มกราคม 2549 : สำนักราชเลขาธิการส่งคืนรายชื่อ ป.ป.ช. สำนักราชเลขาธิการส่งคืนรายชื่อ 9 ป.ป.ช. ให้วุฒิสภาโดยไม่มีการลงพระปรมาภิไธย ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนศาลปกครองชั้นต้นกรณีผู้สมัคร กสช. ฟ้องยืดระยะเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินในสามจังหวัดภาคใต้ไปอีก 3 เดือน และชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินถอดจากสถานภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลเตรียมออกระเบียบใหม่เอื้อระบบจัดสรรงบประมาณจากเบื้องบน ตัดสินใจถอนสองมาตราให้อำนาจนายกรัฐมนตรีจากร่าง พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน ยอมให้มีมาตรการรับรองบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และปรับเปลี่ยนกฎระเบียบการลงทุนของบริษัทต่างชาติในโครงการเมกะโปรเจ็ค สำนักงานประกันสังคมจัดงบแก้ปัญหาผู้ประกันตนแห่ทำฟันฟรี และต่อไปนี้เจ้าของอาคารสามารถขอลดภาษีกรณีปรับปรุงอาคารสาธารณะอำนวยความสะดวกให้คนแก่และผู้พิการ คณะกรรมการสอบสวนทุจริต กทม. ยืนยันการประมูลอี-ออคชั่นมีมูลความผิดจริง แกนนำ 11 กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภคยื่นรายชื่อประชาชนกว่า 2,000 คน สนับสนุนค้านการแปรรูป กฟผ. ต่อศาลปกครอง และเปิดเว็บไซต์ให้ประชาชนตรวจสอบทุจริตคอร์รัปชั่นในโครงการประมูล นายกรัฐมนตรีประกาศล้างมือจากธุรกิจหลังขายหุ้นชินคอร์ป มูลค่า 73.3 หมื่นล้านบาทให้สิงคโปร์ สำนักราชเลขาฯ ส่งคืนรายชื่อ 9 ป.ป.ช. ราชเลขาธิการส่งรายชื่อว่าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คืนให้วุฒิสภาโดยไม่นำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย โดยให้เหตุผลว่า วุฒิสภาสมควรพิจารณาทบทวนแก้ไขเรื่องการสรรหาให้ถูกต้องเสียก่อนจึงค่อยนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท การนี้ มีผลให้ประธานวุฒิสภาต้องเปิดสมัยประชุมวิสามัญหาทางออก อนึ่ง การนำรายชื่อ ป.ป.ช. ขึ้นทูลเกล้าฯ ดังกล่าวได้รับการคัดค้านจากสมาชิกวุฒิสภาเสียงข้างน้อยแล้วว่า ที่ประชุมได้ทำการเลือกจากรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเพียง 17 ชื่อ ในขณะที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้วุฒิสภาเลือกจากผู้ได้รับการคัดเลือก 18 คน ทั้งนี้เพราะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ถอนตัวก่อนที่จะมีการลงคะแนนด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ศาลปกครอง ไม่รับอุทธรณ์ว่าที่ประธาน กสช. ศาลปกครอง เมื่อวันที่ 5 มกราคมได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของ พล.อ.ธงชัย เกื้อสกุล ว่าที่ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) กับพวกรวม 7 คน ที่ขอให้ศาลปกครองสูงสุดกลับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่พิพากษาเพิกถอนประกาศของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมาตรี เรื่องคณะกรรมการสรรหา กสช. เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม และ 6 สิงหาคม 2547 และมติของคณะกรรมการสรรหา กสช. เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2548 เรื่องการคัดเลือกผู้สมัคร 14 คน เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็น กสช. ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลว่า ผู้ที่จะมีสิทธิอุทธรณ์จะต้องเป็นคู่กรณีในคดีเท่านั้น แต่ผู้อุทธรณ์ทั้ง 7 ไม่ใช่คู่กรณีมาตั้งแต่ต้น และไม่ได้เข้ามาเป็นคู่กรณีในภายหลัง ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ ยืดเวลาประกาศภาวะฉุกเฉิน 3 จว.ภาคใต้ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 มกราคม ยืดระยะเวลาการประกาศภาวะฉุกเฉินใน 3 จังหวัดภาคใต้ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาสต่อไปอีกสามเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2549 เป็นต้นไป ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ นอกจากนั้นยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความยุติธรรมและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอยส.) มีนายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธาน ให้มีหน้าที่ให้ข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีในการบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินกระบวนยุติธรรมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ ( กอส.) ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการชุดนั้นได้เสนอให้มีการร่าง พ.ร.บ.เสริมสร้างสันติสมานฉันท์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแก้ปัญหาความรุนแรง โดยมีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความรุนแรงด้วยการใช้มาตรการทางการเมืองแนวสันติวิธีเป็นยุทธศาสตร์หลักนำหน้าการทหาร เปิดพื้นที่ทางสังคมให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายความมั่นคงในพื้นที่ จัดตั้งองค์กรพิเศษปกครองพื้นที่ฝ่ายพลเรือนโดยให้มีอำนาจเต็มในการแก้ไขปัญหาทุกด้าน ให้มีบทเฉพาะกาลกำหนดให้มีองค์กรของรัฐทำหน้าที่เป็นที่พึ่งของประชาชน ศาล รธน. ให้ชูวิทย์ พ้นสภาพ ส.ส. ศาลรัฐธรรมนูญได้ลงคะแนน 9 ต่อ 5 เสียงให้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พ้นจากสภาพการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ตามที่ ส.ส. พรรคไทยรักไทย 118 คนได้ร่วมกันเข้าชื่อยื่นคำร้อง ทั้งนี้ตุลาการเสียงข้างมากมีความเห็นตามคำร้องว่า นายชูวิทย์ ได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยไม่ถึง 90 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ในขณะที่ตุลาการเสียงข้างน้อยมีความเห็นว่า การยุบรวมพรรคทำให้นายชูวิทย์ สามารถคงสถานภาพการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2547 พรรคชาติไทยและพรรคต้นตระกูลไทยของนายชูวิทย์ ได้ทำหนังสือไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งขอยุบพรรคต้นตระกูลไทยไปรวมกับพรรคชาติไทย และนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ยื่นคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเมื่อ 7 ธันวาคม 2547 ซึ่งศาลได้มีมติเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2548 ให้ยุบรวมกันได้ และนายชูวิทย์ ได้ลงสมัครเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคชาติไทยในวันที่ 7 มกราคม 2548 หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษาแล้ว เมื่อวันที่ 30 มกราคม นายชูวิทย์ ได้นำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค บัตรประจำตัว ส.ส. และเงินเดือนประจำเดือนธันวาคม จำนวน 90,930 บาท (หักภาษีแล้ว) มาคืนให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นับเป็น ส.ส.คนแรกที่คืนทรัพย์สินให้หลังจากที่ถูกถอดถอน ส่วนเงินที่เหลือจะนำมาคืนให้ภายใน 30 วัน รัฐบาลเตรียมปรับวิธีการจัดทำงบประมาณใหม่จากบนลงล่าง รัฐบาลวางแผนปรับเปลี่ยนระบบการจัดทำงบประมาณใหม่โดยจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดทำงบประมาณเดิมที่มีการวางแผนกันแบบปีต่อปี ซึ่งไม่ได้อิงตามยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลจะดำเนินการ โดยจะให้เน้นจัดทำเพื่อรองรับยุทธศาสตร์หลักจำเป็นเร่งด่วนก่อน โดยผู้บริหาร อาทิ รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง หรือผู้บริหารระดับนโยบาย