบายศึกษา