มีนาคม 2546 : แต่งตั้ง 9 ผู้ช่วย รมต. คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้ง 9 ผู้ช่วยรัฐมนตรี ส่วนอีก 21 คนที่เหลือจะแต่งตั้งต่อไปเพื่อให้ครบ 30 คน สภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่รับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ.2546 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยวุฒิสภา และให้ตั้งคณะกรรมาธิการร่วมสองสภาเพื่อพิจารณาต่อไป วุฒิสภารับหลักการร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนวิธีการประหารชีวิตจากยิงเป้าเป็นฉีดยาพิษ และเลือก นายสุชน ชาลีเครือ ส.ว.ชัยภูมิ เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 แทน นายพิเชษฐ พัฒนโชติ ส.ว.นครราชสีมา ที่ลาออกไป นอกจากนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แจ้งความดำเนินคดีกับหัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรค และกรรมการสาขาพรรค จำนวน 3,579 ราย เนื่องจากไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 42 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง และได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีคำสั่งยุบ 10 พรรคการเมือง ส่วนนายกระมล ทองธรรมชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้รับเลือกเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ แต่งตั้ง 9 ผู้ช่วย รมต. เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีลงมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จำนวน 9 คน จากผู้ได้รับการเสนอชื่อจำนวน 344 คน ประกอบด้วย นายวัชระ พรรณเชษฐ์ เป็นผู้ช่วย นายกร ทัพพะรังสี รองนายกรัฐมนตรี นายเกริกไกร จีระแพทย์ เป็นผู้ช่วย นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เป็นผู้ช่วย นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ เป็นผู้ช่วย นายอดิศัย โพธารามิก รมว.พาณิชย์ นายอุตตม สาวนายน และ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นผู้ช่วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นผู้ช่วย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รมว.มหาดไทย ร.ต.ประภาส ลิมปพันธ์ เป็นผู้ช่วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รมว.แรงงาน นายสรจักร เกษมสุวรรณ เป็นผู้ช่วย นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รมว.ต่างประเทศ ทั้งนี้ มติแต่งตั้ง 9 ผู้ช่วยรัฐมนตรีดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ทันที ส่วนผู้ช่วยรัฐมนตรีที่เหลืออีก 21 คน ครม.จะต้องแต่งตั้งเพิ่มเพื่อให้ครบ 30 คน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พ.ศ. 2546 อนึ่ง คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้แสดงความเห็นว่าผู้ช่วยรัฐมนตรีทั้งหมดต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ในการเข้าดำรงตำแหน่ง ซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช. ได้มีมติว่าตำแหน่งดังกล่าว ไม่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินฯ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ระบุ เพราะเป็นตำแหน่งที่เกิดขึ้นใหม่หลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ แต่หากมีการร้องเรียนว่าผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวกระทำการทุจริต ป.ป.ช. ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินฯ ได้ทันที โดยไม่ต้องมีการประกาศเป็นกฎหมาย กม.สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรลงมติ 288 ต่อ 15 เสียง ไม่รับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ.... ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยวุฒิสภา และให้ตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภาขึ้นพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายดังกล่าว เพื่อนำเสนอให้ทั้งสองสภาพิจารณาอีกครั้ง โดยเหตุผลที่ไม่รับร่างดังกล่าว เนื่องจากในมาตรา 3 และมาตรา 5 ที่ไม่อนุญาตให้ขึ้นทะเบียน “ชื่อสามัญ” ของสินค้าที่บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งในร่างกฎหมาย จะทำให้ “ชื่อสามัญ” ของพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ตลอดจนวัตถุดิบอื่นๆ จากท้องถิ่น รวมถึงความสามารถในการประกอบอาหาร ที่เกิดจากภูมิปัญญาคนไทย เช่น ข้าวหอมมะลิ สุนัขบางแก้ว สุนัขหลังอาน ไข่เค็มไชยา แมวสีสวาด ผัดไทย เป็นต้น จะไม่ได้รับการคุ้มครองอีกต่อไป และในอนาตตจะถูกต่างชาตินำไปใช้ประโยชน์ ทั้งนี้ จะมีตัวแทนขององค์กรเกษตรกร นักวิชาการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการร่วมฯ อย่างน้อย 4 คน อีกทั้งในระหว่างดำเนินการพิจารณาปรับปรุงร่างกฎหมายฉบับนี้ จะต้องให้ประชาชนในท้องถิ่นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้แสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ด้วย วุฒิสภารับร่าง กม.ฉีดยาแทนยิงเป้า วุฒิสภามีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ที่ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร ด้วยคะแนนเสียง 104 ต่อ 13 เสียง และให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 25 คน ขึ้นพิจารณา เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา โดยร่างดังกล่าวมีสาระสำคัญคือ ให้เปลี่ยนวิธีการลงโทษประหารชีวิตจากการยิงเป้า มาเป็นการฉีดยาหรือสารพิษเข้าร่างกายให้เสียชีวิตแทน ทั้งนี้ หลังคณะกรรมาธิการฯ พิจารณาแก้ไขแล้วจะนำเสนอต่อวุฒิสภาต่อไป เลือก “สุชน” เป็นรองประธานวุฒิสภา ที่ประชุมวุฒิสภาเลือก นายสุชน ชาลีเครือ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดชัยภูมิ เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 แทน นายพิเชษฐ พัฒนโชติ ส.ว.จังหวัดนครราชสีมา ที่ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากได้ประกาศเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งว่าจะอยู่ในวาระเพียง 2 ปีเท่านั้น เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ ส.ว. ท่านอื่นได้ทำงานในตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ นายสุชน ก็ได้ประกาศไว้เช่นเดียวกันว่าจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวเพียง 2 ปี การสมัครเป็นรองประธานฯ ครั้งนี้ มีผู้สมัครทั้งสิ้น 3 คน คือ นายสุชน ได้รับเลือกด้วยคะแนน 123 เสียง พล.อ.บัณฑิตย์ มลายอริศูนย์ ส.ว.จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับเสียงสนับสนุน 47 เสียง นายสัก กอแสงเรือง ส.ว.กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้คะแนนเพียง 25 เสียง กรรมการพรรคฯ ถูกดำเนินคดีฐานไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฝ่ายทะเบียนพรรคการเมือง ได้แจ้งความดำเนินคดีกับหัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรค และกรรมการสาขาพรรค จำนวน 3,579 ราย เนื่องจากไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 42 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 โดยคดีทั้งหมดเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2545 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2546 มาตรา 42 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ระบุว่า หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และกรรมการสาขาพรรคการเมือง ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายใน 30 วันนับแต่วันเข้าดำรงตำแหน่งและวันพ้นจากตำแหน่ง หากไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกดำเนินคดี โดยปรับไม่เกิน 100,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 500 บาท ตลอดเวลาจนกว่าจะยื่นให้ถูกต้อง ทั้งนี้ พรรคที่ถูกดำเนินคดีมากที่สุดได้แก่ พรรคความหวังใหม่ 1,417 คน พรรคประชาธิปัตย์ 789 คน พรรคชาติประชาธิปไตย 238 คน พรรคชาติพัฒนา 100 คน ส่วนพรรคไทยรักไทย มีเพียง 2 คน ยื่นศาล รธน. ยุบ 10 พรรค คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีคำสั่งยุบพรรค จำนวน 10 พรรค คือ 1) พรรคพลังมหาชน 2) พรรคสังคมประชาธิปไตย 3) พรรคชาวไทย ถูกยุบเนื่องจากพรรคดำเนินการจัดประชุมใหญ่พรรคไม่เป็นไปตามข้อบังคับ 4) พรรคสังคมพัฒนา และ 5) พรรคไทยมหาชน ถูกยุบเนื่องจากไม่ดำเนินการให้มีสมาชิกพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 5,000 คน และให้มีสาขาพรรค ภาคละ 1 สาขา ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่นายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดแจ้งการจัดตั้ง 6) พรรคไทยประชาธิปไตย 7) พรรคเกษตรกร 8) พรรคไท 9) พรรคอำนาจประชาชน ถูกยุบเนื่องจากได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรค แล้วไม่รายงานค่าใช้จ่ายเงินให้ถูกต้องตามความเป็นจริง และ 10) พรรคแก้ปัญหาชาติ ได้ขอยุบพรรค เนื่องจากการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค มีมติให้ยุบเลิกตามข้อบังคับพรรค ทั้งนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ กกต. และมีคำสั่งให้ยุบพรรคทั้ง 10 จะทำให้พรรคการเมืองปัจจุบันที่ยังดำเนินการอยู่มีจำนวนทั้งสิ้น 40 พรรค ประธานศาล รธน.คนใหม่ นายกระมล ทองธรรมชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้รับเลือกเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ชนะนายอมร รักษาสัตย์ ด้วยคะแนน 8 ต่อ 6 เสียง จากตุลาการที่ถูกเสนอชื่อทั้งหมด 6 คน คือ 1) นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ 2) นายสุจิต บุญบงการ 3) นายอุระ หวังอ้อมกลาง 4) นายปรีชา เฉลิมวณิชย์ 5) นายอมร และ 6) นายกระมล การประชุมเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่วุฒิสภาได้คัดเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแทน 4 ตำแหน่งที่ว่างไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีตุลาการครบ 15 คน จึงดำเนินการประชุมเพื่อเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว