มิถุนายน 2547 : ค้าน FTA นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะร่วมลงนามในสนธิสัญญาเปิดการค้าเสรี หรือ FTA ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าจะทำให้ไทยเสียเปรียบและมีผลประโยชน์ทับซ้อนของนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย นอกจากนี้รัฐบาลได้ยกเลิกนโยบายการระดมทุนซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พลู หรือ “หงส์แดง” ด้วยวิธีการออกสลากกีฬาพิเศษขายให้แก่ประชาชน จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของประเทศไทย ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์การเมืองไทยถึงแก่อสัญกรรมแล้ว นอกจากนี้ วุฒิสภาลงมติเลือกนายศราวุธ เมนะเศวต รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แทนนายกล้าณรงค์ จันทิก ที่หมดวาระ ค้าน FTA “ไทย-ออสเตรเลีย” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมลงนามในสนธิสัญญาเปิดการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ที่กรุงแคนเบอร์ร่า ประเทศออสเตรเลีย ในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ นับเป็นความตกลงการค้าเสรีที่มีขอบเขตกว้างขวางฉบับแรกของไทยกับต่างประเทศ มีสาระสำคัญคือ การเปิดเสรีด้านการค้าสินค้า บริการ และการลงทุน รวมถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจในสาขาต่างๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน เช่น e-commerce ทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น ซึ่งการลงนามดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป การเปิดเสรีด้านการค้าสินค้าในครั้งนี้ ออสเตรเลียจะลดภาษีนำเข้าเป็นศูนย์สำหรับสินค้ากว่า 83% ของรายการสินค้าทั้งหมด เช่น สินค้าผักและผลไม้สด อาหารสำเร็จรูป กระดาษ เครื่องประดับ รถยนต์ขนาดเล็กและรถปิกอัพ และสำหรับสินค้าที่เหลือทั้งหมดจะทยอยลดภาษีเป็นศูนย์ในปี พ.ศ. 2558 ส่วนไทยจะลดภาษีเป็นศูนย์สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากออสเตรเลีย 50% ของรายการสินค้าทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าวัตถุดิบ เช่น สินแร่ เชื้อเพลิง หนังดิบ และจะทยอยลดภาษีเป็นศูนย์สำหรับรายการสินค้าที่เหลือทั้งหมดในปี พ.ศ. 2558-2563 อนึ่ง สมาชิกวุฒิสภา นักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม เครือข่ายประชาชน ได้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการลงนามครั้งนี้ถึงแม้ในภาพรวมไทยได้ประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์ เนื่องจากเห็นว่าความสามารถในการแข่งขันของไทยยังด้อยกว่าออสเตรเลียอยู่มาก อาจทำให้มีผลกระทบตามมา ได้แก่ นมและเนื้อราคาถูกของออสเตรเลียจะเข้ามาตีตลาด เช่นเดียวกับกรณีการเปิดเขตการค้าเสรีผักและผลไม้กับประเทศจีน ซึ่งไทยนำเข้าผักและผลไม้จากจีนเพิ่มถึง 201% แต่ส่งออกได้แค่ 23% นอกจากนี้ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนของนายกรัฐมนตรีที่จะได้จากสัญญานี้ คือ ธุรกิจโทรคมนาคม เลิกนโยบายออกหวยหงส์ รัฐบาลยกเลิกนโยบายการระดมทุนซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พลู หรือ “หงส์แดง” ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลชื่อดังของประเทศอังกฤษ ด้วยวิธีการออกสลากกีฬาพิเศษขายให้แก่ประชาชน และเตรียมหาแนวทางอื่นในการระดมทุนซื้อหุ้นดังกล่าวต่อไป หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้การกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นผู้ประสานงานซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พลู ในสัดส่วน 30% คิดเป็นเงิน 4,600 ล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพวงการฟุตบอลไทย โดยจะระดมทุนด้วยวิธีการออกสลากดังกล่าว ทำให้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ คัดค้านเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับการยอมรับของสังคม เช่น น.พ.ประเวศ วะสี และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกับการดำเนินภารกิจของรัฐ ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 87 และ 212 อีกทั้งเป็นการมอมเมาเยาวชนและประชาชน ขัดหลักธรรมทางศาสนา และเอื้อให้เกิดอาชญากรรมสูงมากขึ้น “จอมพลถนอม” อสัญกรรม จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของประเทศไทย ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์การเมืองไทย ได้ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 93 ปี เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา อนึ่ง จอมพลถนอมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2501 ลาออกเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 และเดินทางออกนอกประเทศ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์เรียกร้องรัฐธรรมนูญของกลุ่มนิสิต นักศึกษา จนเกิดเหตุการณ์วันมหาวิปโยค 14 ตุลา 2516 ขึ้น รวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งทั้งสิ้น 10 ปี 6 เดือน และเมื่อเดือนกันยายน 2519 ได้บวชเณรแล้วเดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นชนวนให้เกิดเหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลาคม 2519 ขึ้นอีกครั้ง เลือกเลขาฯ ป.ป.ช.คนใหม่ ที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ลงมติ 149 ต่อ 13 เสียง และงดออกเสียง 9 เสียง เลือก นายศราวุธ เมนะเศวต รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช. แทน นายกล้าณรงค์ จันทิก ที่หมดวาระหลังดำรงตำแหน่งครบ 6 ปี