จะเป็นผู้กำหนดการจัดทำงบประมาณโดยอิงตามยุทธศาสตร์สำคัญเร่งด่วนเป็นหลัก วิธีการจัดทำงบประมาณแบบใหม่จะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 ที่เน้นเรื่องทุนทางเศรษฐกิจ สังคม และทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะการกระจายงบฯ ไปสู่ท้องถิ่น ถอด 2 มาตราให้อำนาจนายกฯ คับฟ้า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 มกราคม ได้ตัดสินใจถอด 2 มาตรา คือมาตรา 10 และ 11 ออกจากร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินที่จะใช้แทนกฎหมายเดิมที่ประกาศใช้ในปี พ.ศ. 2534 มาตรา 10 กำหนดว่า กรณีมีเหตุจำเป็น คณะรัฐมนตรีจะมีมติโอนอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งหรือหลายกระทรวงให้นายกรัฐมนตรี และมาตรา 11 (1) ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีมีอำนาจกำกับดูแลนโยบาย สั่งการส่วนราชการทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ยับยั้งการปฏิบัติราชการใดของส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้ อนึ่ง ก่อนหน้านี้ได้มีกระแสคัดค้านจากนักวิชาการว่า สองมาตรานี้เป็นการรวบอำนาจไว้ที่นายกฯ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประเทศและประชาชน แต่นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กล่าวว่า การถอด 2 มาตราดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับการลดกระแสคัดค้านแต่อย่างใด รัฐเตรียมช่วยเหลือคนไร้สัญชาติ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ที่ประชุมได้เห็นชอบหลักการยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิบุคคลตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยยุทธศาสตร์แบ่งเป็น 2 โครงการ คือ 1. โครงการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติ เอกสารแสดงตนสำหรับคนที่ไม่มีชื่ออยู่ในระบบทะเบียนราษฎร มีเป้าหมายดำเนินการเป็น 3 กลุ่ม จำนวน 1.5 ล้านคน โครงการที่ 2 เร่งรัดสถานะตามกฎหมายแก่คนที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยติดต่อกันเป็นเวลานาน จำนวน 500,000 คน โดยกำหนดสถานะแก่ผู้อยู่อาศัยในประเทศไทยเกิน 10 ปี นับจากวันที่ ครม. มีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์ แก้ระเบียบให้ต่างชาติประมูลโครงการเมกะโปรเจ็ค คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มกราคม ได้มีมติแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประมูลนานาชาติ (อินเตอร์เนชั่นแนลบิดดิ้ง) โดยมีสาระสำคัญดังนี้ 1. โครงการลงทุนพิเศษของรัฐ คือ โครงการที่ส่วนราชการเป็นเจ้าของในการจัดหาพัสดุ ต้องการเทคโนโลยีระดับสูงและใช้งบประมาณมาก ต้องการการบริหารจัดการพิเศษเพื่อความรวดเร็ว ใช้ประโยชน์ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน คุณภาพชีวิต ปัจจัยการดำรงชีวิต และเสริมสร้างสมรรถนะในการแข่งขัน 2. ส่วนราชการต้องเสนอให้ ครม. เห็นชอบเป็นรายโครงการ จากนั้นให้จัดประชุมชี้แจงรายละเอียดให้นักลงทุนทราบ พร้อมเปิดข้อมูล (Data Room) ประจำกระทรวง 3. ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการลงทุนพิเศษของรัฐประจำส่วนราชการขึ้น โดยมีรัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ปลัดกระทรวง ผู้แทนกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด ฯลฯ เป็นกรรมการ 4. ให้ส่วนราชการออกประกาศเชิญชวนทางเว็บไซต์ ฯลฯ และให้กระทรวงการต่างประเทศประกาศในต่างประเทศด้วย โดยบอกคุณสมบัติผู้เสนอความประสงค์ และอื่นๆ เช่น เงื่อนไขทางเทคนิค การเงิน และแผนการลงทุน ที่สำคัญคือต้องไม่เป็นการร่วมทุน 5. การพิจารณาของคณะกรรมการจะต้องทำโดยเปิดเผย อาจถ่ายทอดวิทยุและโทรทัศน์ได้ 