ธันวาคม 2548 : คน กทม. ชื่นชมศาลปกครอง กกต. รับรองผลเลือกตั้งพิจิตรและสิงห์บุรี ผลการสำรวจเอแบคโพล ปรากฏว่า คน กทม. ชื่นชมศาลปกครองมากที่สุด ในขณะที่ผู้ได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองกรณีถูกเพิกถอน วุฒิสภาลงมติห้ามข้าราชการที่เป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจมีหุ้นในรัฐวิสาหกิจนั้น และยังต้องรอจนกว่าจะถึงสมัยประชุมหน้าจึงจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชน ร่าง พ.ร.บ.ถ่ายโอนครู ผ่านการพิจารณาวาระแรกในสภา ส.ส. ครม. สัญจรปี 2548 อนุมัติ โครงการกว่า 121,000 ล้านบาท อัตราการว่างงานทั่วประเทศต่ำสุดในรอบสามปี และพลเอกชวลิต ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ขจัดความยากจน กกต.รับรองผลเลือกตั้งพิจิตรและสิงห์บุรี. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติรับรองผลการเลือกตั้งในจังหวัดพิจิตรและสิงห์บุรีแล้ว โดยผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 3 จังหวัดพิจิตร คือ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ จากพรรคมหาชน และเขต 1 จังหวัดสิงห์บุรี คือ นายพายัพ ปั้นเกตุจากพรรคไทยรักไทย ชาว กทม. ให้ศาลปกครองเป็นองค์กรในดวงใจ. ผลการสำรวจประชามติของชาวกรุงเทพมหานครที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือที่เรียกกันว่า เอแบคโพล ปรากฏว่า ศาลปกครองได้รับคะแนนสูงสุด 61.1 เปอร์เซ็นต์ ให้เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญซึ่งได้รับความไว้วางใจมากที่สุด ส่วนลำดับที่สอง คือ ศาลรัฐธรรมนูญ (58.9 เปอร์เซ็นต์) ตามด้วยสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (47 เปอร์เซ็นต์) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา (44.2 เปอร์เซ็นต์) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชั่นและสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้เท่ากัน คือ 36.9 เปอร์เซ็นต์ และท้ายที่สุด คือ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (35.3 เปอร์เซ็นต์) การที่ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนกระบวนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และชะลอการนำการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ได้รับความนิยมสูงสุดนี้ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ได้กล่าวว่า ศาลปกครองมิได้เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และไม่ได้มีหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล หากแต่เป็นศาลยุติธรรมอีกประเภทหนึ่งเช่นเดียวกับศาลฎีกา มีหน้าที่ในการตัดสินคดีปกครองระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชน และไม่มีหน้าที่ตัดสินคดีระหว่างบุคคลต่อบุคคลอีกด้วย 7 ว่าที่ กสช. ยื่นอุทธรณ์. ผู้ได้รับการเลือกตั้งโดยวุฒิสภาให้เป็นคณะกรรมการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) จำนวน 7 คน ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองในกรณีที่มีคำสั่งศาลประกาศเพิกถอนกระบวนการสรรหา ทั้งนี้โดยให้เหตุผลว่าตนเองไม่ได้มีส่วนร่วมในความขัดแย้งตามที่อดีตผู้สมัครนายประมุท สูตะบุตร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคณะกรรมการสรรหา กสช. และสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนหน้านี้ สำนักนายกรัฐมนตรีก็ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองในกรณีที่ได้มีคำตัดสินเพิกถอนกระบวนการสรรหา กสช. เช่นกัน ท้ายที่สุด ศาลปกครอง เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ได้มีคำสั่งไม่รับคำร้องอุทธรณ์ของว่าที่กรรมการ กสช. ทั้งเจ็ด ด้วยเหตุผลว่า ผู้อุทธรณ์ไม่ใช่คู่กรณีนี้มาตั้งแต่ต้น และไม่ได้เข้ามาเป็นคู่กรณีในภายหลังด้วยการร้องสอดด้วยความสมัครใจ หรือถูกศาลเรียกเข้ามาในคดี ผู้อุทธรณ์จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ในคดีนี้ วุฒิสภาแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ. ที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ได้มีมติ 76 ต่อ 1 ผ่านร่างแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญซึ่งมีหลักการสำคัญในมาตรา 5 และ 6 ห้ามมิให้ผู้เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจถือหุ้นในองค์กรนั้น และยังห้ามบุคคลเดียวเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจมากกว่า 3 แห่ง ร่างกฎหมายนี้เสนอโดยสมาชิกวุฒิสภา กทม. นายโสภณ สุภาพงศ์ ป่าชุมชนต้องรอเข้าสภาสมัยประชุมหน้า. คณะกรรมาธิการร่วมสภา ส.ส. และวุฒิสภาได้ผ่านร่างกฎหมายป่าชุมชนเรียบร้อยแล้วและยื่นต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาต่อไป แต่ไม่สามารถจะบรรจุได้ทันภายในวาระการประชุมสมัยนี้ ร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชน ได้รับการเสนอเข้ามาเพื่อพิจารณาเป็นครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อน โดยร่างที่นำเสนอโดยภาคประชาสังคมและประชาชนกว่า 50,000 ชื่อที่อาศัยอยู่ในป่า ที่ประชุมได้พิจารณาวาระแรกเมื่อปี 2544 และในการพิจารณาครั้งต่อๆ มา ได้รับการแก้ไขในเรื่องของการกำหนดให้มี “เขตอนุรักษ์พิเศษ” ซึ่งห้ามประชาชนอยู่อาศัยและดำเนินกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ประชาชนผู้อาศัยอยู่ในป่าจำนวนหนึ่งกว่า 100 คน ได้เดินทางด้วยเท้าระยะทางกว่า 700 กิโลเมตรจากเชียงใหม่มาประท้วงที่รัฐสภา ร่าง พ.ร.บ. ถ่ายโอนครูผ่านวาระที่ 1. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ได้มีมติ 322 ต่อ 65 งดออกเสียง ผ่านวาระที่ 1 ขั้นหลักการร่างพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เสนอโดยพรรคไทยรักไทย ร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องผ่านการพิจารณาอีก 3 วาระก่อนที่จะเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อการรับรอง หลักการคือ ให้ยกเลิกระยะเวลา 10 ปีในการถ่ายโอนสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานไปอยู่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำหนดให้การถ่ายโอนเป็นไปโดยความสมัครใจ หลังจากที่ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านแล้ว ในวันที่ 7 ธันวาคม ครูประมาณ 50,000 คน ได้มาชุมนุมกันที่หน้าสภาเพื่อคัดค้านและเรียกร้องให้ตัดคำว่า “โดยสมัครใจ” ออกไป ครม. สัญจรอนุมัติงบกว่า 121 พันล้านบาทในปีนี้. ตั้งแต่ปี 2544 ที่เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คณะรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้จัดการประชุมที่เรียกว่า ครม.สัญจร ในพื้นที่ต่างจังหวัด และในแต่ละครั้งก็ได้มีการอนุมัติโครงการต่างๆ ตามนโยบายขจัดความยากจน ซึ่งในปีนี้ก็ได้มีการอนุมัติเงินจำนวน 121,809.65 ล้านบาท ดังนี้ คือ ในการประชุมที่เชียงรายเมื่อเดือนมกราคม 2548 ได้อนุมัติเงิน 256.68 ล้านเพื่อ จัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดนในจังหวัดตาก และติดตั้งประปาในอำเภอแม่สอด พบพระ และแม่ระมาด โครงการส่งเสริมสินค้าโอทอปและส่งเสริมการท่องเที่ยว โครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม โครงการจัดทำผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในเขตเศรษฐกิจ การปรับโครงสร้างผลิตภัณฑ์เกษตร 2. ในการประชุมที่บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ได้อนุมัติเงิน 2,303.91 ล้านบาทตามนโยบายกำจัดความยากจนและกระตุ้นรายได้โดยการบริหารจัดการแหล่งน้ำและพัฒนาการท่องเที่ยวและคมนาคม 3. ในการประชุมที่พะเยาระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายน ได้อนุมัติการลงทุนในเมกะโปรเจ็คที่จะดำเนินการระหว่างปี 2548-2553 4. ในการประชุมที่จันทบุรีในวันที่ 1-2 สิงหาคม ได้อนุมัติเงิน 2,708.06 ล้านบาทเพื่อ โครงการเร่งด่วนเกี่ยวกับการจัดหาและจัดการน้ำในชายฝั่งทะเลตะวันออก การปรับโครงสร้างสวนผลไม้ 5. ในการประชุมที่พังงาวันที่ 5-6 กันยายน ได้อนุมัติ โครงการพัฒนาอย่างเร่งด่วน 6 โครงการ ได้แก่ ทางหลวงระหว่างจังหวัดพังงาและกระบี่ การขนส่งทางน้ำระหว่างอ่าวท่าเลน-เกาะยาว-ภูเก็ต การฟื้นฟูเกาะพีพี การขยายกำลังการผลิตปาล์มน้ำมัน การผลิตไบโอดีเซล และการวิจัยเรื่องน้ำมันปาล์ม โครงการลงทุนระยะกลาง ได้แก่ ทางหลวงระยะทาง 60.5 กิโลเมตรเชื่อมพังงา-กะปง-ตะกั่วป่า การผลิตน้ำประปาในจังหวัดในสามเหลี่ยมอันดามัน และการส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการบริการ โครงการเร่งด่วนเพื่อการแก้ไขปัญหา 30 โครงการ โครงการแก้ไขปัญหาระยะกลาง 2 โครงการ ได้แก่ การส่งเสริมให้มีการเข้าพักแรมระยะยาวที่คุระบุรี และสะพานเชื่อมเกาะคอขาว การติดตามผลการแก้ไขปัญหาสึนามิ 6. ในการประชุมที่นครสวรรค์ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ได้อนุมัติเงิน 116,000 ล้านบาท เพื่อสร้างเคหะสำหรับผู้มีรายได้น้อยนอกเหนือจากโครงการลงทุน 1.7 ล้านล้านบาทในโครงการเมกะโปรเจ็ค 7. ในการประชุมที่สุโขทัยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ได้อนุมัติเงิน 541 ล้านบาทเพื่อการพัฒนาแหล่งน้ำ การท่องเที่ยวและขยายเศรษฐกิจ อัตราว่างงานต่ำสุดในรอบ 3 ปี. สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เปิดเผยผลการศึกษาสถานการณ์ทางสังคมในปลายปี 2548 ว่า อัตราการว่างงานในประเทศไทยมีตัวเลขต่ำสุดในรอบ 3 ปี คือ คืออยู่ที่ 1.36 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ตัวเลขผู้มีงานทำทั้งประเทศสูงขึ้นเป็น 36.5 ล้านคน อย่างไรก็ตาม อัตราผู้ว่างงานใน กทม. ได้เพิ่มจาก 1.53 เป็น 2.02 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาเดียวกัน สาเหตุที่อัตราการว่างงานในชนบทต่ำกว่า กทม. ก็เพราะมีการกระจายอาชีพในชนบทและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาคเกษตรในระดับรากหญ้า แม้ว่าคุณภาพทางการศึกษาของประชาชน 37 ล้านคน ในช่วงวัยทำงานจะสูงขึ้นจาก 38.1 เป็น 38.9 เปอร์เซ็นต์ ในปีที่ผ่านมา แต่มีปัญหาสำคัญ คือ นักเรียนในโรงเรียนมัธยมขาดทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษ ตั้งพลเอกชวลิต ขจัดความยากจน. นายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ได้ลงลงนามแต่งตั้งพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายขจัดความยากจน และผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านความยากจน และยังได้ตั้งนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา เป็นประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายขจัดยาเสพติด มาตรการระยะสั้นในการขจัดความยากจนคือกระจายการถือครองที่ดินและปลดหนี้ ให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่พักอาศัยและให้มีงานทำ ส่วนในระยะยาวนั้นจะต้องให้ประชาชนมีการศึกษาดีขึ้นและมีการวางแผนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน