สถาบันนโยบายศึกษา : Institute of Public Policy Studies (IPPS)

สวัสดีปีใหม่ 2557 คิดให้ใหม่ว่าที่แล้วมา

     อย่างไรก็ดี ทุกแนวคิดก็ออกตัวว่า เพื่อให้อยู่ในแนวทางประชาธิปไตย หรือเพื่อปกป้องรักษาประชาธิปไตย อันเป็นการสื่อสารประชาธิปไตยที่มุ่งสร้างความชอบธรรมแก่แต่ละแนวคิด ซึ่งยังต้องพิจารณาในสาระสำคัญอีกมาก เพื่อสะท้อนว่าแนวคิดใดมุ่งไปสู่การพัฒนาประเทศ รักษาผลประโยชน์ของประเทศ มากกว่าสิ่งอื่นใด

     หากทั้งฝ่ายรัฐบาลรักษาการ และฝ่ายต่อต้าน เห็นว่าจำเป็นต้องปฏิรูประเทศ และเป็นเจตนาโดยสุจริตจากทุกฝ่ายจริงที่อยากเห็นการปฏิรูป ซึ่งคำว่า “ปฏิรูป” ก็คือ การเปลี่ยนรูปที่ไม่เหมือนเดิม เราก็ควรจะเริ่มคิดแก้ไขปัญหาประเทศที่ไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ต้น เพราะปัญหาขณะนี้เป็นปัญหาการเมืองแบบเดิม เลือกตั้ง คัดค้าน ยุบสภา แล้วกลับมาเลือกตั้ง มาพร้อมกับการคาดหวังผลประโยชน์ที่จะได้

     ถ้าไม่ริเริ่มปฏิรูปกระบวนการคัดเลือกคนเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งก็เป็นปัญหาแล้ว ตั้งแต่นักการเมืองไม่มีอิสระจริงในการตัดสินใจเมื่อสังกัดพรรคการเมือง อีกทั้ง พรรคการเมืองส่วนใหญ่ก็เป็นพรรคที่มีเจ้าของเป็นนักธุรกิจที่พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อชนะการเลือกตั้ง โดยวิธีการที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย เช่น ซื้อนักการเมือง ซื้อพรรค ควบรวมกิจการพรรคการเมือง ไม่ต่างอะไรกับการควบรวมกิจการทางธุรกิจ ซึ่งยังไม่รวมถึงการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองแบบเดิมๆ

     ขณะนี้ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การเลือกตั้งเท่านั้น ทั้งที่เรื่องการเลือกตั้งก็เป็นกลไกที่สำคัญ และจะขาดไม่ได้หากเราจะเดินในแนวทางประชาธิปไตย แต่ประเด็นหลักควรอยู่ที่เราจะหาทางออกจากวงจรอุบาทว์ ที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นได้อย่างไร เพื่อให้ประเทศได้ประโยชน์มากที่สุด

     ไอน์สไตน์ นักคิด นักวิทยาศาสตร์ เคยกล่าวไว้ว่า “ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของเรา จะไม่มีทางแก้ไขได้หากใช้วิธีคิดเหมือนกับตอนที่เราก่อปัญหานั้นขึ้นมา”

     ดังนั้น ในการแก้ปัญหา จึงจำเป็นต้องยอมเปลี่ยนแปลงถึงก้นบึ้งของความคิด อันเป็นคำเตือนอันชาญฉลาดแก่เราว่า เราไม่อาจนำวิธีคิดแบบเดิมๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหาในอดีตมาใช้แก้ปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันได้

     เราต้อง “ปฏิรูปความคิด” ของคนไทยทุกคนให้คิดนอกกรอบ เพื่อออกไปจากปัญหาเดิมให้ได้ ไม่ไปทำผิดซ้ำรอยเดิม โดยเฉพาะในส่วนนำของประเทศ คือ รัฐบาล เพราะปัญหาที่ทุกฝ่ายเผชิญอยู่คือ การหาทางออกให้กับประเทศ ไม่ใช่ของรัฐบาล หรือ กลุ่มคณะใด

     และในนามของผู้นำประเทศ จำต้องสง่างามในนามของทุกคน ผู้นำที่แท้จริงต้องมีความกล้าหาญทางการเมือง ต้องกล้ารับผิดและกล้าขอโทษต่อประชาชน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ใหม่กว่าเดิม ไปสู่สังคมสงบสุขและสันติตลอดเส้นทาง

     ผู้นำทางการเมือง จึงอย่าเป็นเพียง “นักเลือกตั้ง” ที่ไม่ควรค่าแก่การบันทึกให้จดจำแก่อนุชนรุ่นต่อไป

                    ทิพย์พาพร ตันติสุนทร

                    ผู้อำนวยการร่วม สถาบันนโยบายศึกษา

From : http://www.fpps.or.th