สถาบันนโยบายศึกษา : Institute of Public Policy Studies (IPPS)

ปฏิรูปพรรคการเมือง?

      มีเวลาอีกประมาณ 1 ปีข้างหน้านี้ ที่คาดว่าจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าการเมืองไทยจะมีโฉมหน้าเปลี่ยนไปอย่างไร แต่สิ่งที่เชื่อว่าอยู่ในใจของคนหมู่มากนั้น คงอยากเห็นสิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิมและเป็นประโยชน์กับประเทศจริงๆ เกิดขึ้น โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่จะต้องส่งผู้สมัครเข้าสู่การแข่งขันในการเลือกตั้งระดับชาติปลายปี 2560

      พรรคการเมืองจึงเป็นศูนย์รวมทางการเมือง ซึ่งการเมืองนี้ที่จะสร้างกระบวนการว่าเราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไรในสังคมหนึ่งๆ ซึ่งประบอบประชาธิปไตยได้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าร่วมในกระบวนการนี้ คือ กระบวนการประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมนั่นเอง ที่จะทำให้การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน และเป็นเรื่องที่อยู่ในวิถีชีวิต

      ระบอบประชาธิปไตย ต้องการนักประชาธิปไตย!

      การสร้างพรรคการเมือง จึงเป็นเรื่องสำคัญ และต้องทำให้เป็นพรรคที่มีความสามารถที่จะทำงานการเมืองอยู่อย่างต่อเนื่อง มีอุดมการณ์ชัดเจน และได้รับการสนับสนุนจากทั้งภายในและภายนอกพรรค โดยเริ่มจากประชาชนที่มีอุดมการณ์ร่วมกันมารวมตัวกันทำงานการเมือง จึงเป็นพรรคที่ไม่ถูกผูกขาดจากบุคคลใดหรือคณะบุคคลใด ความรับผิดชอบของพรรคจึงขึ้นต่อทุกๆ คนที่เป็นสมาชิก และมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ

      จึงเป็นสถาบันบ่มเพาะบุคลากรทางการเมืองและผู้นำทางการเมืองที่มาจากความหลากหลาย เพื่อประโยชน์สาธารณะ พรรคการเมืองจึงต้องมีบทบาทนำในการริเริ่ม ทั้งด้านความคิด การเคลื่อนไหวทางสังคม นวัตกรรมทางสังคม และการสร้างให้เกิดการมีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งจะนำไปสู่ความรับผิดชอบในระยะยาว

      พรรคจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการ และการเปลี่ยนแปลงของสังคม ทั้งนี้ ก็เพื่อที่พรรคจะไม่ถูกกลืนหายไปจากสังคม และก็จะยังคงความสำคัญที่สุดในการทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้กับรัฐและประชาชน

      พรรคที่ทำไม่ได้ดังกล่าวมานี้ ก็หายไปนักต่อนักแล้วในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แม้แต่พรรคที่เริ่มก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศในช่วงต้นๆ และหลังจากนั้นจนถึงปัจจุบัน

      การปรับเปลี่ยนและพัฒนาตัวเองของพรรคการเมือง และบุคลากรทางการเมืองของพรรค จึงต้องอยู่ในสายตาของประชาชนและสนองตอบต่อความต้องการของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

      อย่างไรก็ตาม ก็ต้องตระหนักอยู่เสมอว่า แม้สภาวะที่พรรคการเมืองอ่อนแอและยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น สถานการณ์ปัจจุบัน

      นี่จึงเป็นที่ประจักษ์และเข้าใจอย่างสอดคล้องกันในสังคมแล้วว่า “จะไม่มีประชาธิปไตย หากปราศจากการมีอยู่ของพรรคการเมือง”

      การมีอยู่ของพรรคการเมืองจึงพึงได้รับความชอบธรรมในการริเริ่มสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการประชาธิปไตยจากความหลากหลาย และประสานพลังของทั้งสังคม ไม่ใช่ทอนกำลังหรือสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม

      พรรคการเมืองต้องใช้ความสามารถทั้งหมดทำการปฏิรูปตัวเอง เพื่อสร้างการยอมรับของสังคมบนหลักการประชาธิปไตย เพื่อประโยชน์ของประเทศไม่ใช่ของพรรค

ทิพย์พาพร ตันติสุนทร
ผู้อำนวยการร่วม สถาบันนโยบายศึกษา

From : http://www.fpps.or.th