สถาบันนโยบายศึกษา : Institute of Public Policy Studies (IPPS)

ทำให้ดู เป็นครูให้เห็น

      วาระปฏิรูปประเทศนับตั้งแต่ปี 2557 ภายหลังรัฐประหารโดยคณะ คสช. และรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จาก สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สู่ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และล่าสุด คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ สุดท้ายได้ตีกรอบจากที่ทำมาหลายเรื่องร่วม 4 ปี เหลือเพียง 5 เรื่องที่คาดว่าต้องทำให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ ที่คาดเดาได้ยากว่าจะเกิดขึ้นในช่วงใด

      เรื่องสำคัญทั้ง 5 เรื่องนั้น เรื่องแรก คือ ปฏิรูประบบราชการเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน เรื่องนี้รัฐบาลต้องจัดการระบบการทำงานและคนของตนเองให้เกิดประสิทธิภาพ มีคุณภาพ คุ้มค่ากับภาษีของประชาชน

      เรื่องที่สอง เศรษฐกิจ คือ ปฏิรูปปากท้องเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน หากระบบเศรษฐกิจยังเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็ก หรือมือใครยาวสาวได้สาวเอา ปล่อยเศรษฐกิจของประเทศผูกขาดอยู่กับคนจำนวนน้อยนิด ก็คงเป็นเพียงความพยายามแก้ไขปัญหาเพียงบางจุด ซึ่งยังไม่ได้ออกแบบระบบเศรษฐกิจที่จะดูแลคนส่วนใหญ่ได้

      เรื่องที่สาม การปฏิรูปเพื่อแก้ปัญหาทุจริต สร้างความโปร่งใส ซึ่งเป็นเรื่องทั้งคนและระบบภายในของราชการของภาครัฐเองที่ต้องจัดการให้เด็ดขาด เพราะเงินที่ฉ้อฉลจากการทุจริตนับว่าสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ของการลงทุนภาครัฐ ซึ่งควรนำเม็ดเงินเหล่านี้มาสร้างคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม

      เรื่องที่สี่ ปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ความเสมอภาคและเท่าเทียม ซึ่งจำเป็นต้องมีแนวทาง และการปฏิบัติให้ปรากฏเป็นรูปธรรม สะท้อนถึงความยุติธรรมทั้งทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ โดยไม่เลือกปฏิบัติ

      เรื่องที่ห้า การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ให้ตระหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรมทางการเมือง นับเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญอันดับต้นๆ เพราะเป็นเรื่องการออกแบบการสร้างคนตั้งแต่เด็กเล็ก จนถึงผู้ใหญ่ เพื่อให้รู้ว่าจะอยู่อย่างไรให้เป็นคนที่มีคุณค่าต่อสังคมประเทศ ซึ่งต้องลงแรงคิดอีกมาก และจำเป็นต้องสร้างความต่อเนื่องในการสร้าง “มนุษย์ไทยใหม่” ให้ตรึงอยู่กับค่านิยมและพฤติกรรมที่ลดความเห็นแก่ตัวลง และยึดถือประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งเป็นคุณค่าของสังคมประชาธิปไตย

      การขับเคลื่อนทั้ง 5 ประเด็นของรัฐบาลจึงอยู่ที่การลงมือทำและสื่อสารกับประชาชน เพื่อสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วม ไม่ใช่การสั่งและให้เดินตามโดยปราศจากการสงสัย นอกจากนั้นแล้ว ผู้นำทุกระดับชั้นของรัฐบาลหรือของภาครัฐ จะต้องสามารถทำให้ประชาชนเห็นว่ากรอบทั้ง 5 ได้ลงมือทำอย่างจริงจัง

      เข้าทำนองว่า ทำให้ดู เป็นครูให้เห็น เป็นตัวอย่างที่ประชาชนจะสามารถมั่นใจได้ว่าอยู่ในแนวทางการปฏิรูปอย่างมีวัฒนธรรมประชาธิปไตยอีกด้วย

ทิพย์พาพร ตันติสุนทร
ผู้อำนวยการร่วม สถาบันนโยบายศึกษา

From : http://www.fpps.or.th