
คุณจุลินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ พรรคประชาธิปัตย์ | จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคนำความเห็นประชาชนไปกำหนดนโยบาย ดังนั้นนโยบายของพรรคจึงให้ความสำคัญประชาชนเป็นอันดับแรก การเมืองจะต้องโปร่งใส สุจริต จัดการเรื่องทุจริต กระจายอำนาจ มีส่วนร่วม ให้มีกลไกประชาชนตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เช่น กฎหมายประชาพิจารณ์และการลงประชามติ ให้มีที่ปรึกษากฎหมายภาคประชาชน ให้ประชาชนสามารถเสนอกฎหมายถอดถอนผู้บริหารที่มาจากการเมืองได้
เรื่องกระจายอำนาจ ให้จัดสรรเงินรายได้ร้อยละ 35 แก่องค์กรปกครองท้องถิ่น ธุรกิจตั้งในท้องถิ่นต้องเสียภาษีให้ท้องถิ่น ทำประชาพิจารณ์เพื่อยกฐานะองค์กรปกครองท้องถิ่นที่พร้อมให้ปกครองตนเองเช่นเดียวกับ กทม. เรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ 15 ปี (อนุบาลถึงมัธยม) เพิ่มเงินต่อหัวเพื่อรักษาฟรีทุกคน เป็น 1,200 บาทต่อคนต่อปี รวมทั้งใช้บริการคลินิคได้ จ่ายเบี้ยเลี้ยงชีพคนชรา 500 บาทต่อหัวต่อเดือน
เศรษฐกิจชนบท จะขยายพื้นที่ชลประทานอย่างน้อย 1 เท่าตัว ตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียงตำบลละ 1 ล้านบาทภายใน 90 วัน ประกันภัยพืชผล ลดเงินเข้ากองทุนน้ำมัน และให้ทุกครัวเรือนใช้ไฟฟ้าฟรี 15 หน่วยแรก
เศรษฐกิจระดับบน พัฒนาการขนส่ง ทำถนน 4 เลน รถไฟรางคู่ ท่าเรือเชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน ปรับปรุงสนามบิน ลดภาษีนิติบุคคลเหลือร้อยละ 25 ใน 4 ปี
ปัญหาภาคใต้ ตั้งสำนักงานแก้ไขปัญหาชายแดน ใช้ยุทธการ พัฒนาเศรษฐกิจและวิถีชีวิตอิสลาม
หลังจากนั้นถึงคราวผู้สื่อข่าวซักถาม นโยบายที่ได้รับความสนใจมากคือเรื่องเรียนฟรี ซึ่งอยากรู้ว่าจะเอาเงินมาจากไหน ทั้งพลังประชาชนและประชาธิปัตย์มีตัวเลขค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกัน คือ ปีละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะนำมาจากงบประมาณประจำปี ที่จริงแล้วทั้งผู้สื่อข่าวและผู้เข้าสัมมนาสนใจในคำถามว่าจะนำเงินมาจากไหนเพื่อใช้จ่ายในนโยบายประชานิยม ที่ทุกพรรคดูเหมือนจะมีคล้ายคลึงกัน แต่พลังประชาชนตอบชัดเจนที่สุดว่า จะเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งการส่งเสริมให้ไทยเป็น Medical Hub ส่วนรวมใจไทยชาติพัฒนามีแนวคิดที่ต่างออกไปคือ จะทำงบประมาณแบบขาดดุลและลดอัตราภาษีเพื่อให้เก็บภาษีได้มากขึ้น |