6. ให้คณะกรรมการบริหารสรุปผลเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายโครงการนโยบายลงทุนพิเศษของรัฐ (กนค.) ที่มีนายกฯ เป็นประธาน 7. การพิจารณาของ กนค. ต้องทำโดยเปิดเผย มีการถ่ายทอดวิทยุและโทรทัศน์ โดยเชิญนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญมาให้ความเห็นได้ 8. ให้ กนค. นำความเห็นทั้งหมดเสนอต่อ ครม. เพื่อชี้ขาด ระเบียบใหม่นี้จะใช้กับโครงการที่มีมูลค่าเกินกว่าหนึ่งพันล้านบาท หรือน้อยกว่า แต่ต้องการเทคโนโลยีระดับสูง หรือเพื่อเป็นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน หรือคุณภาพชีวิต หรือเพื่อความสามารถในการแข่งขัน และได้มีการลดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ไม่มีข้อบังคับเรื่องเงื่อนไขการชำระเงินว่าต้องใช้วิธีการแลกเปลี่ยนสินค้าการเกษตร (บาร์เตอร์เทรด) การกำหนดราคากลาง และจะพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคก่อนเปิดการประมูล นอกจากนั้น รัฐบาลได้ให้ปรับปรุงระเบียบการประมูลแบบอี-ออคชั่นใหม่เพื่อให้เกิดความโปร่งใส โดยกำหนดให้ต้องเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตอย่างน้อย 3 วันก่อนมีการประมูลเพื่อให้สาธารณชนได้แสดงความคิดเห็นและหลีกเลี่ยงการล็อคสเปคผู้รับเหมา ผู้ประกันตนแห่ทำฟันฟรี สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เตรียมเงิน 60 ล้านบาทไว้รองรับนโยบายการให้บริการทันตกรรมฟรีที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 มกราคม เพื่อแก้ปัญหาสถานพยาบาลไม่สามารถให้บริการผู้ประกันตนได้ภายใน 14 วัน โดยให้ดำเนินการ 2 ระบบควบคู่กันไป คือ ให้เบิกจ่ายแบบเดิมได้ปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 200 บาท หรือให้รับบริการทันตกรรมทุกแบบได้ฟรีในโรงพยาบาลที่เลือกไว้ ทั้งนี้เพราะ สปส. ได้เหมาจ่ายค่าทำฟันไว้หัวละ 65 บาทกับโรงพยาบาลคู่สัญญา ผลจากการให้บริการในระบบใหม่ ทำให้ตามโรงพยาบาลมีผู้ประกันตนรอคิวยาวนานมาก ทั้งนี้เพราะจำนวนทันตแพทย์ในส่วนนี้มีไม่เกิน 2,000 คน ไม่สามารถรองรับปริมาณคนไข้ที่เพิ่มขึ้นได้ ใช้มาตรการภาษีช่วยเหลือคนแก่-ผู้พิการ กฎกระทรวงกำหนดให้เอกชนที่แก้ไขปรับปรุงอาคารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนชราและผู้พิการสามารถยื่นขอคืนภาษีได้ โดยอาคารที่อยู่ในข่ายคืออาคารสำนักงาน โรงภาพยนตร์ โรงแรม สถานประชุม สนามกีฬา และห้างสรรพสินค้า ที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป และอาคารโรงพยาบาล ศูนย์สุขภาพ โรงเรียน พิพิธภัณฑ์ สถานีขนส่งมวลชน ที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 300 ตารางเมตรขึ้นไป การปรับปรุงอาคาร ได้แก่ การติดตั้งลิฟต์ ทางลาดสำหรับรถเข็นผู้พิการ ห้องสุขาผู้พิการ รวมถึงป้ายอักษรเบรล กว่า 2,000 รายชื่อร่วมค้าน กฟผ. เข้าตลาด เมื่อวันที่ 26 มกราคม ตัวแทน 11 สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคได้นำรายชื่อประชาชน จำนวน 2,038 คนที่ต้องการร่วมฟ้องคัดค้านการนำบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไปยื่นให้ศาลปกครองสูงสุด นางสาวสายรุ้ง ทองปลอน ผู้นำรายชื่อไปยื่นได้กล่าวว่า อาจจะขอให้ศาลปกครองอนุญาตให้มีนักวิชาการมาชี้แจงต่อศาลปกครองโดยตรงด้วย เพราะกรณีของ กฟผ. บางเรื่องเป็นเชิงเทคนิคมาก ในขณะที่นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งร่างกฎหมายรอเข้าคณะรัฐมนตรีแล้ว และกระบวนการเข้าตลาดไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายออกมามีผลบังคับใช้ก่อน คาดว่าศาลปกครองจะเปิดการพิจารณาในเรื่องนี้ภายในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ เปิดเว็บไซต์ตรวจสอบคอร์รัปชั่น สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งชาติเปิดเว็บไซต์ต่อต้านคอร์รัปชั่นบนอินเตอร์เน็ตให้สาธารณะตรวจสอบทุจริตได้ โดยเชื่อมโยงกับศูนย์ข้อมูลภาครัฐอื่นๆ เช่น สำนักงบประมาณ ตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประมูล อี-ออคชั่น กทม. ฉาว ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ โกษะโยธิน สั่งชะลอโครงการก่อสร้างถนนและท่อลอดของ กทม. หลังคณะกรรมการสอบสวนพบความไม่โปร่งใส มีการตั้งเงื่อนไขการประกวดราคาไม่เป็นธรรม กีดกันผู้เสนอราคาไม่ให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรมตามที่มีการร้องเรียน ก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีบริษัทผู้รับเหมาร้องเรียนไปที่ผู้ว่าฯ กทม. และสำนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอว่า การเปิดประมูลและคัดเลือกบริษัทรับเหมาแบบอี-ออคชั่นใน 16 โครงการก่อสร้าง มูลค่า 20,396 ล้านบาท ซึ่งได้มีการประกวดราคาไปแล้วระหว่างวันที่ 21-22 ธันวาคม 2548 มีการกำหนดสเปคเอื้อบางบริษัททำให้บริษัทอื่น ๆ ไม่สามารถเข้าประมูลได้ ผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งพักงานนายสามารถ และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมสั่งชะลอทั้ง 16 โครงการไปก่อน ในขณะที่ดีเอสไอได้ทำการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าฯ กทม. รับผิดชอบสำนักการโยธา ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ นรม. ล้างมือจากธุรกิจอุทิศเวลาทั้งหมดให้ชาติ ผู้ถือหุ้นตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ เทขายหุ้นชินคอร์ป จำนวน 1.48 พันล้านหุ้น ให้แก่เทมาเส็คโฮลดิ้งแห่งสิงคโปร์ ส่งผลให้เทมาเส็คกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 49.6 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางความกังวลว่าจะทำให้ต่างชาติสามารถครอบงำการพัฒนาเศรษฐกิจ ความเป็นกลางของสื่อและความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้เพราะชินคอร์ปคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในกิจการวิทยุโทรทัศน์ ดาวเทียมและระบบโทรศัพท์ไร้สายซึ่งจัดเป็นทรัพย์สินของชาติ นอกจากนี้ยังมีเสียงวิจารณ์ในเรื่องที่การขายหุ้นครั้งนี้ว่า ผู้ขายไม่ต้องเสียภาษีรายได้แม้แต่บาทเดียว ทั้งนี้เพราะระเบียบตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดว่า การซื้อขายหุ้นของบุคคลธรรมดาในตลาดไม่ต้องเสียภาษี ก่อนหน้านี้เมื่อก่อนจะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2544 นายกรัฐมนตรีทักษิณ และภรรยาได้ทำการโอนหุ้นให้แก่บุตรชายหญิงและนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ไปแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีหุ้นเกินกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ในธุรกิจ เพื่อป้องกันปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน การยกเว้นภาษีจากการขายหุ้นชินคอร์ปลอตใหญ่ยังรวมไปถึงการที่นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร ได้ขายหุ้นจำนวน 329 ล้านหุ้นในราคา 49.25 บาทให้แก่เทมาเส็คในวันที่ 23 มกราคมด้วย ทั้งนี้ ทั้งคู่ได้รับโอนหุ้นมาจากบริษัทแอมเพิล ริช ที่จดทะเบียนในเกาะบริติช เวอร์จินเมื่อวันที่ 20 มกราคม ในราคาพาร์ หุ้นละ 1 บาท แอมเพิล ริช เป็นบริษัทที่นายกรัฐมนตรีจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2542 และมีหุ้นชินฯ ในครอบครองอยู่ 7.8 เปอร์เซ็นต์ การขายหุ้นในครั้งนี้ทำให้ครอบครัวชินวัตรและดามาพงษ์ มีรายได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี 7หมื่น 3 พันล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะล้างมือจากธุรกิจและอุทิศเวลาให้แก่ประเทศชาติ