สถาบันนโยบายศึกษา : Institute of Public Policy Studies (IPPS)

เดินไปข้างหน้าประเทศไทย โปรดทบทวนอีกครั้ง

แม้การเลือกตั้งจะผ่านไปด้วยดี อีกทั้งมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย และแม้ว่าความขัดแย้งทางความคิดทางการเมืองจะยังตกค้างอยู่ในสังคม แต่ ณ วันนี้ ทุกฝ่ายต้องพยายามจัดที่ทางให้ความขัดแย้งและความเรียกร้องต้องการของทุกฝ่ายได้เข้าไปอยู่ภายใต้การบริหารจัดการในครรลองของระบอบประชาธิปไตย

พูดให้ชัดแบบไม่ให้ติดลบ เราต้องช่วยกันนับหนึ่งกันอีกครั้งสำหรับประเทศไทย

เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาลก็จะให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาปากท้องเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้องมีความต่อเนื่อง เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนแตะต้องได้และได้รับผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ด้อยโอกาส ผู้ที่มาดูแลกำกับนโยบายเศรษฐกิจของประเทศจำเป็นต้องมีความรู้ลึกทั้งเรื่องในประเทศและต่างประเทศ เพราะระบบเศรษฐกิจมีลักษณะพึ่งพิงอิงกัน ไม่สามารถอยู่แยกแบบโดดเดี่ยวกัน ประเทศไทยต้องทำมาค้าขายกับคนทั้งโลก

เรื่องการเมือง เสถียรภาพทางการเมืองเป็นเรื่องใหญ่ เศรษฐกิจจะดีก็อยู่ที่ผู้บริหารประเทศซึ่งเป็นนักการเมือง การสร้างความมั่นคงทางการเมืองเพื่อประคองระบอบการปกครองให้อยู่ได้ตามกติกา และแน่นอน การเมืองในระบอบประชาธิปไตยซึ่งเป็นกระแสหลักของโลกที่ประเทศไทยก็อยู่ในนี้ด้วย จำเป็นที่เราจะต้องสร้างให้การเมืองมีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมประชาธิปไตย ให้มีการรับฟัง มีการแสดงออกที่รับผิดชอบ ไม่ไปละเมิดผู้อื่น ไม่สร้างวาทกรรมทางการเมืองที่นำไปสู่ความร้าวฉาน ซึ่งผู้นำทางการเมืองต้องแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่าง แต่โดยทั่วไปนักการเมืองไทยมักเป็นผู้ทำลายบรรยากาศเสียเอง ทั้งที่พวกเขาล้วนเดินอยู่แถวหน้าสุดของกระบวนการประชาธิปไตย

เรื่องการศึกษา นอกจากจะเป็นเรื่องสำคัญที่นักการเมืองส่วนใหญ่มองข้ามแล้ว ยังเป็นเรื่องหลักของทุกเรื่องในการขับเคลื่อนทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศ แม้แต่ในคำประกาศแถลงนโยบายของรัฐบาล ก็ไม่ได้แสดงถึงความสำคัญต่อการปฏิรูปการศึกษาอย่างชัดเจน แม้ว่าขณะนี้เราอยู่ในรอบที่สองของการปฏิรูปการศึกษาช่วงปี 2553-2561 ซึ่งต้องการความสามารถของพลเมืองที่มีความรับผิดชอบสูงทั้งต่อตนเองและสังคม ไม่ให้คนไทยถูกชักจูง ครอบงำ เดินตามหลังใครง่ายๆ โดยขาดข้อมูล ความรู้ ความคิด และวิจารณญาณอีกต่อไป การสร้างพลเมืองให้ฉลาดคิด ปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและโลก จึงเป็นเงื่อนไขหลักให้คนไทยเป็นพลเมืองที่พึ่งพาตนเองและช่วยเหลือส่วนรวมได้ อีกทั้งยังจะสามารถนำพาประเทศก้าวสู่ประชาคมนานาชาติได้ด้วย การศึกษาเช่นนี้จึงอยู่ในวิถีของประชาธิปไตยอีกด้วย

การศึกษาที่ผ่านมาทำให้เราล้าหลัง การเมืองที่แล้วมาทำให้เราถอยหลัง และสร้างภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลใหม่ที่ประกาศออกมาไม่มีวาระสานต่อการปฏิรูปการศึกษา หากจะนับหนึ่งแล้วเดินไปข้างหน้า โปรดทบทวนนโยบายหลักเรื่องการศึกษาเป็นเรื่องเร่งด่วนพอๆ กับเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง เพราะการสร้างความสามารถของพลเมืองที่อยู่ในทุกสาขาอาชีพของสังคมนั้น เราจะได้ความเข้มแข็งทั้งทางเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการเมืองไปพร้อมกัน

ทิพย์พาพร ตันติสุนทร

ผู้อำนวยการร่วม สถาบันนโยบายศึกษา

From : http://www.fpps.or.th