สถาบันนโยบายศึกษา : Institute of Public Policy Studies (IPPS)

อย่าลืม…เป็นบทเรียน

สังคมไทยได้เผชิญกับความท้าทายใหม่จากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นภายในประเทศ เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมนั้น มีราคาที่ต้องจ่ายไปกับการสูญเสียศักยภาพและภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งต้องใช้พลังและเวลาอันเป็นต้นทุนของสังคมไทยอีกมากแค่ไหนนั้น คนไทยต้องช่วยกันคิดและสังเคราะห์กันให้มาก

ความยึดมั่นถือมั่นของผู้นำทางการเมืองที่ว่ามาจากการเลือกตั้ง ไม่ต้องฟังใครนอกจากพรรคและพวกของตัวเอง เพราะคิดเช่นนี้ จึงยั่วยุและท้าทายให้คนลุกขึ้นมาพูด และทำให้เห็นว่า ประชาธิปไตยนั้น มีช่องทางอื่นอีก

บทเรียนความขัดแย้งครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นเด่นชัดว่าสังคมไทยไม่ได้ใส่ใจให้รู้เรื่องการเมืองอย่างจริงจัง สิ่งที่ควรรู้ก็ไม่ได้บอก-สอนให้เข้าใจ ดังเช่นคำว่า ประชาธิปไตย สิ่งที่เห็นและสอนให้ทำก็มีอยู่เรื่องเดียวจริงๆ คือ การหย่อนบัตรเลือกตั้ง ตั้งแต่สภานักเรียนยันสภาผู้แทนราษฎร

ความหมายและความสำคัญของประชาธิปไตยจึงไม่ได้มีมากไปกว่าการลงคะแนนเสียง แล้วหลังจากนั้นนักการเมืองก็ว่ากันเอง ประชาชนไม่เกี่ยวทั้งที่รัฐธรรมนูญก็บอกว่าอำนาจเป็นของปวงชน

เราจะทำอย่างไรให้กระบวนการทางสังคมได้หาทางออกจากความขัดแย้งที่เพิ่งผ่านไปไม่ให้เกิดขึ้นโดยใช้ความรุนแรงกันอีก เราจะสร้างพื้นฐานความเข้าใจและความตระหนักในการรู้ขอบเขตของการใช้สิทธิเสรีภาพและความเคารพในความเป็นมนุษย์ร่วมกันอย่างไร

เพราะความคิดที่ว่า ประชาธิปไตยคือการหย่อนบัตรเลือกตั้งนั้น จึงทำให้เกิดผลกระทบมากมายถึงเพียงนี้ หรือเพราะที่ผ่านมาเราไม่รู้ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงคืออะไร หรือเพราะเราใช้ได้เพียงผิวเผิน ทำให้การเมืองเป็นปัญหาและสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น

ไม่มีใครชอบประท้วง นักการเมืองและนักปกครองกลัวการต่อต้าน ประชาชนก็ไม่ชอบเพราะกลัวบ้านเมืองเดือดร้อนวุ่นวาย แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความขัดแย้งที่มีปัญหาการเมืองเป็นแก่นกลาง การยุติการประท้วงต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้อยู่ในอำนาจทางการเมืองจะเดินหน้าเผชิญเพื่อคลี่คลายกับปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วเร่งยุติด้วยการรับฟังและแก้ไข หรือหลบหลีกและท้าทายดังเช่นที่ผ่านมา

ได้เวลาสรุปบทเรียนร่วมกันทุกฝ่าย และอย่าลืมเหตุการณ์ร้ายที่เพิ่งผ่านพบ เพราะสิ่งที่เกิดนั้นเป็นสถานการณ์จริง อย่าได้ปลอบใจว่าเป็นเพียงฝันร้ายที่ผ่านไป

การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ด้วยการเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจต่อการใช้ระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และครบถ้วนในสังคมทุกระดับ จะเป็นเครื่องมือช่วยประชาชนไว้สกัดนักเลือกตั้งชั่วร้ายที่แฝงตัว แปดเปื้อนในสถาบันทางการเมืองของชาติให้หมดไป

ทิพย์พาพร ตันติสุนทร

ผู้อำนวยการร่วม สถาบันนโยบายศึกษา

From : http://www.fpps.or.th