เมษายน 2548 : รัฐบาลของบ 5 หมื่นล้านบาท สภาผู้แทนราษฎรรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมกลางปีงบประมาณ พ.ศ.2548 จำนวน 50,000 ล้านบาท ส่วนรัฐบาลได้ขอความร่วมมือประชาชนและบริษัทโทรศัพท์มือถือเพื่อจัดระเบียบซิมการ์ดเพื่อป้องกันการก่อเหตุวางระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2548-2551 นอกจากนี้ รัฐสภาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ที่ค้างการพิจารณารวดเดียว 41 ฉบับ ตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอ รับร่างงบกลางปี 5 หมื่นล้านบาท สภาผู้แทนราษฎรมีมติรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2548 หรืองบประมาณกลางปี จำนวน 50,000 ล้านบาท ในวาระ 1 เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียง 290 เสียง ไม่เห็นด้วย 56 เสียง งดออกเสียง 11 เสียง และไม่ลงคะแนน 2 เสียง ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว รัฐบาลได้เสนอของบประมาณเพิ่มเติมจากสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 50,000 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินในการดำเนินนโยบายและมาตรการต่างๆ ในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตามที่ได้แถลงนโยบายได้ต่อรัฐสภา ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวคาดว่าจะได้จากการจัดเก็บรายได้ในปี 2548 ที่เกินเป้าหมายเดิมจำนวน 50,000 ล้านบาท งบประมาณจำนวนนี้จะนำไปใช้ใน 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1) เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน 17,000 ล้านบาท 2) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด สำหรับผู้ว่าราชการแบบบูรณาการ (ซีอีโอ) 15,000 ล้านบาท 3) ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านหรือชุมชน 9,400 ล้านบาท 4) ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและความยากจน 4,000 ล้านบาท และ 5) เงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อดำเนินการตามมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้ง 4,600 ล้านบาท ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 35 คน พร้อมกำหนดให้แปรญัตติภายใน 7 วัน หากสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบก็จะนำเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป จัดระเบียบซิมการ์ด นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมจัดระเบียบซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงิน หรือพรีเพด เพื่อป้องกันการนำไปใช้เป็นตัวก่อเหตุจุดฉนวนระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ข้อสรุป 2 แนวทาง คือ 1) ขอความร่วมมือจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) ในการออกกฎหมายหรือระเบียบควบคุม หาก กทช.เห็นด้วยก็จะนำร่างระเบียบหรือกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่หาก กทช.เห็นว่าไม่สามารถดำเนินการได้ ก็จะใช้แนวทางที่สอง คือ อาศัย พ.ร.บ.ควบคุมโภคภัณฑ์ พ.ศ.2495 ของกระทรวงพาณิชย์ ที่กำหนดให้รัฐสามารถควบคุมโภคภัณฑ์เพื่อสวัสดิภาพของประชาชนและความมั่นคงของประเทศ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นรัฐบาลจะขอความร่วมมือจากบริษัทผู้จำหน่ายโทรศัพท์ก่อน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ซิมการ์ดใหม่ ผู้ซื้อจะต้องแสดงบัตรประชาชนก่อนซื้อ ส่วนซิมการ์ดเก่าที่จำหน่ายไปแล้วจำนวน 21.5 ล้านเลขหมายนั้น กำหนดให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์ต้องแสดงตนกับผู้ให้บริการ หากลูกค้าไม่ติดต่อกลับบริษัทเกิน 6 เดือนก็จะถูกตัดสัญญาณทันที โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2548 อนึ่ง เหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทวีความรุนแรงมากขึ้น ล่าสุดได้มีการวางระเบิดสนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา และอีกหลายจุดในจังหวัดสงขลา ทำให้มีประชาชนเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายคน ครม.เห็นชอบแผนบริหารแผ่นดิน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2548-2551 และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อให้ส่วนราชการนำแผนบริหารราชการแผ่นดินดังกล่าวไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี ให้แล้วเสร็จภายใน วันที่ 13 มิถุนายนนี้ โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบจัดประชุมชี้แจงแนวทางการจัดแผนปฏิบัติราชการแก่ส่วนราชการต่อไป แผนบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2548-2551 มีสาระสำคัญ 3 ส่วน คือ 1) แนวคิดและทิศทางในการบริหารประเทศ กล่าวถึงสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ของประเทศไทย วิสัยทัศน์และนโยบายของรัฐบาล 2) ยุทธศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดิน โดยจำแนกเป็นประเด็นยุทธศาสตร์ 9 ยุทธศาสตร์ และ 3) กลไกการนำแผนการบริหารราชการแผ่นดินไปสู่การปฏิบัติประกอบด้วยหน่วยงานเจ้าภาพ กฎหมายและโครงสร้างสำคัญ งบประมาณสนับสนุนยุทธศาสตร์และแนวทางการติดตามและประเมินผล รัฐสภาผ่าน กม.41 ฉบับ ที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ค้างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภารวมทั้งยังดำเนินการไม่เสร็จ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 178 ทั้งสิ้น 41 ฉบับ อาทิ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยต่างๆ ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลล้มละลาย และวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย ร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ รวมทั้งร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชน ที่เสนอโดยประชาชน