สถาบันนโยบายศึกษา : Institute of Public Policy Studies (IPPS)

พลังบวก อย่าฝากความหวังไว้กับใคร

ในสถานการณ์ความอ่อนไหวและเปราะบางของการเมือง และลามไปถึงสังคมทุกระดับ ขณะนี้การจะขยับพูด จะแสดงออกอะไร หรือแม้แต่การแต่งกายใส่เสื้อสีอะไรก็ต้องรอบคอบ ไม่ให้เกิดการสะท้านไหว อย่าว่าแต่นอกบ้านเลย แม้แต่ในบ้านก็ยังเครียด

ทุกๆ วันที่ดำรงอยู่คือความอึดอัด รู้สึกไม่อิสระ ไม่มีความสุข ตั้งแต่คนจนถึงคนรวย ตกอยู่ในฐานะเดียวกัน ในฐานะผู้ร่วมทุกข์ของชาติ

หลายคนอาจเคว้งคว้าง แต่หลายกลุ่มพยายามแสวงหาทางออก ปฏิรูปสังคม สมานฉันท์ หรือปรองดอง ฟังแล้วดูดี มีพลังบวก

กลุ่มพลังทั้งหลายทั้งที่เป็นข่าวอยู่ทุกวัน กับพวกพลังเงียบ พลังตรงกลาง และพลังที่ไม่ไว้ใจใคร จะสื่อสารภาษาทุกข์เดียวกันได้อย่างไรให้เข้าใจความทุกข์ซึ่งกันและกัน เพราะเชื่อว่าทุกวันนี้ไม่มีคนไทยที่รักชาติคนไหนมีความสุขแน่นอน

ทุกข์ เพราะ นักการเมืองมีภาพลักษณ์ตกต่ำ ไม่อยู่ในศีลในธรรม พูดจาส่อเสียดบิดเบือนข้อเท็จจริง เผาบ้านเผาเมือง ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เยาวชนเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

ทุกข์ เพราะ คนรวยเอาเปรียบคนจน คนมีการศึกษาเอาเปรียบคนขาดการศึกษา คนมีโอกาสเอาเปรียบคนต่ำต้อยด้อยโอกาส

ทุกข์ เพราะ การศึกษาของชาติไม่ช่วยทำให้คนฉลาด ลดละความเห็นแก่ตัว ปฏิรูปการศึกษาเน้นแต่เก่ง ดี มีสุข เฉพาะตัว ไม่เห็นหัวคนอื่น ชาติเลยเจริญแบบไม่พัฒนา

ทุกข์ เพราะ เสียงส่วนใหญ่ในประเทศไร้ที่ทำอยู่ทำกิน มีหนี้มีสินล้นพ้นตัว แต่ไม่มีสิทธิกำหนดชะตาชีวิตของตนเองได้ ไม่สมกับคำโบราณว่า “ทุกข์ของชาวนา คือทุกข์ของแผ่นดิน” หรือต้องรอให้ไม่มีคนปลูกข้าวให้กิน จึงจะรู้ซึ้งถึงความทุกข์แท้

วิกฤตขนาดนี้ลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ต้องช่วยกันพาย อย่ารอให้รัฐบาลช่วยคิดและเหมาทำแทน อย่าปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชักชวนให้ไปทะเลาะกันรุนแรง

ด้านตรงข้ามของความทุกข์คือความสุข แล้วจะหาความสุขอย่างไร โดยไม่เอาความทุกข์ซุกไว้ใต้พรม ทุกข์ทั้งหลายที่พูดถึงต้องได้รับการแก้ไข คนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพียงลำพังทำไม่ไหวแน่ ต้องอาศัยพลังปัจเจกคนละไม้คนละมือ ช่วยกันคิดไปข้างหน้า

สร้างความสุขให้เกิดขึ้นในประเทศให้ได้ ความสุขของแต่ละคน คือความสุขมวลรวม
ของชาติ

ความสุข คือการที่แต่ละคนได้รับเกียรติ ได้รับการยอมรับ และความเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน สมัยนี้เรียกว่า “สิทธิมนุษยชน”

อย่ามัวแต่เครียด โกรธแค้นเคือง คนไทยทุกคนนี่แหละล้วนมีส่วนผิด ต้องเปลี่ยนมันเป็นพลังบวก เพื่อการออกแบบสังคมใหม่ เป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับทุกความคิด ไม่ดูหมิ่นความคิดของคนอื่น และให้โอกาสผู้ที่ด้อยกว่าก่อนเสมอ

อย่าฝากความหวังไว้กับใคร มีแต่เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน ชีวิตแต่ละคนนั้นสั้นนัก แต่ประเทศต้องอยู่ยาวตลอดไปชั่วลูกหลาน ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกสันติภาพ และสันติสุขครั้งนี้ สร้างได้ด้วยมือของคนไทยทุกคนผู้เป็นเจ้าของประเทศจริงๆ

ทิพย์พาพร ตันติสุนทร

ผู้อำนวยการร่วม สถาบันนโยบายศึกษา

From : http://www.fpps.or.th